ฟาร์มควาย มรดกจากรุ่นพ่อ ที่ ดาบแสน สานต่อและเอาใจใส่อย่างดี ควบคู่กับความรับผิดชอบในอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
มรดกจากพ่อแม่อันมีค่ายิ่ง ที่ได้ให้อาชีพตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานให้สานต่อ สร้างธุรกิจ ลงทุนลงแรงเอาไว้ตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้มีรายได้จุนเจือครอบครัวลืมตาอ้าปากได้ไม่ยากลำบาก
เช่นเดียวกับธุรกิจฟาร์มควายของ ดาบแสน-ด.ต.มณีกาพย์ สีนวนนอก ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จะเรียกว่าเป็นอาชีพแรกก่อนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตได้เห็น ได้สัมผัสผูกพันกับฝูงควายมาตลอด
ปัจจุบัน ด.ต.มณีกาพย์ สืบทอดกิจการทำฟาร์มควายของครอบครัว ควบคู่ไปกับอาชีพข้าราชการตำรวจ บริหารจัดการเวลาทำงานในหน้าที่รับผิดชอบให้เหมาะสมลงตัวไม่ทำให้งานเสียหาย
“บ้านเกิดพื้นเพผมเป็นคน อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่ผมเกิดคุณพ่อมีอาชีพทำฟาร์มควายอยู่แล้ว จึงอยากสานต่อฟาร์มควายจากคุณพ่อ ในจ.ขอนแก่น ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมทำฟาร์มควายกันมาก”
ดาบแสน-ด.ต.มณีกาพย์ เกริ่นถึงฟาร์มควายของเขาด้วยว่า เลี้ยงอยู่ในเนื้อที่ 8 ไร่ 3 งาน พื้นที่ อ.หนองนาคำ
“ตอนนี้มีประมาณ 20 ตัว แต่ก่อนมีมากกว่านี้ แต่มีคนมาขอซื้อไปบ้าง จะมีทั้งควายสวยงาม และขายเป็นเนื้อ ในจำนวน 20 ตัว คัดเอาไว้เป็นควายสวยงาม 8-9 ตัว“
“ฟาร์มของผมเคยส่งควายเข้าประกวด ได้รับรางวัลควายเผือกสวยงาม อันดับที่ 3 ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) มาแล้ว”
เมื่อถามถึงรายได้จากฟาร์มควาย ด.ต.มณีกาพย์ บอกว่า ถ้าควายสวยงามจะมีคนที่ชื่นชอบมาขอซื้อไปเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธ์ ราคาหลักแสน ถึงหลักล้าน บางตัวเคยขายไปราคาสูงสุดล้านกว่าบาท ส่วนควายเนื้อราคาขายตัวละ 10,000-50,000 บาท
ตอนจะขายควายต้องเลือกช่วงเวลาให้ดี อย่างตอนช่วงตลาดเพิ่งเปิดซื้อขาย ผู้ที่รับซื้อจะให้ราคาสูง
รายได้จากการทำฟาร์มควาย คิดเป็นเดือนไม่ได้ เพราะแต่ละเดือนไม่แน่นอนขายได้มากบ้างน้อยบ้างกะเกณฑ์ไม่ได้ ถ้าเฉลี่ยเป็นปีรายได้ก็พอๆกับเงินเดือนตำรวจ สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างไม่เดือดร้อน
ด้านการดูแลเลี้ยงควายในฟาร์ม ดาบแสนบอกว่า เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการดูแลให้อาหาร ควายเลี้ยงไม่ยากกินฟาง กินหญ้าเป็นอาหารหลัก ส่วนเวลาที่ต้องเข้าเวรรับราชการที่สถานีตำรวจ จะมีคุณพ่อและจ้างคนงานมาช่วยผ่อนแรง
ด.ต.มณีกาพย์บอกด้วยว่า ว่าไปแล้วโชคดีที่มีธุรกิจฟาร์มควายเหมือนเป็นอาชีพที่ 2 ที่คุณพ่อวางรากฐานเอาไว้ให้ตั้งแต่เกิด
อย่างไรก็ดี การจะสืบสานให้ดีและรักษาให้มั่นคงยั่งยืนต่อไปในอนาคต ถือว่าเป็นการบ้านข้อใหญ่
เพราะทำฟาร์มต้องเจียดเวลาไปดูแลเอาใจใส่ให้ดี ควบคู่กับอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ต้องรับผิดชอบดูแลประชาชนเป็นหน้าที่หลัก และไม่ให้งานราชการบกพร่อง
ปร์วีร์16/11/68
