รองต่อ-ชัยวุฒิ แถลงสรุปภาพรวมยุทธการซัตดาวน์(ตัดสาย) ทลายขบวนการโยงสายเน็ตเชื่อมเขมร พบจนท.รัฐรู้เห็นเปิดช่องทำมา12ปี ต้นตอคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย
วันที่ 15 ธ.ค.65 ที่บช.สอท. เมืองทองธานี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร ,พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงฯ
ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 6 เป้าและจุดเชื่อมต่อชายแดน 1 จุด ในจังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรี ตามยุทธการ SHUT DOWN (ตัดสาย) และระดมกวาดล้างจับกุมบัญชีม้าทั่วประเทศ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 65 มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนหลอกให้ลงทุน กลุ่มคนร้ายได้เปิดเว็บไซด์ชื่อ AMATA ชักชวนให้ลงทุน มีการเสนอผลตอบแทนสูงกว่าที่สถาบันการเงินทั่วไปให้ได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุน ต่อมาเมื่อครบกำหนดกลับไม่ได้ผลตอบแทนตามที่ตกลง เมื่อขอเงินคืน กลับถูกให้นำเงินมาลงทุนเพิ่มอีก รวมเสียหาย 257,115.16 บาท แจ้งความร้องทุกข์ผ่านwww.thaipoliceonline.com
ต่อมาชุดสืบสวนได้ตรวจสอบพบมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) ที่มีนายมโนรม สม( MR.MONOROM SOM ) ชาวกัมพูชา เป็นผู้ยื่นคำขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับองค์กร ตรวจพบมีค่าบริการรายเดือนกว่า 200,000 บาท เป็นการขอใช้บริการภายในประเทศ
แต่เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ ไม่พบจุดติดตั้งอินเตอร์เน็ตภายในประเทศดังกล่าว ตรวจสอบทางเทคนิคพบมีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา สอดคล้องกับข้อมูลของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ไม่พบว่ามีสัญญาให้ใช้บริการระหว่างประเทศแต่อย่างใด เชื่อว่ามีการลักลอบนำสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากประเทศไทยเข้าไปใช้ในกัมพูชา
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวจะนำไปสู่การตัดวงจรขบวนการคอลเซ็นเตอร์ให้ได้มากที่สุด จะเน้นในเรื่องของการตัดวงจร ซิม-สาย-เสา ในส่วนของซิม ได้ปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้าง ตรวจยึดซิมโทรศัพท์มากกว่า 2 แสนเบอร์ ส่งผลให้สถานการณ์ลดลงไปกว่าร้อยละ 25
แต่สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือเรื่องของสายและเสา หากสามารถตัดสัญญาณที่มีการลักลอบลงได้ จะทำให้สถานการณ์เบาลงได้เยอะ เพราะขบวนการนี้ทำมานานกว่า 12 ปี มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ขั้นตอนต่อไป บช.สอท. ได้ร้องทุกข์ต่อ บก.ปปป. ให้ดำเนินการ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตามมาตรา 157 ต่อไป และหากพบว่าใครมีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำความผิด เป็นตัวการในการสนับสนุนจะต้องดำเนินการตามม.83 อีกด้วย
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายมโนรม สม เดินทางเข้า-ออก ไทยอยู่บ่อยครั้ง ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ภายในประเทศกัมพูชา กลุ่มลูกค้าส่วนมากเป็นกลุ่มที่ทําผิดกฎหมาย เช่น กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มทําเว็บไซต์การพนันออนไลน์
นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงระหว่างนายมโนรม สม กับนายอภิรักษ์ หรือเสี่ยโป้ ชัชอานนท์ พบว่า มีการใช้หมายเลขไอพีแอดเดรส 122.154.105.68 ทํารายการโอนเงินในการฟอกเงินที่ได้จากการกระทําผิด ตรวจพบเป็นของบริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) หรือ CAT ระบุชื่อผู้ขอ ใช้บริการอินเทอร์เน็ตคือนายมโนรม หลังจากนี้อยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมต่อไป
ด้านนายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขอชื่นชมสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้เอาจริงเอาจังในการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ วันนี้สามารถจับกุมได้ทั้งบัญชีม้า ทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ต และผู้ที่ลักลอบนำสัญญาณไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ทำให้เกิดกระบวนการหลอกลวงต่าง มาดำเนินคดีได้จำนวนมาก ต่อไปถ้ามีการป้องกันเรื่องซิมที่ไม่ถูกต้อง สายอินเทอร์เน็ตที่ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านไม่ถูกต้อง อาชญากรรมเหล่านี้จะหายไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ปฎิบัติการดังกล่าวทั้ง 6 จุด พบพยานหลักฐานจากบ้านพักของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับขบวนการดังกล่าวแล้ว