“เตือนภัย สมัครกู้เงินออนไลน์ ตำรวจท่องเที่ยวจับสาวบัญชีม้า แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบบัญชี เสียหายกว่า 600,000 บาท เจ้าตัวอ้างสมัครกู้เงินออนไลน์ ถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีม้า”
วันที่20ส.ค.68 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. , พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. , พ.ต.ท.เจษฎา ทองทา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. , พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท.
สั่งการ พ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สว.กก.สืบสวน บช.ทท. พร้อมกำลัง ร่วมกับงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 เข้าจับกุม น.ส.เพ็ญพิช (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ลงวันที่ 18 ส.ค.68
ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญา”
สืบเนื่องจาก เมื่อเดือน มิ.ย.67 ผู้เสียหายถูกบุคคล โทรมาข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัว พฤติการณ์เบื้องต้น คือ มีการติดต่อมาเเอบอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองน่าน จากนั้นติดต่อทางไลน์ มีการวิดีโอคอล ปลายทางเเจ้งว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบบัญชี มีเอกสารยืนยันทำให้ผู้เเจ้งหลงเชื่อโอนเงินไปให้ รวมมูลค่าเสียหาย 504,925 บาท
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายถูกหลอกลวง มีโทรศัพท์มาแจ้งว่าได้รางวัลพิเศษจาก shopee และชักชวนทำงานหารายได้พิเศษ ให้แอด line ให้ทำกิจกรรมพิเศษ ให้โอนเงินเพื่อการกุศล ช่วงแรกได้รับเงินปันผลคืน ให้โอนเงินยอดเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ต่อมาผู้เสียหายต้องการถอนเงินออก แจ้งว่าทำกิจกรรมไม่ถูกต้องให้โอนเงินไปเรื่อยๆ ไม่สามารถถอนเงินได้ รวมถึง มีการให้กดลิงค์ เว็บไชต์ croroads hound apion โอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้จะได้เงินปันผล ให้ทำกิจกรรมต่อไปเรื่อยๆ
ช่วงแรกได้เงิน พอเงินเยอะขึ้น แจ้งว่าทำรายการผิดให้โอนเพิ่ม มูลค่าความเสียหายรวมโดยประมาณ 100,000 บาท
จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับคนร้าย
ต่อมาทางสืบสวนจนทราบว่า น.ส.เพ็ญพิช (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ร่วมขบวนการของแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงผู้เสียหาย ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า
จากนั้นชุดสืบสวน กก.สืบสวน บช.ทท. ร่วมกับงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.2ตามจับได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน อ.เมืองนครราชสีมา ควบคุมตัวนำส่งสภ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบยังพบว่า น.ส.เพ็ญพิช ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดเกาะสมุย ลงวันที่ 19 ก.ย.67 ฐาน ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ได้กระทำการแสดงความเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน
ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอ นิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด อีกด้วย
เบื้องต้นรับสารภาพให้การว่า ได้สมัครกู้เงินออนไลน์ ถ่ายบัตรประชาชนด้านหน้าและด้านหลัง มีการแสกนใบหน้า เพื่อที่จะสมัครกู้เงินออนไลน์ แต่ต่อมาพบว่าได้มีการนำข้อมูลส่วนตัวของตนไปเปิดบัญชีม้า 5 บัญชี กระทั่งมีคนร้ายนำบัญชีของตนไปก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจนถูกจับกุมวันนี้
