“สืบภาค 2 ลาดตระเวนออนไลน์ แกะรอยมิจฉาชีพโซเชี่ยล” จับ2ผัวเมีย ผลิตซิมเถื่อน SHUT DOWN BLACK- SIM
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 พ.ย.64 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำทีมสืบสวนของ ผบ.ตร. , บก.สส.ภ.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกันตรวจค้นจับกุม
1. นายอนุวัติ อายุ 32 ปี และ 2. น.ส.ณภษร อายุ33ปี สองสามีภรรยา
ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกที่ จ.287และ288/2564 ลงวันที่ 28 ตุลาคม2564
กล่าวหาว่า “ ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม , ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
จับกุมได้ที่บ้านในอ.เมืองพิษณุโลกพร้อมของกลาง
1. คอมพิวเตอร์ CPU 1 เครื่อง ตรวจสอบพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาตัดต่อบัตรประจำตัวประชาชน ประมาณ 15,600 ภาพ
2. เอกสารการลงทะเบียนเปิดเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกปลอมแปลง 69 ฉบับ
3. บัตรประจำตัวประชาชนปลอม จำนวน 68 ฉบับ ( 68 คน)
4. ซิมการ์ดผ่านการลงทะเบียนแล้วประมาณ 1,500 ซิมการ์ด
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของบก.สส.ภ.2 จัดตั้งตามแนวคิด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตรวจสอบพบ เฟซบุ๊ก (facebook) ที่ใช้ชื่อว่า “เบอร์มงคล รหัสเปลี่ยนชีวิต” ลอบจำหน่ายเบอร์โทรศัพท์ที่มีเลขสวยและมีการลงทะเบียนซิมการ์ดไว้แล้ว
กลุ่มคนร้ายจะลักลอบนำข้อมูลของประชาชนที่เคยสั่งซื้อซิมการ์ดกับกลุ่มคนร้าย ไปลงทะเบียนเปิดเบอร์ใหม่อีกจำนวนมาก โดยที่เจ้าของบัตรประจำตัวประชาชนไม่รู้เรื่อง
เมื่อกลุ่มคนร้ายลงทะเบียนด้วยข้อมูลของผู้เสียหายจนถึงกำหนดที่บุคคลคนหนึ่งจะลงทะเบียนเปิดเบอร์ได้แล้วนั้น ยังตัดต่อโดยปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนเดิมนั้น เปลี่ยนแปลงข้อมูลเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการรับลงทะเบียน
ทำให้ลงทะเบียนสั่งซื้อเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างไม่จำกัด ด้วยชื่อของผู้เสียหายและลักลอบขายเบอร์เหล่านั้นให้กับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ประสงค์ลงทะเบียนตามกฎหมาย บางรายมีราคาสูงถึง 270,000 บาท
อาจมีกลุ่มมิจฉาชีพซื้อเพื่อนำไปใช้งานทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ยากสร้างความเสียหายให้สังคม และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
อีกทั้งกลุ่มคนร้ายมีประวัติต้องโทษในคดียาเสพติดและอาวุธปืน ชุดสืบสวนได้รายงานให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ทราบ และลงมาควบคุมสืบสวนจับกุมด้วยตนเอง มอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่างผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำทีมสืบสวนของผบ.ตร.
ประกอบด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี บก.กค.ภ.1 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. พ.ต.อ.จุมพล อินทลักษณะ ผกก.ฝอ.3 บก.อก.ภ.2 พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่
พ.ต.ต.สุริยะ น้อยภักดี สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน พ.ต.ท.นรามินธร์ เทพจักรินทร์รอง ผกก.3 บก.ปส.3 พ.ต.ต.ประสาน อ่อนนวม สว.กก.3 บก.ปส.3และ เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.2
ร่วมกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมือง พิษณุโลก และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง พิษณุโลก รวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมประสานบริษัท ผู้ให้บริการ ร่วมตรวจสอบก่อนเข้าตรวจค้นและจับกุม2ผัวเมียที่บ้านในจ.พิษณุโลก
นอกจากยึดของกลางข้างต้นแล้ว ยังตรวจสอบพบมีการตัดต่อปลอมแปลงภาพบัตรประชาชนเป็นเอกสารที่ตกค้างในบ้านพัก 54 ใบและพบข้อมูลส่วนใหญ่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหา ที่ตัดต่อบัตรประจำตัวประชาชนไปแล้ว ถึง 10,600 ภาพ
ข้อมูลการปลอมแปลงที่ตรวจพบเหล่านั้นตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีตัวตนในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ของทางราชการ เพราะถูกปลอมแปลงข้อมูลในบางส่วน
สร้างความเสียหายกับประชาชนจำนวนมาก ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง และทางสังคมเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มมิจฉาชีพจะซื้อนำไปใช้การกระทำความผิดคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดประเภทอื่น
ชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และให้การภาคเสธโดยยอมรับว่าเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนเป็นของปลอมโดยซิมเหล่านั้นขายให้กับกลุ่มคนในโลกออนไลน์ผ่าน facebook อาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพมาซื้อ
ยอมรับว่าหมายเลขที่ตนเองขายไปจะถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ จากการสืบสวนพบว่ามีบางเบอร์ขายในราคาสูงสุดถึง 270,000 บาท
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ขอความร่วมมือให้ประชาชนตรวจสอบกับผู้ให้บริการโทรศัพท์โดยเร็วว่า ชื่อ–สกุลจริง ของตนเองถูกใช้ลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์อื่นที่ไม่ใช่ของตนหรือไม่ ขอเตือนผู้ประกอบธุรกิจประเภทนี้ หากตรวจพบจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย
ขณะที่พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 กล่าวว่า “ขอเตือนภัยประชาชน การซื้อของออนไลน์ เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ ให้ใช้ความระมัดระวัง หากมีความจำเป็นที่จะต้องส่งข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ให้ขีดคร่อมหรือใส่ข้อความลายน้ำพร้อมระบุข้อความให้ชัดเจนว่าใช้เพื่อการใด
อย่าชะล่าใจ อย่าไว้ใจใครในโลกออนไลน์ ด้วยความปราถนาดีจาก ทีมลาดตระเวนออนไลน์ บช.