4ช่างไฟไซต์งานสร้างคอนโด รวมหัวย่องตัดสายไฟในโครงการ อุตส่าห์เดินกลบรอยเท้าอย่างดี แต่สุดท้ายเกมเพราะชื่อติดข้างรถกระบะพาหนะก่อเหตุ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม66 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส. สน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง
ร่วมกันจับกุมนายอนุพงษ์ หรือเต้ย อายุ 24 ปี นายจักรพล หรือโจ้ อายุ 22 ปี นายจิระวัฒน์ หรือรัก อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ความผิดฐาน “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด “ พร้อมของกลางรถกระบะ สีขาว ทะเบียน 2 ขส 1018 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมได้ภายในไซต์งานก่อสร้างคอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน แขวงดอนเมือง กรุงเทพ เมื่อเที่ยงวันที่ผ่านมา
หลังรับแจ้งจากผู้เสียหาย มีเหตุลักทรัพย์สายไฟที่ไซต์คนงานก่อสร้างคอนโดแห่งหนึ่งริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมืองหลายครั้ง ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมืองได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียงมาโดยตลอด กระทั่งทราบว่ากลุ่มคนร้ายรายนี้มี 4 คน ใช้รถกระบะสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นยานพาหนะ ด้านข้างรถติดสติ๊กเกอร์ข้อความ Anupong Phothijhon จากแนวทางการสืบสวนทราบว่ารถที่ใช้ก่อเหตุเป็นของคนงานในไซต์งานก่อสร้างของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับและจับกุมได้3คน
เบื้องต้นทั้ง 3 คนยอมรับว่าร่วมกับผู้ต้องหาอีก 1 คน ทั้งหมดเป็นช่างไฟของโครงการดังกล่าว แต่เงินไม่พอใช้ ได้ร่วมกันวางแผนลักตัดสายไฟในไซต์งาน โดยขับรถจอดในจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด จากนั้นข้ามถนนแอบเดินเข้าไซต์งานโดยไม่ให้ รปภ.เห็น เมื่อก่อเหตุได้สายไฟมาก็จะช่วยกันขนขึ้นหลังรถกระบะที่จอดไว้จากนั้นจะเดินกลับมาใช้เท้าเกลี่ยทรายเพื่อลบรอยเท้าที่พื้นไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต
จากนั้นจะช่วยกันนำไปเก็บที่ห้องพักแล้วแบ่งไปขายร้านรับซื้อของเก่า โดยนำไปขายมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเข้าไปก่อเหตุมาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม และนำไปขายได้เงินมาประมาณ 8 หมื่นหกพันบาท รวมทั้ง 3 ครั้งได้เงินร่วม 5 แสน เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปใช้ส่วนตัว และเที่ยวแตร่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง และติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป