แฟ้ม(ไม่)ลับสีกากี โดย สมถวิล
หน้าที่ 19 “หมวดบอล” ขอรับราชการเดินตามรอยเท้าพ่อ สมกับนามสกุลของตนเอง
ร้อยตำรวจโทณรงค์เดช พิทักษ์ประชาชน “หมวดบอล” อายุ 23 ปี เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2537 พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมารีย์วิทยา นครราชสีมา ก่อนเบนเข็มเข้าสู่โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 53 เลือกเหล่าก้าวเข้าสู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 69 ได้รับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร สาขารัฐปศาสนศาสตร์บัณฑิต(ตร.)
เมื่อจบการศึกษาได้เลือกปฏิบัติงานแรกในตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง จากนั้นได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท คณะศิลปศาสตร์ สาขาอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต และในปัจจุบันได้รับคัดเลือกให้ไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมวด ฝ่ายปกครอง 3 กองบังคับการปกครอง โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โรงเรียนเตรียมทหาร โดยมีหน้าที่สำคัญคือการดูแลและปกครองนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ
เส้นทางบนทางเดินสีกากีของหมวดบอล
ต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ผมได้สัมผัสกับอาชีพตำรวจอย่างใกล้ชิดมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นทางด้านครอบครัวของผม ซึ่งมีทั้งพ่อและปู่ที่เป็นตำรวจ ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ตามพ่อไปทำงานที่โรงพัก เห็นพ่อที่ต้องทำงานหนัก ตอนนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจว่าตำรวจมีหน้าที่อะไรกันแน่ ก็ได้แต่ถามพ่อว่าพ่อทำอาชีพอะไร พ่อก็ตอบว่า “พ่อเป็นตำรวจ” นี่คงเป็นเหตุหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลือกมาทำอาชีพนี้ตามพ่อ เวลาใครถามว่าโตขึ้นผมอยากเป็นอะไร ผมก็จะตอบไปว่าผมอยากเป็น ตำรวจ
เมี่อชีวิตเริ่มเข้าสู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผมเริ่มหาที่เรียนพิเศษ เพื่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ผมยอมรับว่าช่วงนั้นอ่านหนังสือหนักมาก ทั้งยังทำข้อสอบเก่าย้อนกลับไปอีกหลายปี ช่วงนั้นเหนื่อยมากเพราะต้องเรียนเพื่อที่จะสอบของโรงเรียนมัธยมและก็ต้องแบ่งเวลาเพื่ออ่านหนังสือสอบเข้าเตรียมทหารอีกด้วย และสุดท้ายความฝันของผมก็สำเร็จ
ผมสอบติดเตรียมทหาร 4 เหล่า และผมก็เลือกเหล่าตำรวจ ซึ่งที่บ้านของผมก็เหมือนจะไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ อยากให้เป็นทหารมากกว่า อาจเป็นเพราะเห็นพ่อทำงานหนักมาตลอด แต่ผมก็ขอขัดใจเลือกเส้นทางนี้เอง สงสัยตอนนั้นยังไม่รู้ว่างานมันหนักจริงๆ
จนศึกษาจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้เลือกลงตำแหน่ง รองสารวัตร(สอบสวน)สน.พระโขนง ถึงได้รู้ว่าอาชีพตำรวจนั้นต้องเจอกับอะไรมากมายจริงๆ ทั้งงาน ทั้งคน ถ้าพูดออกไปคนทั่วไปก็คงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เราทำอยู่ คงจะมีเพียงแต่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจด้วยกันเองเท่านั้นที่จะเข้าใจกัน ว่าเราทำงานหนักนั้นเพื่อใคร ทำไปเพราะอะไร ความผาสุกของประชาชนนั้น คงเป็นเป้าหมายที่สูงสุดของอาชีพนี้
หลังจากทำงานได้ไม่นานผมได้รับคัดเลือกเข้าไปช่วยราชการในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวด ฝ่ายปกครอง 3 กองบังคับการปกครอง โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งในส่วนนี้จะดูแลในส่วนของนักเรียนเตรียมทหาร พูดง่ายๆคือเป็นผู้บังคับหมวดคอยดูแลปกครองนักเรียนเตรียมทหารทั้ง สี่เหล่าที่ โรงเรียนเตรียมทหารนั่นเอง และผมเต็มใจไป เพราะเห็นว่าเป็นหนทางหนึ่งที่ได้ตอบแทนบุญคุณ โรงเรียนเตรียมทหารที่สร้างผมขึ้นมา จากเด็กมัธยมธรรมดาๆ เติบโตไปสู่การเป็นข้าราชการในอนาคตได้
โรงเรียนเตรียมทหารเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของผมในการเป็นข้าราชการที่ดี และผมได้ใช้โอกาสนี้ในการปลูกฝังในสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ข้าราชการทั้งทหารและตำรวจควรจะเป็น และควรจะมี อุดมการณ์ การทำงานต่างๆ แนวทางในการใช้ชีวิต การฝึกศึกษาต่างๆ เมื่อได้รับโอกาสแล้ว ผมก็อยากทำให้ดีที่สุด เพราะน้องๆเตรียมทหารทั้งหลายนี้ ก็เป็นน้องที่คลานตามกันมาต่อๆกันเป็นรุ่นๆ เป็นเพื่อนข้าราชการกันในอนาคต ไม่อยากให้คนอื่นมาพูดถึงโรงเรียนที่ผมรักและเคารพในทางที่ไม่ดี ผมเชื่อมั่นในความรักความสามัคคีของสายเลือดเตรียมทหาร ถึงแม้จะต่างเหล่ากันก็ตาม
คติประจำใจ : ดาวและเดือนที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีนบันไดสูง ความฝันของเราที่จะอยู่สูงแค่ไหน ขอแค่พยายามและไปให้ถึงแค่นั้นพอ