แสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับ โจ๊ย-วัสยศ งามขำ ผู้สื่อข่าวประจำกองบังคับการปราบปราม ของหัวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทเป็นมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ สาขาการบริหารจัดการสาธารณะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นับเป็นความภูมิใจของพี่น้องห้องสื่อมวลชนประจำกองปราบฯ ที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้ วัสยศ มุ่งมั่นในการศึกษาเล่าเรียนในศาสตร์ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนหรือถ่ายทอดให้กับกับข่าวแบบรุ่นสู่รุ่น ทั้งนี้ก็เพื่อพัฒนาการรายงานข่าวอาชญากรรมให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นในยุคที่โลกกำลังอยู่ในภาวะความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด
วัสยศ เป็นบุตรคนโตของ วิชเลิศ งามขำ อดีตนักข่าวประจำกองปราบฯ ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านมา จึงเรียกได้ว่า วิชเลิศ และ วัสยศ เป็นคู่พ่อลูกที่เป็นนักข่าวประจำที่เดียวกันในสายงานเดียวกันที่ยากแก่การที่จะพบเห็นในวงการน้ำหมึก
ในยุคก่อน วิชเลิศ ได้ฝากผลงานการทำข่าวอาชญากรรมไว้อย่างมากมาย ในขณะที่ วัสยศ ก็เป็นผู้สื่อข่าวประจำกองปราบฯที่ฝากผลงานไว้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน โดยมี กิตติพงศ์ นโรปการณ์ หรือ เก๋ ไทยรัฐ อดีตลูกน้องเก่าของ วิชเลิศ เป็นพี่เลี้ยงในช่วงเริ่มต้นที่เข้ามาสัมผัสการทำงานที่กองปราบฯเป็นครั้งแรก
ในวงการนักข่าวอาชญากรรม วัสยศ เป็นหนึ่งในนักข่าวเพียงไม่กี่คนที่มุ่งแสดงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา วัสยศ ถือเป็นนักข่าวรุ่นแรกที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ส่งไปเรียนวิชาการทำข่าวสืบสวนสอบสวนที่กรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากนั้น วัสยศ ก็ก้าวเข้าสู้การเป็นกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ ตั้งแต่วัยเพียง 29 ปี และทำงานบริหารสมาคมฯ มาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อตั้งโต๊ะข่าวภาคใต้ ศูนย์ข่าวอิศรา เมื่อปี 2548 ก่อนที่จะกลายเป็นสำนักข่าวอิศราในปัจจุบัน
วัสยศ ยังเป็นวิทยากรประจำสมาคมนักข่าวฯ ในหลักสูตรการให้ความรู้ต่างๆที่สมาคมนักข่าวฯ จัดขึ้น โดยเฉพาะโครงการปั้นนักข่าวเป็นนักเขียน ที่สามารถผลิตนักเขียนหน้าใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ วัสยศ ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมนักข่าวฯ ให้ได้เข้าศึกษาใน หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 2 (สสสส.2) และ หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 (ปนป.2) สถาบันพระปกเกล้า อีกด้วย
ปัจจุบัน วัสยศ กำลังอยู่ระหว่างการนำห้วข้อการค้นคว้าอิสระเรื่อง แนวทางความร่วมมือระหว่างรัฐกับสื่อมวลชนในการรายงานข่าวในภาวะภัยพิบัติ ที่ตนเองได้วิจัยไว้มาต่อยอดเป็นโครงการอบรมการให้ความรู้เกี่ยวกับการรายงานข่าวภัยพิบัติ ซึ่งคงจะเริ่มเห็นภาพร่างในอนาคตได้ในเวลาอันใกล้นี้
นี่คืออีกแนวทางหนึ่งของนักข่าวอาชญากรรมภาคสนาม ที่น้อยคนนักไม่เคยได้รับรู้