สืบสายไหม ร่วมสืบบางประกง ทลายแก๊งลักรถรายใหญ่ รวบ 3 คนร้ายขณะชำแหละรถคาอู่ซ่อมรถย่านสายไหม
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่30 ต.ค.67 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 โดย พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อม พ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รอง ผกก.สส.สน.สายไหม พ.ต.ท.ปราโมทย์ อรชุน สว.สส.สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.สายไหม
ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง โดยพ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง พ.ต.ท.ชินพัฒน์ พุทธเมตตา รองผกก. สส.สภ.บางปะกง พ.ต.ต.พรศักดิ์ คชชะ สว.สส. สภ.บางปะกง และกำลังฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง ทลายแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่
จับกุมนายพิทักษ์กุล หรือเบนซ์ อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 266/2567 ลงวันที่ 29 ต.ค. 2567 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป นายวีรภัทร์ อายุ 32 ปี นายกันต์ชยุด อายุ 44 ปี
ของกลาง รถจักรยานยนต์ 15 คัน รถกระบะเสริมตู้ทึบ จำนวน 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 48 แผ่น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 3 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง อุปกรณ์สว่านไฟฟ้าและบัดกรี 4 ชิ้น ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 8 ใบ อะไหล่สวิตซ์สตาร์ท 14 ชิ้น จับได้ภายในบ้านเลขที่ x/11 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพ เมื่อเวลา 23.00 น. ( 29 ต.ค.) ที่ผ่านมา
หลังรับข้อมูลว่าบ้านหลังนี้ เป็นอู่ซ่อมรถมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปจับกุมมั่วสุมกันเป็นประจำ ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้รับการประสานงานจาก ฝ่ายสืบสวน สภ.บางประกง ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมาอยู่ในอู่รถดังกล่าวด้วย ฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม จึงได้บูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง ไปตรวจสอบ
พบนายพิทักษ์กุลบุคคลตามหมายจับ รวมถึงนายวีรภัทร์ และนายกันต์ชยุต ที่กำลังแยกชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อยู่
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และยังพบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยอีก 14 คัน รถยนต์กระบะตู้ทึบ 2 คัน ที่ใช้ในการขนย้ายรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หลังบ้านรวมถึงของกลางข้างต้น ตรวจยึดมาตรวจสอบที่ สน.สายไหม
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจรเพื่อค้ากำไร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางปะกง พร้อมของกลางรถที่แจ้งหายไว้ รถกระบะที่ใช้ขนย้าย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดไว้ อีกจำนวน 14 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ที่พบเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ มีการแจ้งหายไว้ในหลายพื้นที่ทั้ง สภ.ปลายบาง สภ.เสม็ด สภ.บางปะกง สภ.บางดสาธง และสภ.แสนสุข ซึ่งจะดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป