วันที่ 13 ก.พ.68 กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 ร่วมกับ ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล. , กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว , สภ.เขาสิงห์โต
ร่วมกันจับกุมนาย ชัยวิชิต อายุ 43 ปี ชาวต.คลองไก่เถื่อน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว– ข้อหา ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ขณะพาผู้ต้องหาเป็นชาวจีนจากเมียวดีไปส่งปอยเปต
ผู้ต้องหาชาวจีนประกอบไปด้วย นายจาง ซิงดอง อายุ 24 ปี ชาวจีน ข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต นายชิง หยู อายุ 22 ปี สัญชาติจีน นายถัง โหย่ว อายุ 21 ปี ชาวจีน นายจี้ หมิน เจีย อายุ 23 ปี ชาวจีน นายถัง เจี๋ย อายุ 16 ปี ชาวจีน ข้อหา บุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยมิได้ได้รับอนุญาต
จับกุมได้ขณะนายชัยวิชิตขับรถยนต์ยี่ห้อ chevrolet รุ่น trailblazer สีดำ ทะเบียน กล 2618 พิษณุโลก มีผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมดนั่งโดยสารมาด้วย พร้อมยึดมือถือ19เครื่อง
พฤติการณ์โดยย่อ เมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 เวลาประมาณ 13.00 น. ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.1 รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจากศูนย์ 1155 ว่า มี ชายชาวจีน ชื่อ นาย จาง ซิ่ง ดอง ชาวจีน ใช้หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวโทรแจ้งเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยว ว่า ตนและกลุ่มเพื่อนคนจีน ถูกหลอกมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา
แต่หลังจากถูกทางการไทยกดดันโดยการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดน้ำมัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะย้ายฐานที่ตั้งไปทางฝั่งกัมพูชา โดยพากลุ่มคนจีน เตรียมจะเดินทางไปทางจ.สระแก้ว แต่กลุ่มผู้ร้องเรียนและเพื่อนชาวจีนมีความประสงค์อยากกลับประเทศ
หลังตำรวจท่องเที่ยวรับแจ้ง ได้ประสานให้สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบ แต่ไม่พบ และไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้
กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ได้รับการติดต่อกลับจากผู้แจ้งผ่านทาง SMS ตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี ได้ติดต่อกับนักท่องเที่ยวผ่านทาง WeChat ผู้แจ้งให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่บนรถยนต์แวน เชฟโรเรต สีดำ ไม่ทราบทะเบียน กำลังเติมน้ำมันอยู่ในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ใน ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี จึงเร่งเข้าช่วยเหลือประสานงานเพื่อขอดูภาพจากกล้อง CCTV ที่บริเวณปั้มน้ำมัน พบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ยี่ห้อ CHEVROLET รุ่น TRAILBLAZER หมายเลขทะเบียน กล 2618 พิษณุโลก
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดต่อกับทางผู้แจ้งผ่านทาง We chat เพื่อขอทราบพิกัดที่เดินทางผ่านอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด จนทราบตำแหน่งยานพาหนะคนร้าย จึงเร่งประสานงานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว , ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว เพื่อให้สกัดจับรถคนร้ายจนพบดังกล่าว
