ลูกชายคนที่ 2 จาก3 คนของ พล.ต.ท.สุนทร นุชนารถ อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
พี่ชายคือ รองเม่น พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ส่วนน้องชายคือ มิก-พ.ต.อ. พงศ์พันธ์ นุชนารถ
ที่มาในการสวมเครื่องแบบสีกากี เป็นความตั้งใจของ ผู้การไมค์–พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ เพราะเติบโตอยู่ในรั้วโรงเรียนนายร้อยตั้งแต่เด็ก เจ้าตัวบอกว่า
คุณพ่อก็เป็นตำรวจ สมัยเด็กๆไม่รู้จักอาชีพอื่น อยู่ในแวดวงสภาพแวดล้อมของตำรวจ เลยฝังใจ อยากจะเป็นตำรวจ เจริญรอยตามคุณพ่อ และพี่ชาย มุ่งมั่นเข้าเตรียมทหาร รุ่น 34 นรต.รุ่น 50
จัดเป็นนายตำรวจคุณภาพ เพราะนอกจากจะได้ปริญญาตรีโรงเรียนนายร้อยตำรวจ : รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต ยังจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ต่อด้วยปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล : สังคมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาอาชญวิทยา และเนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา : สมัยที่ 59
ไม่เท่านั้น ยังจบหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 72 หลักสูตรสว.รุ่นที่ 70 หลักสูตรผู้กำกับการรุ่นที่ 85 หลักสูตรการบริหารงานตำรวจชั้นสูง (บตส.)รุ่นที่ 47 หลักสูตรการศึกษาอบรมเพิ่มเติม หลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย (สบพ.)
หลักสูตรอื่นๆมากมาย อาทิ การฝึกอบรมเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ กองบัญชาการตำรวจตะเวนชายแดน หลัก สูตรองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายด้านกัมมันตภาพรังสี สาธารณรัฐสัง คมนิยมเวียดนาม หลักสูตร การตอบสนองระหว่างประเทศ
โรงเรียนฝึกกองเรือรบพิเศษ เมืองกาตุรันดา ประเทศศรีลังกาหลักสูตร Supervisory Criminal Investigation Course : Session 21 International Law Enforcement Academy,ILEA BANGKOK. หลักสูตร การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ Ministry of Commerce People’ Republic China.
รางวัลที่ได้รับมากโข – การปฏิบัติงานดีเด่น ของ บช.ก. พ.ศ.2551 – รางวัลพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชนดีเด่น (สภ.สระบัว จ.ปราจีนบุรี) พ.ศ.2555 – การปฏิบัติหน้าที่ด้านยาเสพติดดีเด่น ระดับ กองบังคับการ พ.ศ.2564
ผลงานเป็นที่ประจักษ์ – เป็นผู้สั่งสอบคดีการทุจริตงบอุดหนุน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(คดีเงินทอนวัด) – เป็นผู้ริเริ่มการสร้างศูนย์ ตรวจยานพาหนะต้องสงสัย (SVCC-Suspect vehicle Command Center) บก.ทล. – เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดบก.ทล.
เส้นทางรับราชการ
หลังจบนรต.50 พ้นรั้วสามพราน พ.ศ.2541 บรรจุเป็นพนักงานสอบสวน (สบ 1) ผ.5 กก.2 บก.ทท. พ.ศ.2543 พนักงานสอบสวน ผ.2 กก.3 บก.ป. พ.ศ.2545 รอง สว.ผ.3 กก.2 บก.ป. พ.ศ.2546. นว.ผบก.ทท.(พล.ต.ต.วุฒิ ลิปตพัลลภ) พ.ศ.2547 สว.ส.ทท.7 ประจวบคีรีขันธ์ กก.2 บก.ทท. พ.ศ.2548 สว.ส.ทท.1 (บก.น. 1-3) กก.1 บก.ทท. พ.ศ.2551 สว.ส.ทล.2 (ราชบุรี) กก.7 บก.ทล.
พ.ศ.2553 รอง ผกก.ฝอ.1 บก.อก.บช.ก. พ.ศ.2554 รอง ผกก.4 บก.รน. พ.ศ.2555 สวญ.สถานีตำรวจภูธรสระบัว พ.ศ.2555 ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว พ.ศ.2557 ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ศ.2559 ผกก.1 บก.ปปป. พ.ศ.2561 รอง ผบก. สืบสวนสอบสวน บก.สส.จชต. พ.ศ.2562 รอง ผบก.ทล พ.ศ.2565 ผบก.รน.
กำลังพล13 กองกำกับ 1,600นาย
กำลังพลตำรวจน้ำ มี 1,400 นาย อัตราเต็มมี 1,600 นาย มี 12 กองกำกับ แต่ 12 กก.เ ป็น กก.ที่มีพื้นที่รับผิดชอบ 9 กก.ส่วนอีก 3 กก.เป็น กก.สนับสนุน กก.1 เป็นเรื่องเกี่ยวกับช่าง กก.2 เป็นเรื่องปฏิบัติการพิเศษ ชุดมัจฉานุ หรือชุดปฏิบัติการพิเศษ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย กก.3 เป็นเรื่องของการประสานงานต่างประเทศ การดูแลรักษาความเรียบร้อย ประสานงานต่างประเทศ
ผู้การไมค์เริ่มอินไซด์กองเรือตำรวจให้ฟัง
กก.4 -12 เป็นกองกำกับพื้นที่ กก.4 คลองเตย กก.5 ศรีราชา กก.6 สุราษฎร์ฯ กก.7 สงขลา กก.8 ภูเก็ต กก.9 ตรัง กก.10 มุกดาหาร กก.11 หนองคาย และ กก.12 เชียงรายและฝ่ายอำนวยการอีก 1 กก.
1 กองเรือ 3 นายพล
มีกลุ่มงานเรือตรวจการณ์อีกกลุ่มหนึ่ง เขาเรียกว่า กรต. มี ผกก.อีก 6 คน ที่อยู่ ส่วนกลาง แล้วยังแยกไปอีกส่วนจะอยู่กับศรชล เพราะฉะนั้น ตำรวจน้ำ จะมีผู้การ 3 คน ผมนี่ เป็นหลัก ผู้การกลุ่มเรือ เป็นผู้การที่ 1 ผู้การที่ 2 แล้วผู้การที่ 3 คือผู้การศรชล
หลักๆคือผม สั่งการ ประสานงานกัน คือทั้งหมดขึ้นการบังคับบัญชาส่วนใหญ่กับผม
คุมกองเรือร่วม200ลำ
สำหรับเรือที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ มีประมาณ 180 ลำ แต่ที่ใช้งานได้ดี มีประมาณ 150 ที่เหลือเป็นเรือที่รอจำหน่าย หรือว่า สภาพการใช้งานไม่สมบูรณ์ แต่ท่าน ผบช.ก.(พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช)ท่านเห็นความสำคัญ พยายามสนับสนุนให้มีเรือปฏิบัติ เอามาหมุนกับเรือที่เก่าๆ ให้เราสามารถใช้การได้
ชุดปฏิบัติการพิเศษ”มัจฉานุ”
แล้วยังมี มัจฉานุ เป็นงานปฏิบัติการพิเศษทางน้ำ เวลาที่จะต้องไปปฏิบัติการ หรือจะต้องไปดำเนินการ อย่างสมมติว่า สถานที่สำคัญอยู่บริเวณริมน้ำ แล้วจะต้องอพยพ หรือช่วยเหลือตัวประกัน ต้องใช้ชุดทางน้ำช่วย
ยกตัวอย่าง ตอนที่มีประชุมเอเปก ที่ผ่านมา เขาต้องฝึกซ้อมใช้แผน ในการเคลื่อนย้ายบุคคลสำคัญ อย่างเช่นของจีน จะส่งเพื่อลงเรือ ก็ต้องมาซ้อมแผน ต้องมาดู จะต้องส่งคนขึ้นลงอะไรยังไง
แกร่งเหมือนคอมมานโด
อีกอย่างที่ต้องใช้ สำคัญเลย คือเรือพวกนี้ เวลาที่จะต้องเอาไปปฏิบัติการ หรือว่ามีการกระทำความผิดทางน้ำ ก็จะต้องเอาไปใช้ จะต้องไปดูยังไง หรือว่าเข้าไปเทียบยังไง ก็ต้องพิเศษ ดังนั้น หน่วยนี้ นอกจากปฏิบัติการทางน้ำแล้ว ต้องสามารถปฏิบัติการทางบกได้ด้วย เหมือนคอมมานโด
แจงอาชญากรรมทางทะเล
สำหรับปัญหาอาชญากรรมทางน้ำที่รับผิดชอบป้องกันปราบปราม ในส่วนของทะเล ของแม่น้ำโขง หรือแม่น้ำเจ้าพระ ยา จะแตกต่างกัน ทางทะเล ส่วนใหญจะเป็นการลักลอบขน อาจจะเป็นน้ำมัน สิ่งของผิดกฏหมาย อีกส่วนหนึ่ง เป็นเรื่องของประมงต่างชาติรุกล้ำน่านน้ำ หรือการประมงที่ผิดกฎหมาย มีหลายรูปแบบ แบบชาวบ้านก็ว่ากันไป
สกัดประมงต่างชาติล้ำน่านน้ำ
แต่อีกรูปแบบหนึ่งคือประมงของต่างประเทศที่เข้ามา เช่น เวียดนาม หรือประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ที่เข้ามาลักลอบทำประมงบ้านเรา เพราะมีสัตว์บางประเภทที่ประเทศเราไม่กิน เช่น ปลิงทะเล เราเห็นเราทิ้งแต่เขากิน ก็จะมีเรือพวกนี้เข้ามา มาที 5-10 ลำ หรือ 20 ลำ เดี๋ยวนี้ระบบเทคโนโลยี เราพอรู้พอจับได้ว่าเรือพวกนี้ เข้ามาหรือไม่เข้ามา
บางครั้งมาเป็นคอนวอย
อย่างที่บอก บางทีเขามา 20 ลำ เราไปจับก็เคยมี พยายามดึงดัน สู้กัน หรือขวางเรือ อะไรอย่างนี้ ก็นั่นกันไป แต่ต้องบอกว่าอันนี้ส่วนหนึ่งก็คือการประมงที่ผิดกฎหมาย ประมงต่างชาติ เรื่องน้ำมันเถื่อน ตำรวจน้ำก็ถือว่าผลการปฏิบัติ ถ้าเทียบใน ศปนม.นะ น่าจะเยอะสุดใน ศปนม.อยู่แล้ว
แม่น้ำโขงเน้นแก๊งยา-ลักรถ
อย่างแม่น้ำโขง ส่วนใหญ่จะเป็นการลักลอบขนของข้ามไปมาระหว่างกัน ที่โฟกัสมากที่สุดคือการโจรกรรมรถ ประสานอยู่กับกองปราบ แล้วคอยดูเรื่องข่าว แต่ด้วยระยะทางที่มันกว้างไปได้ทุกทิศทาง อีกอย่างหนึ่ง คนกระทำความผิด มันก็ซุ่มดู ว่ามีเจ้าหน้าที่ไหม ก็เจออยู่บ้าง ทั้งโจรกรรมรถ ทั้งยาเสพติด ที่ข้ามไปมาระหว่างกัน ไม่นานมานี้ ก็จับที่บึงกาฬ ยาบ้าเกือบ 2 ล้านเม็ด
แก๊งแมวน้ำอีกปัญหาใหญ่
อีกปัญหาคือแก๊งแมวน้ำ ปัญหาหลักๆคือ เวลาเขาขนของมา บางส่วนมีประกันความเสียหาย ตอนหลังได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานสมาคมผู้ส่งออก ไม่ว่าจะเป็นข้าว แป้ง น้ำตาล อะไรก็แล้วแต่บอกว่าขอให้ไว้ใจ มาแจ้งเรา ส่วนใหญ่ปัญหาคือของหายจะไปรู้ที่ปลายทาง
ต้นเหตุทำค่าประกันสูง
คือเขามีค่าเออเร่อร์ จริงๆไม่ใช่สำหรับของหาย แต่สำหรับการตวง วัด การปลิว เออเร่อร์ทั้งหมดเขามี 3% เรียกว่า ถ้าจากนี่ไป 100 แล้วไปวัดทางโน้น ได้ 97% เขารับได้ คนที่จะต้องเสียคือบริษัทประกัน ทีนี้พอไปรู้ปลายทางแต่ละที่แล้วถ้าเราไม่ดำเนินการ จะทำให้ค่าประกันสูงขึ้นเรื่อยๆ
ท่านผบช.ก.ก็บอกว่าคดีนี้เป็นความสำคัญ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียว ท่านให้กองปราบ รับผิดชอบเรื่องการสอบสวน
“บิ๊กก้อง”สั่งจับกุมเด็ดขาด
ล่าสุดที่จับ เป็นขบวนการ ผู้ต้องหา 5 คน เอาเรือไปเทียบขโมยกลางน้ำเลย เรือผู้เสียหายที่เรียกว่า เรือบาส ใหญ่มากกว่าตึกนี้ เวลาลงน้ำมันอาจจะขึ้นน้ำพ้นแค่เมตรสองเมตร แต่ข้างล่างนี่ลึกเป็นตึก 4 ชั้น พอมืดๆ กลางคืน มองไม่เห็น มันมืดมาก ไอ้นี่พอได้ของก็หนี อย่างที่บอก สุดท้ายก็ไปเอาค่าเออเร่อร์ 3% บริษัทรับผิดชอบไป
ท่านผบช.ก. บอกว่า ไม่ได้ อย่างนี้ต้องทำ ไม่งั้นค่าประกันก็สูง ประเทศไทยก็เสียหาย ตอนนี้ส่งชุดออกตรวจเป็นประจำ ถ้าเกิดพบการกระทำความผิดก็จับกุมดำเนินคดีให้เด็ดขาด
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เล่าต่อถึงภารกิจในฐานะ “เจ้าพระยา1”ผู้การตำรวจน้ำอีกว่า
อาชญากรรมทางน้ำ มันพัฒนารูปแบบขึ้นเรื่อยๆ คือตอนนี้เราทำงาน 2 ส่วน อย่างประมงพื้นบ้าน ทำอะไรผิดกฎหมาย บางทีประชาชนไม่เข้าใจผิดกฎหมายมันยังไง ก็เลยต้องบอก เช่น การลากหอยแครง หรือแม้กระทั่งรูปแบบของการจับกุม ต้องมีการพัฒนา มีการฝึกอยู่เรื่อยๆ เช่นการเข้าไปเทียบเรือ หรืออะไรต่างๆ
ใช้เฟซบุ๊กสื่อกับชาวบ้าน-ตำรวจ
ด้วยความที่เป็นหน่วยศูนย์กลาง เวลาสื่อสารกับตำรวจ บางทีการให้ความรู้เขา มันเป็นไดนามิค ก็ใช้การตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก สอนทั้งกฎหมาย ทั้งเรื่องการปฏิบัติต่างๆ เรื่องข้อที่เขาควรจะรู้ ที่ตำรวจควรจะรู้ จริงๆใช้มาตั้งแต่ตอนที่อยู่ทางหลวง แล้วเวลาตำรวจเขามีเวลา ก็เข้ามาดูในเฟซบุ๊ก เหล่านี้ ที่จะใช้ในการเรียนรู้ต่างๆ
แลกเปลี่ยนความรู้กับต่างประเทศ
อีกส่วนหนึ่ง ตำรวจน้ำเป็นตำรวจหน่วยที่ต้องประสานกับต่างประเทศเยอะ เท่าที่มาอยู่นี่ น่าจะ 4-5 ประเทศแล้ว แต่ละประเทศ บางทีเขาอยากจะขอความร่วมมือเราในการเรียนรู้
อย่างเช่น ออสเตรเลีย ถามว่าช่วงนี้ทำไมโรฮีนจา ถึงผ่านประเทศไทย ไม่เข้าเขตเรา ทำไมไปถึงออสเตรเลียเยอะ อ๋อ ช่วงนี้น้ำแถวนั้น มันไม่มีมรสุม ก็เลยไป คือ เขาขอความร่วมมือในการที่จะเรียนรู้ เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็ค่อนข้างดี เวลามา ก็จะมาดูศักยภาพของหน่วยตำรวจเรา
เรื่องจิตอาสา อย่างกรณีน้ำท่วม ก็ไปทุกที่ จัดตั้งเป็นศูนย์ด้วย น้ำท่วมที่ผ่านมา ตอนนั้นประชาชนหลายคน อยากจะช่วยสนับสนุนสิ่งของ ไม่รู้จะบริจาคตรงไหน เรานี่เป็นหน่วยรับผิดชอบ ก็บอกว่าถ้าประชาชนอยากจะช่วยเหลือหรือสนับสนุน สามารถส่งมา เป็นเคอรี่ เป็นอะไรมา ขอเป็นของ ไม่ขอเป็นเงิน ส่งมาเราก็รวบรวมไปบริจาค เยอะแยะมากมาย เป็นหน่วยที่เป็นเซ็นเตอร์ ในการรับของบริจาค
ทั้งหมดนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของภารกิจสำคัญตำรวจน้ำ ภายใต้การกำกับดูแลของ เจ้าพระยา1-พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.ครับ
กากีกลาย30/4/66
