จากแวดวงกีฬา…สู่วงการสีกากี
“กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน”
ฟังเพลงกราวกีฬาแล้วก็ทำให้เราได้เห็นความสำคัญของกีฬาว่ามีประโยชน์มากมาย…
เช่นเดียวกับ พ.ต.ต.หญิง ภัคภร ทองสลับ สว.กก. สืบสวน ภ.จว.ยโสธร หรือสารวัตรปุ๋ม ที่มีวันนี้ได้เริ่มต้นมาจากเส้นสายกีฬาล้วน ๆ
สารวัตรปุ๋มเล่าว่า เธอเติบโตมาในครอบครัวข้าราชการครูโดยมีคุณพ่อเป็นต้นแบบด้านกีฬาเพราะสมัยเด็ก ๆ เธอมักจะติดตามไปดูพ่อเล่นเปตองอยู่เสมอ จนวันหนึ่งพ่อก็บอกว่า
“อย่าอยู่แต่แค่ขอบสนาม ให้ลองมาเล่นเองบ้าง”
เธอเริ่มเล่นเปตองตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนนารีนุกูล จังหวัดอุบลราชธานี มีครอบครัวแสนอบอุ่นสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ตลอด ดังนั้นไม่แปลกเลยที่เธอจะคว้าแชมป์เหรียญทองมาครองอยู่บ่อยครั้ง
บอกเลยว่างานนี้ “พี่ไม่ได้มาเล่น ๆ”
เธอจริงจังกับการแข่งขัน กวาดเหรียญรางวัลมามากมาย ทั้งการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้เธอยังเป็นตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการแข่งขันกีฬากองทัพไทยอีกด้วย
ด้วยความโดดเด่นด้านการเล่นเปตอง ทำให้เธอสามารถเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยโควตานักกีฬา ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจสาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรังสิต และระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารองค์กร มหาวิทยาลัยศรีปทุม
สารวัตรปุ๋มแอบกระซิบว่า
“เพราะกีฬานี่แหละ ที่ทำให้ได้รับโอกาสดี ๆ ในชีวิต แบบเรียนฟรี มีเกียรติ และมีงานทำ”
ส่วนชีวิตตำรวจของสารวัตรปุ๋ม เริ่มต้นด้วยการรับราชการในโควต้านักกีฬาเช่นกัน รุ่นราวคราวเดียวกับนักตะกร้อทีมชาติไทยอย่าง พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ หรือโจ้หลังเท้า ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.จร.สน.วังทองหลาง และพ.ต.ท.สมพร ใจสิงหล หรือสารวัตรต้น สังกัด บช.ตชด.
สำหรับเส้นทางการเติบโตในอาชีพตำรวจนั้น สารวัตรปุ๋มเริ่มบรรจุครั้งแรกสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งแต่ปี 2545 – 2555 รับผิดชอบงานด้านงบประมาณ
ต่อมาเบนเข็มหันหน้ากลับแดนดินถิ่นอีสานบ้านเกิด มาอยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในตำแหน่ง รอง สว.ฝอ. ภ.จว.ยโสธร แย้ายละมาอยู่ กก.สืบสวน ภ.จว.ยโสธร ทำหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุ 191
สารวัตรปุ๋มไม่ได้เก่งแค่ด้านกีฬาเท่านั้น
แต่ความสามารถในงานตำรวจเธอก็ไม่น้อยหน้าใคร เพราะผ่านหลักสูตรอบรมมากมาย อาทิ การต่อสู้ป้องกันปราบปรามการก่อความไม่สงบ (ต.ป.ส.) จาก กก.2 บก.กฝ.บช.ตชด.
![]()
หลักสูตรครูฝึกต้นแบบหลักสูตร Local Cat และเป็นหัวหน้าบล็อกที่ 6 ในการปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยในพื้นที่ของ ภ.จว.ยโสธร
นอกจากนี้ยังเคยได้รับรางวัลโครงการประเมินศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ดีเด่น ทั้งระดับภาคและระดับ ตร. มาแล้ว รวมทั้งรางวัลชมเชยอีกหลายครั้ง
ส่วนเส้นทางสายสืบสวนของเธอนั้นเพิ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2565 ได้รับโอกาสจากผู้บังคับบัญชาให้มาดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวนหญิง
พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้พูดกับเธอในวันที่มารายงานตัวว่า
“มาอยู่ตรงนี้แล้วต้องทำงานให้ได้ สมกับความไว้วางใจที่ผู้บังคับบัญชามีให้นะ”
เธอจึงตกปากรับคำกับผู้เป็นนายอย่างไม่ลังเล แม้จะเป็นงานที่ใหม่และยากสำหรับเธอก็ตาม และสารวัตรสืบหญิงคนนี้ก็ไม่ทำให้ผู้เป็นนายต้องผิดหวังจริง ๆ
ระยะเวลาเพียง 2 เดือนที่เธอได้เข้ามาทำงานในฐานะหัวหน้าชุด ได้ร่วมกับปิดคดีสำคัญหลายคดี
อาทิ จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ยึดรถจักรยานยนต์ได้ 2 คัน มูลค่า 130,000 บาท คดีพยายามชิงทรัพย์ร้านทอง และคดีพยายามฆ่า
ตำแหน่งสารวัตรสืบสวนใน ภ.จว.ยโสธร ยังไม่เคยมีตำรวจหญิงทำหน้าที่นี้มาก่อน จึงนับเป็นความท้าทายที่เธอต้องใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อนำพาทีมงานไปพิชิตคดีสำคัญ ๆ
เธอบอกด้วยว่าโชคดีมากที่ยังมีผู้บังคับบัญชาที่ดีอย่าง พ.ต.อ.ภูมิ ทองโพธิ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ยโสธร ที่เธอถือว่าเป็นครูผู้มากประสบการณ์ คอยให้คำแนะนำจนทำให้สามารถคลี่คลายคดีได้ในที่สุด
ในด้านมุมมองต่องานสืบสวนเธอบอกว่าเป็นงานที่ยากจริง ๆ และคิดว่า “งานสืบสวนก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์” นั่นเอง ต้องช่างสังเกต คิดให้ไวและใช้ความรอบคอบ ก็จะช่วยให้เราต่อจิ๊กซอว์ได้อย่างสมบูรณ์ภายในเวลาอันรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์
งานนี้ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์สูงจริง ๆ ถือว่าเรายังใหม่ในวงการนี้ ต้องเรียนรู้จากผู้เป็นนายและลูกน้องอีกด้วย
ส่วนวิธีรับมือกับลูกน้องผู้ชาย สารวัตรหญิงสืบจังหวัดยโสธรบอกว่า
ต้องดูว่าลูกน้องแต่ละคนนิสัยใจคอเป็นอย่างไร แล้วค่อยหาวิธีบริหารจัดการให้ลงตัว คนไหน ที่ดูแล้วจะออกนอกลู่ เราก็ต้อง ปรับให้เข้าที่เข้าทาง เน้นการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามากกว่า เพราะเราทำงานเป็นทีม ทุกคนควรอยู่ร่วมกัน ด้วยความเข้าใจ
ที่สำคัญเราต้องใส่ใจต่อสารทุกข์สุขดิบของคนในทีมเราด้วย ไม่ได้มุ่งเน้นจะเอาผลงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนคุณแม่ของสารวัตรก็ไม่ได้ห่วงอะไรมากมาย ท่านเข้าใจ ที่ลูกสาวต้องมาทำงานกับผู้ชาย เพราะแม่รู้ดีว่าอาชีพตำรวจต้องทำงานกับผู้ชายเป็นหลักอยู่แล้ว
ทั้งนี้เธอได้ยึดถืออุดมคติตำรวจมาเป็นแนวคิดในการทำงาน จากความชื่นชมต่ออาชีพตำรวจว่าเป็นฮีโร่ในดวงใจ ได้จับคนร้ายและช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน
จวบจนวันนี้เธอเองก็ได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์พันธุ์แท้ และเป็นดอกไม้เหล็กประดับวงการสีกากีอีกคน
สุดท้ายนี้หนุ่มๆอ่านให้ดีนะคะ สารวัตรสืบหญิงแกร่งแห่งเมืองบั้งไฟบอกว่ายังโสดไม่มีครอบครัวค่ะ…แต่
เรื่องคู่ครองหรือสเปคเจ้าของหัวใจ-สารวัตรปุ๋มบอกไม่ได้สนใจด้านนี้ จะโฟกัสแต่เรื่องงานและเรื่องธรรมะมากกว่าค่ะ
ว่างจากงานชอบศึกษาและฟังธรรมะ การสวดมนต์ ภาวนา หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า พระอาจารย์ต้น ธรรมนาวา
หนุ่มๆว.2ว.8 เข้าใจตรงกันนะคะ
เด็ดดาว11/5/68