รวบโจรปลอมเป็นเถ้าแก่ หลอกขายเฟรมจักรยานแบรนด์ดังระดับโลก เกลี้ยงโกดังเสียหายกว่า 4 ล้านบาท
ตร.บางละมุง รวบหนุ่มแสบ บุกกวาดโครงจักรยาน แบรนด์ดังระดับโลก โพสต์ขายออนไลน์เกลี้ยงโกดังเสียหายกว่า 4 ล้านบาท พบวิธีขายสุดแยบยล นัดเจอลูกค้าหน้าโกดังตีเนียนเป็นเถ้าแก่ รับสารภาพสิ้นไส้หาเงินเสพยา เจ้าของโกดังเตือนคนที่ซื้อให้นำมาคืนจะไม่เอาเรื่อง หากดื้อเสี่ยงคุกเพราะรับของโจร
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ. บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. ฯ พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส.ฯ และ ร.ต.อ.จักรภพ อินรัญ รอง สว.สส.ฯ
นำกำลังชุดสืบสวนจับกุมนายท่าหลวง หรือเบล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ได้ที่ริมคลองนาเกลือ ม.4 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส.อรษา อายุ 68 ปี ผู้เสียหาย มาพบตำรวจ สภ.บางละมุง แจ้งว่า ถูกคนร้ายลักทรัพย์ที่ โกดังเก็บสินค้า ริมถนนพัทยานาเกลือ เลขที่ 579/28 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ทรัพย์สินหลายรายการ 1.เฟรมจักรยาน (ตัวโครง) ยี่ห้อแคนนอนเดล จำนวน 111 โครง 2.สายไฟ (ภายในโกดัง) 3.เครื่องปรับอากาศ 4.ตู้เย็น มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 4.5 ล้านบาท
ต่อมา ร.ต.อ.จักรภพ นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนกระทั่งพบว่าเฟรมจักรยาน (โครงรถ) ซึ่งแบรนด์ดังระดับโลก ถูกโพสต์ขายในออนไลน์ ในราคาเพียง 1,000 บาท ซึ่งขายในราคาท้องตลาดมีมูลค่ากว่า 40,000 บาทจึงวางแผนล่อซื้อและจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพัก ก่อนขยายผลยึดเฟรมจักรยานได้กว่า 60 เฟรม ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก และโกดังในพื้นที่ จ.นครปฐม
สอบถามนายท่าหลวงรับว่า เมื่อกลางปี พ.ศ.2567 มาหางานทำที่เมืองพัทยา โดยอาศัยหลับนอนตามที่รกร้างหรือตามข้างทางและประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปเพื่อยังชีพ
กระทั่งเดือน ธ.ค.2567 ก่อนสิ้นปี เดินมาตามถนนพัทยานาเกลือ เห็นว่าที่อาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเก็บของไม่มีผู้พักอาศัย เห็นเหล็กดัดที่ติดตั้งด้านข้างอาคารไม่ทราบว่าใครงัดไว้ จึงได้ลอดตัวเข้าไปในอาคารเพื่อนอนพักผ่อน ที่ห้องชั้นล่างของอาคารดังกล่าวเรื่อยมา
ต่อมาต้นเดือน ม.ค.2568 สังเกตเห็นมีกล่องเก็บสินค้าอยู่ในอาคารเป็นจำนวนมากวางอยู่ที่ชั้นล่างและชั้น 2 ของอาคาร เปิดดูพบเป็นเฟรมจักรยานถูกบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกทุกกล่อง ประกอบกับเคยโพสต์ขายสินค้าในเฟซบุ๊กมาก่อน จึงได้ใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่ายรูปเพรมจักรยานดังกล่าวโพสต์ขายในราคาเฟรมละ 1,000 บาท
หลังจากนั้นมีลูกค้าสนใจทักแชตมาสอบถามหลายคน ถ้ามีลูกค้าสนใจ ก็บอกให้ลูกค้ามาดูสินค้าที่หน้าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ให้ลูกค้าดูเหมือนว่าเป็นเจ้าของโกดัง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และตกลงซื้อขายได้ทันที ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.2568 เป็นต้น ได้นำเฟรมรถจักรยานที่อยู่ในอาคารดังกล่าวออกมาขายให้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก และขายให้ลูกค้าหลายคน บางคนก็ซื้อเพียง 1 เฟรม บางคนก็ซื้อหลายเฟรม โดยการรับเงินค่าเฟรมจะรับทั้งเงินสดและโอนเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง
จนกกระทั่งถึงวันที่ 23 ม.ค.2568 ได้จำหน่ายเฟรมจักรยานที่อยู่ในอาคารไปจนหมดทุกกล่อง หลังจากนั้นก็ได้ออกมาจากอาคารดังกล่าว เดินทางไปพักอาศัยอยู่ตามสถานที่รกร้างต่างๆ และนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่องในราคา 2,900 บาท บางส่วนนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุด
ทั้งนี้ ชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ขอประชาสัมพันธ์ว่าหากใครเคยซื้อเฟรมจักรยานยี่ห้อดังกล่าว จากผู้ต้องหา สามารถนำมาได้คืนที่ ห้องสืบสวน โดยเจ้าของโกดังยินยอมไม่เรื่อง หากไม่ยอมเอาสินค้ามาคืน ลูกค้าที่กลายเป็นเหยื่อ อาจจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหา ลักทรัพย์ หรือรับของโจร.