“รองนพศิลป์-ผู้การเก่ง” นำทีมสืบนครบาลรวบโจรแสบปลอมเป็นช่างตระเวนลักตัดสายไฟตู้สายอินเตอร์เน็ต พบก่อเหตุ 29 เคส 21 โรงพัก เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ก.ค.68 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส. บช.น. พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน. เพชรเกษม พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.บางขุนเทียน
พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.สส.บช.น., กก.สส.บก.น.9, สน.เพชรเกษม สน.บางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่ NTPLC (บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด มหาชน )
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวิรัตน์ อายุ 43 ปี และ นายจงรัก อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาลักทรัพย์สายไฟอินเตอร์เน็ต ตู้สัญญาณโทรศัพท์ ของบริษัท NTPLC และอุปกรณ์สายไฟต่าง ๆ ส่งผลให้สัญญาณอินเตอร์ในโรงพยาบาลและหน่วยงานราชการ ในพื้นที่นครบาล รวมความเสียหาย มูลค่า 10 กว่าล้าน
จับกุมได้ที่ บ้านในซอย กำนันแม้น 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิสีดำ ทะเบียน ทะเบียน ผค 7731 สงขลา 1 คัน เครื่องมือในการก่อเหตุ สายสัญญาณ อินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ออปติกและทองแดง ตู้เหล็กชุมสาย และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หลายรายการ
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 เกิดเหตุลักทรัพย์ตู้ NT ที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต โดยตัดสายสัญญาณแล้วยกตู้ ที่ตั้งอยู่ริมถนน เหตุเกิดทั้งหมด 29 เคส ใน พื้นที่ของนครบาล 21 สน. สร้างความเสียหายแก่หน่วยงานราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกับโรงพยาบาล ที่จะต้องใช้สืบค้นประวัติข้อมูลของผู้ป่วย โดย 1 ตู้ให้จะบริการ ในรัศมี 2 ตารางกิโลเมตร ความเสียหายมูลค่า 10 กว่าล้าน
ตัวแทนจาก NTPCL ได้ประสานมายัง บก.สส.บชน.ร่วมกับสน.ท้องที่ติดตามตัวคนร้ายจนทราบว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาคนร้ายทั้ง 2 ได้ก่อเหตุที่ริมถนนในซอยบางแค 14 ปากทางเข้าหมู่บ้านทองภูมิ 2 แขวงและเขตบางแค กทม.ได้แกะรอยติดตามตัวมาที่บ้านพักหลังดังกล่าว โดยเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่าบังหน้า
สอบสวน นายวิรัตน์รับสารภาพว่า จะตระเวนลักตู้ชุมสาย ที่อยู่ริมถนน ในช่วงเวลากลางคืนโดยจะสวมรอยมาเป็นเจ้าหน้าที่มีการนำอุปกรณ์ในการให้สัญญาณในเวลากลางคืนอาทิเช่นกรวย กระบองไฟ ไฟสัญญาณฉุกเฉิน ให้เหมือนการซ่อมบำรุงทั่วไป
จากนั้นจะใช้ หินเจีย ในการตัดสายไฟ แล้วยกตู้ขึ้นรถนำกลับมาที่บ้านพักแล้วแยกชิ้นส่วนขายได้ประมาณตู้ละ 2,000 บาท ที่ได้อ้างว่านำมาใช้จ่ายภายในครอบครัวแต่จากการตรวจสอบประวัติทั้งสองพบว่าเคยมีคดียาเสพติดและลักทรัพย์
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันรับทรัพย์ร่วมกันลักทรัพย์ ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ โดยทำอันตราย ต่อสิ่งกีดกั้นหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม และอยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย