สน.คันนายาวเดินหน้าปราบแว้น “ปิดกรุงเทพซิ่ง 2568” จับผู้ต้องหา 18 ราย ยึดรถ 17 คัน ปิดเพจชักชวนแข่งรถ 2 แห่ง
วันที่ 10 ก.ค. 68 ตามแผนยุทธการ “ปิดกรุงเทพซิ่ง 2568” ของตำรวจนครบาลภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินหน้ากวาดล้างกลุ่มแข่งรถในทางอย่างจริงจัง
มี พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 ร่วมกำกับดูแลและสั่งการให้แต่ละพื้นที่ดำเนินการตามแนวทางป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทาง
สน.คันนายาว ได้ดำเนินการเชิงรุก ป้องกันและปราบปรามกลุ่มวัยรุ่นที่นัดหมายแข่งรถผ่านโซเชียลมีเดีย และร้านแต่งรถเถื่อนที่เอื้อให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุ่นในพื้นที่
โดย พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว พร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิชนฌาณ ครามสูงเนิน รอง ผกก.ป.สน. คันนายาว และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ได้ดำเนินการเข้มข้นต่อเนื่องระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568
จับกุมผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางได้รวม 18 ราย ยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง 17 คัน พร้อมดำเนินการ ปิดเพจเฟซบุ๊ก 2 เพจ ที่ใช้ปลุกระดมรวมกลุ่มแข่งรถในทางอย่างผิดกฎหมาย
โดยหนึ่งในปฏิบัติการเริ่มจากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านแต่งรถจักรยานยนต์ในเขตคลองสามวา พบมีการรับจูนเครื่องยนต์ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ฐานประกอบกิจการที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลมีคำพิพากษาปรับเป็นเงิน 5,000 บาท
ต่อมาวันที่ 3 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบบริเวณซอยพระยาสุเรนทร์ 41 ควบคุมตัววัยรุ่นได้ 8 ราย พร้อมรถจักรยานยนต์ 8 คัน เปรียบเทียบปรับในชั้นพนักงานสอบสวนเป็นเงินคนละ 1,000 บาท พร้อมให้ผู้ปกครองมารับตัว และลงนามในบันทึกทัณฑ์บน พร้อมเปลี่ยนท่อไอเสียเป็นแบบมาตรฐาน มอก.
ถัดมาในเช้ามืดวันที่ 4 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกำลังสกัดจับกลุ่มวัยรุ่นที่นัดหมายผ่านเพจ “ปิดกรุงเทพ ซิ่ง.” บริเวณถนนรามอินทรา กม.6
ได้ผู้ต้องหา 4 ราย ของกลางรถ 4 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยศาลแขวงมีนบุรีมีคำพิพากษา กักขังคนละ 1 เดือน และ พักใช้ใบขับขี่ 6 เดือน ยกเว้นผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนซึ่งถูกส่งเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯ พร้อม ริบของกลางทั้งหมด
แม้เพจดังกล่าวจะถูกปิดลง แต่ในวันที่ 6 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่พบว่ามีการเปิดเพจใหม่ชื่อ “แว้น กรุงเทพฯ” มีผู้ติดตามกว่า 4,900 ราย มีการนัดหมายแข่งรถบริเวณถนนรามอินทรา กม.9 จนนำไปสู่การจับกุมเยาวชนเพิ่มเติม 6 ราย อายุระหว่าง 15–17 ปี ส่งเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองเด็กเช่นกัน
สรุปผลการปฏิบัติของ สน.คันนายาว ในห้วงเวลาดังกล่าวข้างต้น มีดังนี้:
• จับกุมผู้ต้องหา 18 ราย
• ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 17 คัน
• ปิดเพจเฟซบุ๊กปลุกระดม 2 เพจหลัก
• ประสานผู้ปกครองให้รับตัว พร้อมดำเนินมาตรการทัณฑ์บน
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. ย้ำว่า คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ทั้งการแข่งรถในทาง การขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง และเป็นความผิดทางอาญา
ศาลพิพากษาลงโทษหนัก ริบรถของกลาง จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนวัยรุ่นรวมถึงผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ให้ช่วยกันห้ามปราม อย่าปล่อยปละละเลยบุตรหลานของท่าน และอย่าเลียนแบบหรือกระทำตามในลักษณะนี้เด็ดขาด
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.มอบหมายให้ คณะทำงานฯ ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆก็ดี ทั้งการรวมตัวบนท้องถนนก็ดี โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง