แฟ้ม(ไม่)ลับสีกากี โดย สมถวิล
หน้าที่ 25 “หมวดแบงค์ สืบทอดจากครอบครัวรับราชการ ขอเลือกเดินบนเส้นทางสายสีกากี”
ร้อยตำรวจโทกษิดิศ สันติปรีชาวัฒน์ หมวดแบงค์ อายุ 23 ปี พื้นเพเป็นคนกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เบนเข็มชีวิต ศึกษาต่อโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 54 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 70 เลือกลงตำแหน่งแรกในตำแหน่ง รองสารวัตร(สอบสวน) สน.บางโพงพาง
แรกเริ่มเดิมทีอยากเป็นตำรวจอยู่แล้วตั้งแต่เด็กใช้ชีวิตช่วงปิดเทอมตามไปอยู่ที่ทำงานคุณพ่อ (พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ผกก.สน.พหลโยธิน) พ่อไปไหนก็ตามไปด้วยตลอด พอโตมาตอนมัธยมปีที่ 3 เลยเลือกไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่า (ตร.) ทั้งๆที่พ่อก็ห้าม บอกเองว่าไม่อยากให้เป็น มันเหนื่อย มันลำบาก แต่สุดท้ายก็ดื้อกัดฟันตั้งใจอ่านหนังสือสอบ ฝึกฝนตัวเอง ทำข้อสอบเก่าย้อนหลังเป็น 10 ปี ทำจนจำคำตอบได้เลยด้วยซ้ำ เข้ามาเป็นจนได้ จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาติดยศ ร.ต.ต.เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา
ต้องยอมรับว่าผมเองเกิดและเติบโตในครอบครัวตำรวจ จึงรักและผูกพันกับวงการสีกากีตั้งแต่เด็กๆ คุณปู่ผมเองก็เป็นตำรวจ (พ.ต.ท.อุบล สันติปรีชาวัฒน์) ชอบเล่าความหลังสมัยยิงเสือนั้นเสือนี้ บุกจับคนร้าย สมัยเด็กๆก็ชอบฟัง พอโตมาก็ใช้เวลาช่วงเวลาปิดเทอมไปอยู่กับพ่อ วิ่งเล่นอยู่ในกองเมืองโคราชบ้าง ตกปลาหลังโรงพักบ้าง เห็นตำรวจทุกวันๆ มันก็ซึมซับโดยไม่รู้ตัว
พอเข้ามาเป็นตำรวจ ติดผู้หมวด ช่วงที่ไม่ได้เข้าเวรช่วงพักเวร ก็จะตามมาช่วยงานคุณพ่อตลอด มาดูการทำงาน ยังคุ้นเคยกับตำรวจเหมือนเดิมโดยมีคุณพ่อเป็นแบบอย่างในการรับราชการตั้งแต่เด็กจนโต สำหรับตนเองนั้นผมมีหลักการทำงานคือขยัน และอดทน คนอื่นทำ 2 เราต้องทำ 4 ทำเหลือให้ดีกว่าขาด สิ่งไหนคือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต้องรีบแก้ไขรีบจัดการ ผู้ใต้บังคับบัญต้องทำงานได้อย่างเต็มความสามารถแต่เมื่อเวลาพักก็ต้องพักอย่างเต็มที่เช่นกัน
กีฬาสอนให้ผมรู้แพ้รู้ชนะ ความเป็นนักรักบี้ ตั้งแต่อยู่ วชิราวุธ-เตรียมทหาร-โรงเรียนนายร้อยตำรวจ นักรักบี้ทุกคนมีสปิริตที่มีในตัวเอง การแข่งขันกีฬาประเพณี ทหาร-ตำรวจ นั้นเมื่อลงสนามใส่เต็มที่ไม่มียั้ง เมื่อไหร่ที่กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาทุกคนคือเพื่อนกัน ไม่ว่าจะเหล่าไหน เกมจบทุกคนยอมรับในคำตัดสิน
คติประจำใจคือ ยึดหลักครองตน ครองคน ครองงาน คนอื่นทำ 2 เราต้องทำ 4