กรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าขายส้มตำ อยู่บริเวณปากซอยพระรามหก ซอย 22 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.บก.น.1 ทั้งชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนรวม 7 นาย นำโดยพ.ต.ต.บัญชา เจือจาน สว.ธร.สน.บางนา ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.บก.น.1 ด.ต.วรพล สันติพิริยาภรณ์ ผบ.หมู่ กก.บก.น.1
ร่วมกับพลเรือนอีก 3 คน ได้แก่ นายเชษฐา หรือต่อ นิ้วตำรวจและอีก 2 คนไม่ทราบชื่อ รวมทั้งสิ้น 10 คน ร่วมกันก่อเหตุกรรโชก และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
เรียกรับเงินอ้างเป็นค่าประกันตัว 50,000 บาท สืบเนื่องจากตำรวจค้นบ้านจับลูกสาวข้อหาครอบครองไอซ์ นำตัวไปที่กก.สส.บก.น.1 แต่ไม่ได้ถูกควบคุมตัวไว้ นายศักดิ์ชัย จึงพาลูกสาวกลับบ้านก่อนถูกตำรวจย้อนมาจับกุมในความผิดผู้ต้องหาหลบหนี
พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 ได้มีคำสั่งย้ายตำรวจกก.สส.บก.น.1 ทั้ง 7 นายตำรวจ ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.1 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 ก.ย. พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า ส.ต.ท.วีระชัย อ่อนสะอาด ผบ.งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ใน 7 ที่มีคำสั่งย้ายได้มาชี้แจงว่า ไม่ได้อยู่ในชุดปฏิบัติการดังกล่าว และวันเกิดเหตุทำงานอยู่อีกที่หนึ่งร่วมกับชุดปฏิบัติการยาเสพติดของ บก.น.1
ตนจึงให้ ส.ต.ท.วีระชัย ไปพบกับผู้เสียหายเพื่อดูตัวให้แน่ใจอีกครั้ง พอผู้เสียหายเจอหน้ายืนยันว่า จำคนผิด เนื่องจากมีหน้าตาคล้ายตำรวจที่ก่อเหตุ
ผบก.น.1 กล่าวว่า หลังจากนั้นผู้เสียหายได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อถอนแจ้งความ ส.ต.ท.วีระชัย หัวหน้าพนักงานสอบสวนก็ทำรายงานเสนอขึ้นมาที่ตน จึงออกคำสั่งให้ ส.ต.ท.วีระชัย ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม
แต่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงยังต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยรอผู้ถูกกล่าวชี้แจง ขณะนี้มีผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจ 6 นาย และพลเรือน 3 คน สำหรับพลเรือนที่เข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากการทำงานร่วมกับตำรวจจับกุมผู้ที่เกี่ยวกับยาเสพติด การล่อซื้อก็ต้องมีพลเรือนมาเกี่ยวข้องด้วยอยู่แล้ว ตำรวจที่ร่วมก่อเหตุไม่ใช่ ส.ต.ท.วีระชัย ผู้เสียหายก็ไม่ได้แจ้งว่าเป็นใคร
ส่วนความคืบหน้าสำนวนคดีนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจและพลเรือนพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับก่อนติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
