แม้เวลาส่วนใหญ่ จะหมดไปกับการดูแลประชาชนจนหาเวลาส่วนตัวแทบไม่ได้
แต่ถ้ารู้จักแบ่งเวลาและใช้ให้คุ้มค่า ตำรวจก็อาจมีเวลาที่จะทำอาชีพเสริมได้นะคะ
เฉกเช่นนายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลที่ไม่เคยหยุดนิ่งคนนี้ พ.ต.อ.ภานุภัท กิตติพันธ์ หรือ ผกก.พัด (นรต.60) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
เขาบอกว่าโลกหมุนไปเร็วมากจึงไม่อยากปล่อยเวลาผ่านไป ชอบให้สมองได้ขับเคลื่อนอยู่เสมอโดยเฉพาะเรื่องการหารายได้เสริมเพิ่มเติมจากสิ่งที่ชอบ
“เพราะเราเป็นคนมีค่า”
ผู้กำกับพัดบอกว่า
ในเมื่อคนเรายังมีกิเลสมากมายอยากได้อยากมี จึงทำให้มีสารพัดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่ลำพังด้วยเงินเดือนตำรวจซึ่งเป็นอาชีพหลักและอาชีพที่รัก เพียงอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
ดังนั้นการสร้างอนาคตที่ดีจึงจำเป็นต้องมีอาชีพเสริมโดยมีคุณพ่อเป็นไอดอลเรื่องการรับงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้หลายทางซึ่งสามารถทำเงินได้มากกว่าการทำงานประจำจึงทำให้เขาโตมากับแนวคิดที่ว่า “อย่าฝากชีวิตไว้กับรายได้ทางเดียว”
ไอเดียบรรเจิดจึงเกิดขึ้น
“ผมเลือกอาชีพเสริมจากสิ่งที่ชอบ”
เป็นคำตอบสุดท้ายเพราะว่ามันไม่ได้หมายถึงเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่เราต้องมีความสุขไปพร้อมกันด้วย
ผกก.พัด เล่าว่า
ในชีวิตก็ทำธุรกิจมาหลายอย่างมี“ทั้งรุ่งทั้งล้ม”ผสมกันไปเจ๊งมาก็เยอะครับ (หัวเราะ) ก็ถือว่าผิดเป็นครู
ด้วยความที่ผมเป็นนักคิด เมื่อเห็นช่องทางอะไรแล้วคิดว่าทำได้ ก็กล้าตัดสินใจลงทุนทันทีโดยบางครั้งเรายังไม่มีประสบการณ์
อาชีพหลักต้องมาก่อน
ต้องยอมรับว่าอาชีพตำรวจนั้นเวลาไม่แน่นอนเลยทำให้ฝันที่ไกลแต่ไปไม่ถึงเนื่องจากเราไม่สามารถโฟกัสกับอาชีพเสริมได้เต็มที่เพราะความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตำรวจนั้นสำคัญมากเราต้องบทุ่มเทให้กับทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
จนสุดท้ายก็เริ่มเข้าใจว่าถ้าจะทำงานเสริมมันต้องไม่ใช่“งานเพิ่ม”แต่ควรเป็นงานอดิเรกที่เรารักและหลงใหลกับสิ่งนั้นจริงๆเพื่อไม่ให้เรากลายเป็น“The แบก”เดี๋ยวมันจะหนักเกินไป
หลังจากประชุมกับตัวเองจนได้ข้อสรุปว่า“กาแฟ–กับการดำน้ำ”เป็นสิ่งที่ทำให้ผมดื่มด่ำหรือจะเรียกว่า“ดื่ม–ดำ”ดีนะนี่แหละจึงเป็นที่มาของการทำร้านกาแฟและการสอนดำน้ำ 2 อาชีพเสริมที่เริ่มจากสิ่งที่ผมรัก
เรื่องกาแฟต้องบอกก่อนว่า “กาแฟ” เป็นเพื่อนสนิทของผมครับ สมัยเป็นรอง สว. และ สว. อยู่ในนครบาล ทุกเช้าหรือเวลาเข้าเวร ก็จะพาลูกน้องแวะร้านกาแฟ ร้านไหนเด็ด ร้านไหนดัง ไม่เคยพลาด
พอกินเยอะขึ้น เริ่มจำแนกรสชาติได้มากขึ้น จนอยากลองทำเอง เริ่มจาก Cold Brew เป็นผลิตภัณฑ์แรก ชงเอง ชิมเอง แล้วก็รู้สึกว่า “มันอร่อยนี่หว่า!” ก็เลยอยากแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ลอง
เลยเริ่มแจก… จากแจกก็กลายเป็นมีคนสั่ง ย้อนไปประมาณ 10 ปีได้ ผมน่าจะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ในไทยที่ทำโคลด์บรูว์ ใส่ขวดขาย ออเดอร์เดือนนึงเป็นร้อยขวดเหมือนกัน
จะไปต่อ…หรือพอแค่นี้ ?
เมื่อเริ่มขายดี ก็ยิ่งสนุก ผมเลยไปเรียนเพิ่มเติม ทั้งการชง การชิม การใช้เครื่อง จนไปไกลถึงเรียน “คั่วกาแฟ” เลยครับ แต่ยิ่งรู้เยอะ ก็ยิ่งเข้าใจว่ากาแฟที่เราทำขายตอนนั้น มันยังไม่ดีพอ ผมเลยหยุดขายแบบดื้อ ๆ ด้วยความรู้สึกรับผิดชอบต่อลูกค้า แม้จะไม่มีใครตำหนิเลยก็ตาม
แม้ภาระงานตำรวจจะเพิ่มขึ้น เวลาที่จะทุ่มให้กาแฟน้อยลง แต่ผมก็ยังไม่เลิกสนใจนะครับ ก็คนมันรักไปแล้ว ! เพียงแต่เปลี่ยนจากโคลด์บรูว์ มาเป็นการดริป และสุดท้ายก็เข้าสู่โลกของ “เครื่องชง Espresso แบบกดมือ”
จากความอินจนกลายเป็นแอดมินเพจ Manual Espresso บน Facebook ซึ่งเป็นกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการชงกาแฟด้วยมือ และจากเครื่องกดมือ กลายเป็นเครื่องชงจริงจัง
เลยชวนน้องสาวเข้าวงการ หวังให้มาช่วยดูแลกลุ่ม
ผลคือ น้องสาวผมดันอินกับกาแฟยิ่งกว่าผมซะอีก!
เธอตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็กๆในหมู่บ้าน ชื่อ“purrcupslowbar” ด้วยการลงทุนจากผม มีโต๊ะเพียง 4–5 ที่ เปิดเฉพาะวันเสาร์–อาทิตย์เท่านั้น เพราะเราทั้งคู่มีงานประจำ
จุดแข็งของร้านคือ ความใส่ใจเราชิมทุกแก้วก่อนเสิร์ฟ ถ้าไม่ดีพอก็ไม่เสิร์ฟ ทำให้ทุกสุดสัปดาห์ร้านแน่น ไรเดอร์จอดเต็มหน้าบ้านตลอด
ถามว่ากำไรดีไหม…
เงินส่วนใหญ่เอาไปซื้อเครื่องใหม่หมดครับ จากเครื่องกดมือกลายเป็นเครื่องชงเล็ก ๆ เมื่อรายได้เริ่มหมุนเวียนดีขึ้น น้องสาวก็อยากได้ “เครื่องคั่วกาแฟ” เพื่อจะได้คั่วเองและขายเมล็ดด้วย
ผมรีบอนุมัติเลยครับ เพราะตัวเองก็อยาก “เล่น”อยู่แล้วสำหรับผม ถ้ามันเป็นงาน เราจะเหนื่อย แต่ถ้าเป็นของเล่น เราจะสนุก และถ้าได้เงินด้วย มันคือความสุขครับ
เราค่อยๆ ปรับปรุงและพัฒนา จนมาเป็น “ร้านกาแฟ purr cup home café” อยู่ที่หมู่บ้าน การ์เด้นวิลล่า 5 ลำลูกกาคลอง 3 ลาดสวาย ปทุมธานี
ร้านกาแฟเล็กๆที่ สร้างรสชาติ ยิ่งใหญ่ สำหรับคอกาแฟ ตัวจริง ด้วยเราเป็น roaster เราจะมี เมล็ดกาแฟเด็ดๆ มาประจำการ ใหม่ๆ ตลอด
ส่วนขนมต่างๆ ก็ปรับตามฤดูกาล รสชาติมือแม่เพราะ ขนมอร่อยที่ร้านมาจากฝีมือแม่ผมล้วน ๆ ครับ
ส่วนคนที่สนใจสั่งเมล็ดกาแฟเราเปิดรับออเดอร์ตลอดครับ อย่างเช่น เมล็ดกาแฟ เบลน “ฝากตัวรับใช้นาย”
อันนี้ ผมเลือกคั่วมาเพื่อให้ เอาไปฝากเจ้านายโดยเฉพาะเหมาะกับเครื่องชงในสำนักงาน ผู้บังคับบัญชา รับรองว่ารสชาติอร่อยกลมกล่อม สั่งไปฝากเจ้านายกันได้เลยครับ
เรื่องดำน้ำ
จะเรียกว่า “อาชีพเสริม” ก็ไม่เต็มปาก เพราะรายได้จากการเป็นครูดำน้ำไม่ได้เยอะ แต่ใช้เวลาเยอะมาก
จุดเริ่มต้นของผมมาจากโอกาสที่ได้เรียนดำน้ำฟรี กับหน่วยซีลของกองทัพเรือ หลักสูตรนักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ (เพราะเรียนดำน้ำทั่วไปมันแพงครับ ต้องหาเรียนฟรีไว้ก่อน)
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงน้ำ ผมก็รู้เลยว่า… ผมขายวิญญาณให้ทะเลไปเรียบร้อยแล้ว ทุกครั้งที่มีวันหยุดผมจะต้องหาโอกาสลงเรือ ไปดำน้ำตลอด
แต่การดำน้ำมันแพงมาก จะออกทริปแต่ละทีต้องมีเงิน ผมเลยหาช่องทาง…
เพื่อนแนะนำว่า ถ้าเป็น “ Dive Master” จะได้ไปดำน้ำฟรี แถมบางทริปยังได้ค่าตอบแทนเล็กๆ อีกด้วย
ผมเลยเริ่มฝึกฝนเก็บชั่วโมงอย่างยาวนาน จนได้เป็น Dive Master และสุดท้ายก็เรียนต่อจนเป็นครูดำน้ำ
ทุกวันนี้ผมสามารถออกบัตรให้ผู้เรียนได้ และนักเรียนส่วนใหญ่ก็คือเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ตำรวจที่อยากสัมผัสโลกใต้น้ำ แต่ติดงบประมาณ
สำหรับผม… นี่อาจไม่ใช่กำไรในเชิงตัวเลข แต่คือกำไรทางความรู้สึก
ทุกครั้งที่ได้พาใครสักคนลงไปเห็นทะเลครั้งแรก แล้วตาเขาเป็นประกาย… ผมรู้สึกว่าผมได้คืนอะไรบางอย่างให้โลกนี้ครับ
หากมีคนสนใจจะเรียนดำน้ำยังรับอยู่ไหมติดต่อได้อย่างไร ?
รับครับ! ยิ่งเป็นตำรวจด้วยกันยิ่งยินดีเลย คิดแค่ต้นทุน ขอแค่มีใจ และเวลาเราตรงกันนะครับ 555 มาที่ กก.1 บก.ปอท. ได้เลยครับ
บริหารจัดการเวลาอย่างไรทั้งงานประจำและการทำอาชีพเสริม
“ไม่ได้ทำคนเดียว” และ “ต้องรักในสิ่งที่ทำ”
อย่างร้านกาแฟ ผมลงแรงสร้างแนวทางให้น้องสาวดูแลเป็นหลัก ผมจะเข้าแค่วันเสาร์–อาทิตย์ ตอนเย็นบางวันก็คั่วเมล็ดกาแฟเพิ่มเพื่อขายส่ง
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่จัดการเวลา แต่คือ “จัดการใจ” ถ้ามองว่าทำงาน 7 วันเราจะเหนื่อย แต่ถ้ามองว่าวันหยุดได้ “เล่นสนุก” กับของที่รัก อย่างกาแฟหรือทะเล มันกลายเป็นการพักผ่อนที่ได้เงินครับ
ช่วยฝากแง่คิดให้ตำรวจที่อยากทำอาชีพเสริมด้วยค่ะ
“งานตำรวจ” เราทิ้งไม่ได้ครับ หน้าที่ต้องมาก่อนเสมอ ฉะนั้นอาชีพเสริมก็ขอให้เลือกทำในสิ่งที่รัก เพราะเราจะทำมันได้ดีและมีความสุข
ถือว่าเป็นการผ่อนคลายช่วยชาร์จแบตเติมไฟ ให้เรามีพลังกลับไปทำงานประจำได้ดีด้วย แถมยังตอบโจทย์ให้เราสามารถทำทั้งงานหลักและอาชีพเสริมได้อย่างมีความสุขควบคู่กันไปครับ
นี่คืออีกหนึ่งแง่คิดดี ๆ ที่ยังพอมีให้เห็นในวงการตำรวจ จาก พ.ต.อ.ภานุภัท กิตติพันธ์ ซึ่งเขาเลือกหารายได้เสริมอย่างสุจริต และไม่ผิดต่อวิชาชีพตำรวจ
เด็ดดาว รายงาน 9/8/68