วันที่6ก.ย.67ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., นายสุภณ สยามบุญนัญ ผู้อํานวยการสํานักบริหารการทะเบียนกรมการปกครอง,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก. สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1
บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสําคัญนี้
1. สตม.จับผู้ร้ายสําคัญแดนภารตะ
บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ให้ร่วมสืบสวนกรณีพบชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนอินเดียรายหนึ่งพักออยู่ในโรงแรมในย่านถนนข้าวสาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์น่าสงสัยอาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรืออาจจะมาก่อเหตุร้ายในประเทศไทย
จากการสืบสวนพบว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือ MR.PARVEEN อายุ 27 ปี ชาวอินเดีย จึงได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจําประเทศไทย เพื่อตรวจสอบประวัติ รับแจ้งว่า MR.PARVEEN หรือ KALA (สงวนนามสกุล) เป็นบุคคลอันตราย ก่อคดีอุกฉกรรจ์ในสาธารณรัฐอินเดีย 13 คดี เช่น ฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า ปล้น อุ้มเรียกค่าไถ่ กรรโชกทรัพย์ การโจรกรรม การเตรียมการสมรู้ร่วมคิดทางอาญา ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน
ส่วนหนังสือเดินทางที่ MR.PARVEEN ใช้อยู่ก็เป็นหนังสือเดินทางที่เปลี่ยนชื่อนามสกุล เพื่อใช้หลบหนีคดี ทางการอินเดียได้แจ้งเพิกถอนหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวแล้ว
พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. สั่งการกก.1 บก.สส.สตม. เร่งสืบหาตัวกระทั่งทราบจับได้ที่ร้านอาหารภายในซอยสามเสน 4 นําตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. กักตัวไว้รอการส่งกลับไปยังสาธารณรัฐอินเดียต่อไป
2. สตม.จับลุงมะกันวัย62 อ้างเป็น Life Coach ขายคอร์สบําบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย
กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายดาเรียส อายุ 62 ปี ชาวอเมริกัน พร้อมเห็ดขี้ควายแห้ง ของกลาง น้ําหนักชั่งพร้อมถุงบรรจุรวม 1,360 กรัม โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทํางานโดยไม่มีใบอนุญาตทํางาน และมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่บ้านพักซอยลาดพร้าว 108 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯนําตัวส่ง สน.สุทธิสาร ดําเนินคดีตามกฎหมาย
หลังพบว่านายดาเรียส ได้โพสต์ขายคอร์สบําบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย อ้างว่าเป็น Life Coach ที่มีปริญญาโทด้านจิตวิทยา มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี จึงได้สืบหาที่อยู่และให้สายลับติดต่อซื้อคอร์สบําบัด ราคา 2,000 บาท/คอร์ส ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนจับกุม
ตรวจค้นภายในบ้านพบเห็ดขี้ควายแห้งบรรจุถุงอยู่ภายในช่องแช่แข็งของตู้เย็นที่ชั้นล่าง ของบ้านรวม 13 ถุง น้ําหนักชั่งพร้อมถุงบรรจุรวม 1,360 กรัม และเงินล่อซื้อที่ได้ลงบันทึกประจําวันไว้ อยู่ในสมุดโน้ตบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องนอนของนายดาเรียสชั้นสอง
จากการสอบถามนายดาเรียสให้การว่า ได้เปิดคอร์สบําบัดผู้ที่มีอาการโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย ในราคาคอร์สละ 2,000 บาท โดยวิธีการสูบและผสมในช็อกโกแลตให้รับประทานแล้วจะเปิดเสียงเพลงกล่อมให้เคลิบเคลิ้มและผ่อนคลาย โดยเปิดรับบําบัดมาประมาณเดือนเศษมีลูกค้าไม่กี่ราย
3. สตม.รวบหนุ่มแดนมังกรสวมบัตรประชาชนไทยพบประวัติฉ้อโกงประชาชน นานกว่า 14 ปี ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
กก.4 บก.สส.สตม.สืบสวนพบว่า Mr.Yu (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ชาวจีน มีพฤติการณ์ต้องสงสัยสวมบัตรประชาชนไทยในชื่อนายยงยุทธ์ ได้มีหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจําประเทศไทย เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อัตลักษณ์ ประวัติการ กระทําผิดของ Mr.Yu
รับแจ้งว่า Mr.Yu มีประวัติกระทําความผิดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ฐาน ฉ้อโกงประชาชน โดยพฤติการณ์คือ Mr.Yu ได้เปิดบริษัทประกอบกิจการโรงแรม และได้ชักชวนหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย เข้ามาร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท แล้วเดินทางเข้ามาในประเทศไทย กก.4 บก.สส.สตม. จึงรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่งให้กับกรมการปกครองตรวจสอบ และมีคําสั่งเพิกถอนชื่อนายยงยุทธ์ ออกจากฐานระบบทะเบียนราษฎร์
จากการสืบสวนของ กก.4 บก.สส.สตม. ทราบว่าหลังจากที่ Mr.Yu เดินทางออกจากประเทศไทยทาง จ.สระแก้วเพื่อไปยังประเทศกัมพูชา และหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ สวมบัตรประชาชนไทยในชื่อนายยงยุทธ์ อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 14 ปี โดยพักอาศัยอยู่บ้านพักแห่งหน่ึงย่านห้วยขวาง
ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปรามปรามการทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจําตัวประชาชนสํานักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ส่วนการสอบสวนคดีอาญา สํานักการสอบสวนและนิติการ นําหมายค้นศาลแขวงพระนครเหนือเข้าตรวจค้นจับกุม
สอบสวนMr.Yu รับสารภาพว่าหลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติและสวมบัตรประชาชนไทย เมื่อปี พ.ศ.2553 และอยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ใน ราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นําตัวส่ง บก.สส.สตม. ดําเนินคดี
สําหรับในส่วนการกระทําความผิดสวมบัตรและการใช้บัตรประชาชนที่ได้มาจากการกระทํา ความผิด กรมการปกครองได้พิจารณาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว
