Friday, November 22, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันไอยรา1-พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง

    ไอยรา1-พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง

    ไอยรา1-พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 หรือเรียกง่ายๆผู้การสืบภาค 1

    ประวัติชีวิตไม่ธรรมดาแน่ ไม่งั้นคงไม่รับเลือกให้ขึ้นเป็นแม่ทัพนักสืบภาค 1 คุม 8 จังหวัด สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี  พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท      

    วันนี้จะพาไปรู้จักผู้การสืบภาค 1 คนนี้กันถึงที่มาที่ไปคร่าวๆกันครับ

    ผมเป็นคน จ.อุบลราชธานี  เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37  ได้ที่ 27 ของรุ่น เลยเลือกที่ สภ.พัทยา ชลบุรี

    ตอนนั้น พ.ต.ท.อุดม ภาชนะ เป็น สว.หัวหน้าสถานี ให้ผมเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน  ก็ทำสอบสวนมาประมาณ 5 ปี ที่พัทยา แล้ว มาทำหน้าที่สายสืบ  
                   
    ขึ้น สว.สืบสวนที่บางละมุง 1 ปี แล้ว กลับมาเป็น สวป.ที่พัทยา 2 ปี 8 เดือน เป็น สว.สืบสวน ที่ แหลมฉบัง ขึ้น รอง ผกก.สส.ที่แหลมฉบัง  รอง ผกก.สส.สภ.แสนสุข 

    ชีวิตวนอยู่ในเขตชลบุรี แต่ขึ้นผกก.อำนวยการ ที่ จ.ตราด ประมาณ 1 ปี 2 เดือน โยกมาเป็น ผกก.สภ.แหลมฉบัง ผกก.สัตหีบ  ผกก.บางแสน  ขึ้นรองผู้การชลบุรี   รองผู้การสืบภาค 2ขึ้นผู้การสืบภาค 1  ตอน ต.ค.60

    ไอดอลสืบสวน  แรกๆ  เป็น รอง สว.อยู่ที่พัทยา  ได้ร่วมงานกับท่านอัศวิน ขวัญเมือง ท่านเป็นชุดปราบปรามมือปืนรับจ้าง ของ ตร.ท่านก็ไปทำงานในเขตชลบุรี

     ตอนนั้นดังเรื่องมือปืนเมืองเพชร ข้ามมายิงที่ชลบุรี หรือชลบุรีไปยิงที่เมืองเพชร โน่นนี่นั่น มันจะเชื่อมโยงกัน ได้ทำงานกับท่านหลายเรื่องหลายคดี
              
    อีกท่านคือท่าน ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา  ร่วมงานกับท่าน ตอนท่านเป็นผู้การชลบุรี ตอนนั้นผมเป็น รอง ผกก.สส.สภ.บางแสน 
    แนวคิดท่านคือต้องทำชลบุรีให้สงบ แล้วต้องรบกับหลายๆคน คนไม่ดีก็ถูกจับ ถูกอะไรไป ก็มีทีม มีผม กับท่าน ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์  ตอนนั้น เป็น รอง ผกก.ป.เมืองชลบุรี  
                   
    แล้วมีพิพัฒน์ พ่วงแพร เป็น สว.นปพ.ที่ชลบุรี  มีคดีใหญ่อยู่ 2 คดี ที่ได้ทำร่วมกับท่านภาณุพงศ์  คือคดีจ้างวานฆ่าสาวโรงงานที่เขตบางแสน
     คนร้ายประมาณ 4-5 คน เอาผู้หญิง สาวโรงงานไปฆ่าก่อน แล้วข่มขืน ท่านภาณุพงศ์ จัดทีมลงไปสืบ จนรู้ว่าผู้ร่วมขบวนการเป็นใคร  

    ปมเหตุมาจากที่มันไม่พอใจ แล้วลวงมาข่มขืน   มันเลยให้ไอ้เสือโหย  ฆ่าก่อน แล้วบังคับให้ข่มขืนศพ

    มาทราบตอนหลังว่าหัวหน้าแก๊งคือ ไอ้เปรม หรือหม่อง มาตรแม้น รับงานมา แล้วให้พวกๆที่ร่วมกระทำผิด ข่มขืนทุกคน

    ตอนจับลูกน้องมันแล้วมันซัดว่า ต้องข่มขืนเพราะไม่งั้นเดี๋ยวจะซัดกันไปซัดกันมา มันก็เลยให้ทุกคนข่มขืนหมด ให้ร่วมด้วย
    ก็ตามไป มันสู้  ก็ยิงวิสามัญตาย  ส่วนไอ้เปรม มาตรแม้น มันหนี แล้วมีสายข่าวเรา แจ้งว่ามันหลบหนีอยู่ในโรงแรมซีไซส์ โรงแรมม่านรูด
    ก็ให้ลูกน้องไปตอนเช้า จะจับมัน มันก็ต่อสู้ ก็เลยถูกวิสามัญตายในโรงแรม  

    ชาตรี สุขศิริ ตอนนี้เป็น ผกก.อยู่สืบ 4 ใส่เสื้อเกราะ มันยิงสวนประตู ถ้าไม่ใส่เสื้อก็ตาย   

    อีกคดีคือยิงมาเฟียพัทยา มันจ้างมาจากเอสโทเนีย แยกตัวมาจากรัสเซีย บินมาฆ่าถึงพัทยา ตอนนั้นผมอยู่ รอง ผกก.สืบสวน สภ.บางแสน 

    คดีนี้ เป็นเหตุที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตั้งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ  เพราะเริ่มเห็น ภัยคุกคามจากคนร้ายข้ามชาติ
    ตอนจับมันไม่ยอมรับสารภาพ  ดึกแล้ว ผมขอคุยกับมัน เพราะก่อนหน้าค้นกระเป๋ามัน เจอรองเท้าเด็ก น่าจะไม่เกิน 4-5 เดือน สร้อยทอง บาทหนึ่ง  เงิน 5,000 ดอลล่าร์
    เลยคุยเรื่องลูกมัน ถามว่ามีลูกใช่มั้ย ลูกเป็นผู้หญิงใช่มั้ย มึงรักลูกมั้ย มันบอกว่ามันรัก
    ก็บอกว่า ตอนนี้ มึงไม่รับ ตำรวจก็จับมึงได้ ก็ติดคุก โทษมึงประหารชีวิต  ไม่มีโอกาสไปนอน ไปอยู่ประเทศมึงเลย คุกเมืองไทยทรมาน ถูกตุ๋ยตูดแน่
                   
    แต่ถ้ามึงรับสารภาพ ศาลไทยลดให้กึ่งหนึ่งนะ ถ้ารับสารภาพ แล้วก็จะมีลดโทษให้เรื่อยๆ มึงติดคุกจริงๆ อาจจะไม่ถึง 5 ปีก็ได้
    หรือประเทศมึง อาจจะแลกเปลี่ยนผู้ต้องหากลับประเทศก็ได้ มึงลองตรองดู เพราะยังไง ปฏิเสธ ต้องโดนเต็มที่อยู่แล้ว มึงคิดให้ดี
    นี่กูช่วย เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน แต่เราชี้ทางสว่างให้ มึงต้องคิดแล้ว  ว่าจะเอายังไง มันก็ขอดื่มน้ำก่อน
                   
    ผมก็ให้ลูกน้องไปเอาน้ำมาให้ พูดหลายรอบนะ ไม่ใช่รอบเดียว ให้มันฟัง กล่อมจนมันยอม จนมันรับ คุยผ่านล่ามภาษารัสเซีย ตำรวจไทยเราไปเรียนจนจบภาษารัสเซีย
    ปรากฏว่ามันรับสารภาพ พาไปงมปืนที่มันทิ้ง   ก็ไปงมจนเจอ ปืนดาวแดง นี่รับสารภาพ มันถอดประกอบ โยนทิ้งทะเล ไปหาเจอแหลมบาลีฮาย  

    อูริค วูล์ฟกัง อดีตมาเฟียเยอรมัน ผมเป็นคนจับ ตอนแรก ตม.มีชื่อ แต่ไม่ไปจับ รู้ ตัวมันก็อยู่ ผมก็เลยจะไปขอ ตอนแรกไม่ให้ ต้องทำเป็นหนังสือ 

    ผมถือหมายจับคนเดียวโดดๆ เข้าไปจับ ที่บ้านมันนั่นแหละ  แต่ก่อนเราทำงานร่วมกับสถานทูตเลยนะ

    ส่วนคดีที่วิสามัญ ร่วมกับ ณรัชต์ เศวตนันท์ สามีคุณแป้ง ตอนนั้นเป็น รอง ผกก.ป. คนร้าย มันเป็นเอดส์ขับรถแท็กซี่ที่มันจี้มา แล้วไปชนจักรยานเด็ก อุ้มขึ้นรถไปข่มขืน 

    ท่านภาณุพงศ์ ตั้งชุดไล่ล่า ก่อนวิสามัญฆาตกรรม คนเขายกมือท่วมหัว เพราะเขาหวาดผวาทั้งชลบุรี มาเป็นผู้การสืบภาค1 เป็นเวลา 2 ปี  คดีออกเยอะเหมือนกัน  ต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชาในอดีตที่วางรากฐานไว้ให้

    นักสืบมีชื่อชั้นที่ผ่านมาเป็นผู้การสืบหลายท่าน วางระบบสร้างทีม สร้างอะไรไว้  ทุกคนมีส่วนร่วมสร้าง ผมเพียงแต่มาจัดระบบ มาต่อยอดให้เขา

    โชคดี ผมได้พี่ปั๊ด(พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผบ.ตร.)คือบรมครูของพวกทีมสืบ ท่านเน้นให้พวกเรามีการจัดฝึกอบรม

    ท่านจัดอบรมโน่นนี่นั่น อะไรที่เรายังไม่รู้ โปรแกรมอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานสืบสวน เด็กๆ ก็มีทักษะ ผมก็มาสร้างเป็นทีม
    เราเข้าใจคนทำงาน เราเข้าใจว่า นักสืบ ไม่ชอบการบังคับ ต้องการกำลังใจ แล้วต้องการคนที่มาลงพื้นที่ มาคลุกกับเขา มากินอยู่ มาให้กำลังใจอย่างนี้
    คืออย่าเอาเปรียบกันมาก ก็เอาสิ่งที่เราเรียนรู้พวกนี้มาตลอด เราเห็น เห็นเซฟเฮ้าส์ของทีมระดับ ตร.พวกนี้ก็จะกินอยู่ด้วยกันตลอด
    อันนี้คือฝ่ายสอบนะ ฝ่ายถามนะ ฝ่ายบันทึกก็ทำไป เป็นทีม มันก็ทำงานได้ เราเห็นภาพ เราสั่งได้ เราสั่งเป็น อย่างน้อยมันก็ไปได้
    เพราะบางที ไอ้ที่สืบสวนมันประสบปัญหาคือ นายที่เป็นนาย มันไม่เข้าใจหัวอกผู้ปฏิบัติ มันสั่งไม่เป็น ว่าต้องทำอะไร มันทำให้เด็กไม่รู้จะเอายังไง
               
    แนวทางในการบริหารงานกองสืบ คือเบื้องต้นเลย เราต้องเอานโยบายของผู้บังคับบัญชามาถ่ายทอดก่อนเลย ว่า นายเขาสั่งมายังไง
    ทำนโยบายของ ตร. ของ ผบช.ให้สำเร็จตามเป้าหมาย เช่น ให้ปราบปรามพวกฉ้อโกงประชาชน นโยบายของท่านนายกฯ ของท่าน ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดูแลความมั่นคง ตำรวจ เราก็ต้องทำเต็มที่ 
    เรื่องยาเสพติดที่ตอนนั้นพี่ปั๊ด เขามาสร้างไว้ ที่ภาค 1  เหมือนกับเราเป็นที่พักยาแล้วที่ ปส.เขาจับ ก็มาโอเปอเรชั่น รอบ 2 รอบ
    พี่ปั๊ด เขาก็เลยให้เราเอาทำ เอารองชยานนท์ มีสติ มาจากอ่างทอง มาช่วย วางระบบ หาข่าว แล้วก็ให้ฝึกงานกับผู้เชี่ยวชาญ
    อย่างท่านประสงค์ อานมณี ทำไง เรียนยังไง ก็ไปเรียนรู้ อย่าไปอาย ไม่รู้ก็คือไม่รู้ ถ้าไม่รู้แล้วเรียนรู้ก็ใช่ได้ แต่ไม่รู้แล้วเสือกอวดรู้ ก็เกมโอเวอร์
    พี่ปั๊ด ก็มาเซ็ตทีมให้ บอกไม่ต้องทำเรื่องอื่น ทำเรื่องนี้ไปเลย มันก็สำเร็จจากเริ่ม 12 ล้าน จับได้ที่สิงห์บุรี ก็ 9 ล้าน 3 ล้าน 1 ล้าน ก็ได้เป็นเรื่องหมูๆ แล้ว

    ทำให้พวกขบวนการค้ายา เริ่มเปลี่ยนเส้นทางการขน แทนที่มันจะมาจากซีกนั้น มันก็ไปอีกซีกหนึ่ง มันก็เป็นเรื่องที่พวกเราได้ทำไว้ สร้างไว้

    ครับ….นี่คือเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ผู้การสุภธีร์ บุญครอง ผู้การสืบภาค1ครับ

    กากีกลาย27/7/62

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments