รวบ “เอส คอลาย” เดนนรกบังคับลูกเลี้ยงวัย 12 ปี บังคับเสพยาและข่มขืน ลุ้นระทึกไล่ล่า48 ชม.ช่วยเด็กปลอดภัย
“เอส คอลาย” เดนทรชรในคราบ “พ่อเลี้ยง” ไม่เพียงเป็นขี้ยาธรรมดาแต่ยังเป็นพวกหมกมุ่นในกามอารมณ์ จิตวิปริตขนาดว่าโมอวัยวะเพศจนเหมือนต้นคริสต์มาสพร้อมความภาคภูมิใจ โดยวีรกรรมล่าสุดเจ้าตัวพาลูกเลี้ยง เด็กหญิงวัยเพียง 12 ปี หนีจากบ้านไปออกเร่ร่อนก่อนจะ “บังคับให้เด็กเสพยาและลงมือปู้ยี่ปู้ยำ” เด็กอย่างสุดเวทนา โดยเด็กร้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ถูกกระทำ โดยตลอดการเร่ร่อนจะ “ล้างสมอง” ให้เด็กเกลียดแม่ตัวเอง ให้ลาออกจากโรงเรียน และให้ตกเป็นธาตุกามอารมณ์ของตนเองเท่านั้นไม่ต้องทำอย่างอื่น ทำเอาครอบครัวเหยื่อแทบขาดใจตาย โพสข้อความประกาศตามหาเด็กจนกลายเป็นไวรัล จนล่าสุด “ผู้การจ๋อ” ส่งสืบนครบาล และสืบ 110 มือดีไล่ล่าติดตามอย่างระทึกจนไปจับตัวและสามารถช่วยเหลือเด็กได้ก่อนจะถูกคนร้ายพาหนีลงไปทางภาคใต้
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.
พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น สืบสวน 110 โดย ร.ต.อ. มนตรี เฉลิมวัฒน์ , ร.ต.อ. จิรศักดิ์ ว่องไว , ร.ต.อ. ชัยวิทย์ หาญญ์สุวรรณนทีวิทย์ , ร.ต.ท. อนันตชัย สัจจพงษ์ , ร.ต.ท. เดชาธร ชมศิริ , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 , สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110
ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมนายวีรยุทธ แสนชัย หรือ “เอส คอลาย” อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 113/2566 ลงวันที่ 25 พ.ค. 66 ข้อหา “ความผิดเกี่ยวกับเพศ” จับกุมได้ที่ ภายในซอยตลาดวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯเมื่อ 6 ส.ต. 66 เวลาประมาณ 10.50 น.
พบประวัติต้องโทษคดีอาญา 13 คดี เช่น เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 , ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 , ลักทรัพย์ , ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ชิงทรัพย์ , วิ่งราวทรัพย์ และกระทำพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ ปี 2562นายวีรยุทธ หรือ “เอส คอลาย”เริ่มคบหากับ น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี มี “ลูกติด” ชื่อ ด.ญ.ส้ม (นามสมมติ) อายุเพียง 8 ปีในเวลานั้น เมื่อ ด.ญ.ส้ม อายุ 11 ปี นายวีรยุทธ เริ่มสนิทสนมกับ ด.ญ.ส้ม มากเกินกว่าพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง มีการหยอกล้อในเชิงชู้สาวกับ ด.ญ.ส้ม อยู่เป็นประจำ
กระทั่งในปี 2565นายวีรยุทธ แสดงอาการหมดรัก น.ส.เอ๋ และพา ด.ญ.ส้ม ไปกินอยู่ด้วยฉันสามีภรรยาอย่างโจ่งครึ้ม ใช้ความเป็นเด็ก“ล้างสมอง” ให้เกลียดแม่ตัวเอง ให้ลาออกจากโรงเรียน และให้ตกเป็นธาตุกามอารมณ์ของตนเองโดยไม่สนอนาคตของเด็กแต่อย่างใด กระทั่งในปัจจุบัน ด.ญ.ส้ม ไม่เรียนหนังสือและออกเร่ร่อนไปกับพ่อเลี้ยงเดนทรชนรายนี้อย่างสุดเวทนา โดยเธอเข้าใจว่านี่คือรักแท้ จนในปัจจุบันครอบครัวของ น.ส.เอ๋ และ ด.ญ.ส้ม เรียกได้ว่าตายทั้งเป็น
ล่าสุดเดนทรชนรายนี้ได้พาตัว ด.ญ.ส้ม ออกไปจากบ้านอีกครั้งและพาไปร่อนเร่ “บังคับเสพยาเสพติดและลงมือกระทำชำเรา” ด.ญ.ส้ม และนำโทรศัพท์มือถือ ด.ญ.ส้ม ไปขายเพื่อนำมาซื้อยาเสพติดเสพ น.ส.เอ๋ ไร้ทางออกโพสข้อความประกาศตามหา ด.ญ.ส้ม จนกลายเป็นไวรัล ซึ่งประชาชนต่างช่วยกันแชร์และติดตาม
เรื่องนี้ก็ถึงหู พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หรือ “ผู้การจ๋อ”รายงานให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร.ทราบ พร้อมส่งมือดีชุดสืบนครบาล และสืบ 110 ติดตามไล่ล่าเดนทรชนรายนี้ทันที โดยทราบเพียงเบาะแสว่า เดนทรชนรายนี้ได้พา ด.ญ.ส้ม มาเสพยาภายในชุมชนแห่งหนึ่งย่านธนบุรี
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งกำลังลงพื้นที่ชุมชนต้องสงสัย จนจับกุมตัวได้ที่ ตลาดวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯ และช่วยเหลือ ด.ญ.ส้ม ได้ก่อนจะถูกคนร้ายพาหนีลงไปทางภาคใต้
ในชั้นจับกุม นายเอสคอลายผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองลงมือกระทำชำเราลูกเลี้ยงวัย 12 ปี จริงโดยกระทำโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัน และได้ไปต่ออวัยวะเพศของตนเองมา เมื่อเวลามีเพศสัมพันธ์ลูกจะบอกว่าเจ็บตลอด และที่ทำไปเพราะความรัก ตอนแรกแค่แอบชอบ แต่พอพูดคุยแหย่กันไปมาก็เริ่มมีความรู้สึกรัก ตอนนี้ไม่ได้รับแม่ของเด็กแล้ว แต่มารักเด็กแทน
ที่ผ่านมาตนเองเคยถูกจับกุมตั้งแต่วัยเด็ก โดยรวมทั้งหมดถึงปัจจุบันกว่า 13 ครั้ง ในข้อหา เสพยาบ้า , ครอบครองยาบ้า , ครอบครองยาไอซ์ , ขับเสพฯ , ร่วมกันชิงทรัพย์ ชิงโทรศัพท์มือถือเด็กนักเรียน , ลักทรัพย์ , ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ , พรากผู้เยาว์อายุ 13 ปี ไปเพื่อการอนาจารฯ และล่าสุดโดนข้อหา อนาจารเด็กและอยู่ระหว่างการประกันตัว ตนเองได้ถูกติดกำไล EM แต่ได้ถอดทิ้งไปเพื่อหลบหนีจะไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาล เพราะไม่พร้อมที่จะติดคุก
ฝากขอโทษครอบครัวของลูกเลี้ยง ทำให้เกิดเป็นปมด้อยเป็นตราบาปกับเด็ก และยอมรับว่าไม่ได้ไปทำแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีกแน่นอน หากเจ้าหน้าที่เผยแพร่ใบหน้าตนไปแล้วมีเหยื่อมาชี้ยืนยัน ยินดีให้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้เลย” นำตัวนำส่งศาลอาญาธนบุรีดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ประวัติคนร้ายรายนี้ถือว่าโชกโชนมากไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด , ชิงทรัพย์ , อนาจาร ยาวเป็นหางว่าว เป็นภัยสังคม และจากแผนประทุษกรรมในคดีล่าสุดนี้เรียกได้ว่าไม่เหลือศีลธรรมในจิตใจ กระทำกับเด็กผู้หญิงวัยเพียง 12 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยงของตนเองได้
ที่ผมรับไม่ได้คือการบังคับให้เด็กเสพยาเสพติดก่อนลงมือกระทำชำเราเด็ก ผมไม่ต้องการให้คนเช่นนี้เพ่นพ่านในสังคม จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากพบว่าบุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อ หรือมีแนวโน้มที่จะถูกคนร้ายรายนี้กระทำมิดีมิร้าย โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟสบุ๊ค สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น..”