ตำรวจ2โรงพักภาค7 เข้าช่วยเหลือประชาชนให้ระงับการโอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์ ขณะกำลังถูหลอก หลังรับข้อมูลจาก วอร์รูม ตร.
วันนี้ 3 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง ผบก.ภ.จว. ประจวบคีรีขันธ์
พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สืบสวน ภ.จว. ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.สมพงษ์ อยู่ยืด รองผกก.สืบสวน สภ.หัวหิน พ.ต.ท.ปฏิวัติ วิเชียร รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รองผกก.สภ.หัวหิน
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 20 รถยนต์ จักรยานยนต์ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชน
หลังได้รับข้อมูลจาก วอร์รูม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือนายอนุกูล ชาว อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ หลังโอนเงินไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่า ได้ถูกหลอกให้โอนเงินจากเพจเฟซบุ๊กชื่ออาจารย์ ” เอจักรพรรดิ์ ” บอกกับตนว่าได้รับเงินรางวัล และให้ตนส่งเลขบัญชีไปให้เพื่อรับเงินรางวัล โดยต้องเสียค่าดำเนินการครั้งแรก 500 บาท โอนเข้าไปยังเลขบัญชีคนร้ายที่ให้มา3ครั้ง รวมค่าเสียหาย 20,372 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหัวหิน เพื่อให้สืบสวนหาตัวคนร้ายกับพวกมาดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยพนักงานสอบสวนได้อายัดบัญชีธนาคารของคนร้ายไว้ด้วยแล้ว
นายอนุกูล ผู้เสียหาย กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาช่วยเหลือแนะนำยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายได้ทันท่วงทีทำให้ไม่ตัองสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้และเพิ่งทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพัฒนาในระบบการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนมิให้ตกเป็นเหยื่อในคดีออนไลน์ซึ่งเป็นการลดความเสียหายได้เป็นอย่างมาก
อีกคดีตำรวจภาค 7 ช่วยเหลือประชาชนถูกกลุ่ม มิจฉาชีพออนไลน์ หลอกขาย iPhone 17 พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ รอง ผบก สส.ภ.7 รักษาราชการแทนรอง ผบก. ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ธวัชชัย นรสิงห์ ผกก.สภ.พนมทวน พ.ต.ท.ศุภสาร อายุยืน รองผกก.สืบสวน สภ.พนมทวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พนมทวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ 20 รถยนต์ จักรยานยนต์
เข้าช่วยเหลือประชาชนหลังได้รับแจ้งเหตุฉ้อโกงทางออนไลน์ จาก war Room PCT.ภ.7 เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีมิจฉาชีพหลอกลวงคดีออนไลน์
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12.29 น.ทางตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับข้อมูลจาก วอร์รูม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าได้รับแจ้งเหตุฉ้อโกงทางออนไลน์ จาก war Room PCT.ภ.7 เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีมิจฉาชีพหลอกลวงคดีออนไลน์
พบว่า นายชาญวิทย์ ผู้เสียหาย โอนเงินไปยังแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงคดีออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเดินทางไปยังผตู้เสียหายใน ต.พนมทวน อ.พนมทวน จว.กาญจนบุรี เพื่อเข้าช่วยเหลือ
พบ นายชาญวิทย์ ช่วงชัย อายุ 66 ปี อาชีพค้าขายพักอาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าว จึงได้เชิญตัวมายังสถานีตำรวจภูธรพนมทวน พบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้สืบสวนหาตัวคนร้ายกับพวกไม่ทราบว่าเป็นใครมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยอีกว่า จากสอบถามนายชาญวิทย์ ให้การว่า ถูกคนร้ายกับพวกหลอกให้ซื้อสินค้าโทรศัพท์ iPhone 17 จากเพจเฟสบุ๊คชื่อ “พี่พิมพ์ แม่ค้าออนไลน์ 100 ล้าน ” โดยบอกกับตนว่าจะขายโทรศัพท์ iPhone 17 ให้ในราคา 990 บาท และได้ส่ง QR code ให้ตนสแกนจ่ายเงิน โอนเงินเป็นค่าประกันเครื่อง ค่าภาษี ค่าคอมมิชชั่นค่ารหัสไอโฟน( iPhone) ร่วมเป็นเงิน จำนวน 29,997 บาท
ผู้เสียหายหลงชื่อจึงสแกนคิวอาร์โค้ดจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ของตนให้กับคนร้ายไปแต่ตนก็ยังไม่ได้รับสินค้า จึงรู้ว่าถูกหลอก
ต่อมาตนพบเพจตำรวจออนไลน์ จึงได้ติดต่อสอบถาม และได้ถูกคนร้ายหลอกให้ลิงค์ ไลน์เพื่อพบปรึกษาทนายความและได้รับแจ้งจากทนายความสามารถติดติดตามเงินจากมิจฉาชีพกับคืนมาให้ได้แล้วสักพักหนึ่งคนร้ายพวกแจ้งผู้เสียหายว่าสามารถติดตามเงินคืนได้แล้วเป็นเงินจำนวน 472,102 บาท แต่ผู้เสียหายต้องเสียค่าภาษ๊และคนร้ายให้สแกนคิวอาร์โค้ดชำระเงินค่าภาษี จำนวน 9,442 บาท
ผู้เสียหายหลง จึงสแกนคิวอาร์โค๊ตจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ของผู้เสียหายให้คนร้ายไปเมื่อคนร้ายได้รับเงินแล้วแจ้งว่าต้องมีค่าธรรมเนียม ค่ายืนยันตัวตน เพื่อจะรับเงินคืนโดย
คนร้ายให้โอนเงินไปยัง บัญชีคนร้าย รวมยอดเงิน 166,939.87 บาท รวมยอดเงินทั้งสิน 196,913.87 บาท ต่อมาทราบว่าถูกหลอกเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่สถานีตำรวจภูธรพนมทวน โดยพนักงานสอบสวนได้อายัดบัญชีธนาคารของคนร้ายไว้ด้วยแล้ว
นายชาญวิทย์ ผู้เสียหาย ได้กล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาช่วยเหลือแนะนำยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายได้ทันท่วงทีทำให้ไม่ตัองสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้
