เห็นพี่ ติ๋มๆนิ่มๆ แต่แหกด่านมา พี่ยิงตกถนนหมดนะจ๊ะ
สารวัตรตั้ม -พ.ต.ต.วิทวัส เพ็ชรรักษ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 3 จ.จันทบุรี ควบคุมรถตำรวจทางหลวง 14 คัน ดูแลพื้นที่บนถนนหลวง เขต จ.จันทบุรี และ ตราด
สารวัตรตั้ม บอกว่า นอกจากให้บริการประชาชนแล้วก็ยังมีตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร และด่านอาญา ส่วนใหญ่จะตั้งกลางคืนเป็นหลัก มีสกัดจับกุมผู้กระทำผิดได้เรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกลักลอบขนสุราต่างประเทศ บุหรี่ ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว เพราะพื้นที่ติดกัมพูชา มีการลักลอบขนของหนีภาษีเข้ามา แต่มีการจับกุมมาได้ตลอด
. นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชายังสั่งการมา ไม่ว่าพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผบก.ทล. พ.ต.อ.ชวลิต ศาสตร์เวช ผกก.3 บก.ทล. พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง รอง ผกก.3 บก.ทล. พ.ต.ท. พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน รอง ผกก.3 บก.ทล. ให้เน้นเรื่องบุคคลที่มีหมายจับ เวลาตั้งด่าน ให้ตรวจสอบหมายจับ เนื่องจากพื้นที่ จ.จันทบุรี และ ตราด เป็นพื้นที่ชายแดน อาจจะมีการหลบหนีของผู้ต้องหา
แล้วที่นี่ มันจะแหกด่านกันประจำ เพราะเวลาเราตั้งด่าน ไม่ได้ตั้งทุกวัน เราตั้งตามแผน ที่วางไว้ คือจะหมุนเวลา สถานที่ไปเรื่อยๆ ไม่กำหนดจุดตายตัว มันก็จะมีรถที่วิ่งผ่านมา เช่น พวกที่วิ่งมาจากชายแดน ขนต่างด้าวเข้ามา แหกด่าน ก็มี อาวุธปืน ยาเสพติด ก็มี ผลจับกุมก็มีสม่ำเสมอ
พ.ต.ต.วิทวัสบอกด้วยว่า ในรอบปีที่ผ่านมา มีประมาณ 6 คัน ที่แหกด่านแล้วเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตาม โดยใช้หลักยุทธวิธีตำรวจ เข้าจับกุม ตรงนี้ผมใช้ปืนยิงเอง 4 คัน ปืนที่ใช้ เป็นปืนคิมเบอร์ อัลตร้า แครี่2 ขนาด 9 มม.แล้วก็มี ซิกซ์พี 250 คอมแพ็กซ์ 9 มม.อีกกระบอก ใช้หลักยุทธวิธีทุกครั้ง
คือเราจะยิงสกัด ยิงยาง แล้วคนร้าย โดยทั่วไปจะหลบหนี เขาก็จะตื่นกลัว เพราะต้องขับรถด้วยหลบหนีด้วย บางทีรถจะตกข้างทางเอง คือเราจะเริ่มใช้ยุทธวิธีทางเสียง สัญญาณมือ ใช้หวอ แล้วขั้นตอนสุดท้าย ถึงจะใช้อาวุธปืน
สำหรับรถคนร้ายที่ผมยิงตกถนน มีคดีสำคัญ อย่างคดีอู๋ อาก้า ผู้ต้องหาคดีฆ่า แต่พ้นโทษแล้ว มันมีพฤติกรรมดีดแปลงอาวุธปืนเพื่อจำหน่าย แล้วก็ขายยาเสพติด ในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว ส่วนฉายา “อู๋ อาก้า” เพราะมันชอบใช้ปืนอาก้า ที่ ดัดแปลงเอง ขับรถแหกด่านมา ก็ไล่ติดตามไปจนมันยิงต่อสู้ พอรถมันตกข้างทาง มันก็วิ่งหนีออกจากรถ แล้วยิงสวนกลับมาตลอด ก่อนหนีไปได้ ตอนนี้ออกหมายจับอยู่
อีกรายเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เป็นคดีข่มขืน คดีนี้ยิงสกัดจับจนรถคนร้ายเสียหลัก ชนต้นไม้ไฟลุกไหม้ ส่วนรถก็เป็นรถที่ขโมยมา ก็เจออาวุธปืนที่โดนไฟเผาอยู่ในรถ อันนี้ยิงต่อสู้ เมื่อปีที่แล้ว ระหว่างไล่จับ มันตั้งใจจะปาดให้รถเจ้าหน้าที่ตกข้างทางด้วย ส่วนอีก 2 คัน เป็นคดียาเสพติด คนร้ายแหกด่านแล้วจับกุมได้เช่นกัน
ที่ใช้ปืน 9 มม.ในการปฏิบัติหน้าที่ หรือยิงรถ เพราะผมคิดว่ามันง่ายต่อการสำรองลูกกระสุน เพราะส่วนใหญ่ตำรวจใช้ 9 มม. ส่วนที่ยิงตกถนนไปทั้ง4คันจะใช้ คิมเบอร์ เป็นหลัก ขับตามแล้วยิง วางปืนพาดที่หูกระจกซ้าย เราจะอยู่เยื้องทางด้านหลัง ด้านขวาของรถผู้ต้องหาอยู่แล้ว ถ้าขนาบข้างมันอันตราย
แล้วจะยิงยางด้านหลังทางขวา ส่วนใหญ่จะลงถนนหมดทุกราย ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชา เนื่องจากพื้นที่จันทบุรี ตราด ค่อนข้างเป็นพื้นที่ ซึ่งมีผู้ต้องหามาอาศัยอยู่ หรือใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ค่อนข้างจะเยอะ ก็จะมีฝึกยุทธวิธีตำรวจอยู่ทุกอาทิตย์ แล้วจะตรวจเช็คอาวุธปืน ยิงฝึกซ้อม ยิงกระสุนทิ้งทุกเดือนอยู่แล้ว ก็จะไปฝึกที่ค่ายตากสิน ที่ จ.จันทบุรี
คติประจำตัวในการทำงาน ตามที่เคยได้ยิน มีผู้ใหญ่พูดให้ฟัง คือว่า ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน ให้เป็นเสมือนปุ๋ยที่ไปบำรุงต้นไม้ อย่าไปเก็บผลกินอย่างเดียว