Tuesday, December 3, 2024
More
    Homeแม่บ้านตำรวจหลังบ้านผู้การต่อ คอมมานโด

    หลังบ้านผู้การต่อ คอมมานโด

     
    มีจังหวะได้นั่งคุยกันหลายเรื่องกับ คุณไก่-นิภาพรรณ สุขวิมล สาวมุกดาหาร คู่ชีวิตบิ๊กต่อ คอมมานโด-พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบก.ตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ 904

    ไม่ว่าจะเป็นการพบรักครั้งแรก สมัยคุณไก่ยังเป็นนักเรียนพยาบาลปี 3 ศิริราช เมื่อครั้งไปเที่ยวกับเพื่อนที่อาร์.ซี.เอ.  เจอผู้การหนุ่มใหญ่ที่ยังเป็น ร.ต.ท.สายตรวจ 191 ออกตรวจ

    ตลอดไปจนถึงการครองคู่ การใช้ชีวิตในฐานะภรรยาผู้นำหน่วยคอมมานโดกองปราบฯ ไลฟ์สไตล์ต่างๆ  รวมถึงเป็นผู้บริหารร้านอาหาร ก.เอ๋ย ก.ไก่ ซอยพิบูลสงคราม9 และ Commando Cofee Love ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Cops Stories  Cafe

    เริ่มจากที่มาที่ไปการทำร้านอาหารเป็นอันดับแรก  

    เพื่อนขอใช้ชั้น 3ของบ้านสอนเด็กรำไทย
    เริ่มแรกคือบ้านเราในซอยพิบูลสงคราม 9 เป็นบ้านทรงไทย 3 ชั้น ข้างบนเปิดโล่ง บางทีเราใช้จัดเลี้ยงกันเองชิลๆ พอ 3 ปีที่แล้ว มีเพื่อนมาขอใช้ชั้น 3  สอนรำไทยให้เด็กๆมาเรียนวันเสาร์ แต่พอมาแล้วผู้ปกครองไม่มีอะไรทานกัน ตอนแรกก็เปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ต่อมาก็เลยเต็มรูปแบบ  

    รับงานวันเกิด สัมมนา ฉลองแต่ง 180ที่
    ตอนนี้ก็เลยรับงานจัดเลี้ยง วันเกิด เลี้ยงสัมมนา หรืออะไรต่างๆทั้ง 3 ชั้น แล้วแต่ ชั้นบนรับได้ 70 ที่ แบบนั่งสบายๆ คือรวมทั้งหมด 3 ชั้น รับได้ทั้งหมด 180 ที่  มีลูกค้าที่ชอบบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง งานแต่งงานที่นี่ มีมาแล้วหลายคู่  เขาก็แฮปปี้ ผลตอบรับดีมาก 

    เราเน้นแบบน้องๆ ที่มีงบน้อย ไม่ได้มีงบมาก แต่จะเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น น่ารักๆ เป็นกันเอง เป็นบุฟเฟ่ต์ ราคามีตั้งแต่ 299 ขึ้นไป แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง  จัดเวดดิ้ง ปาร์ตี้ ได้หมด ทั้งสัมมนา จัดเลี้ยงบริษัท นี่จะบ่อยมาก จัดเกษียณ คือผู้ใหญ่จะชอบสไตล์อบอุ่น แบบเหมือนอยู่บ้านตัวเอง อะไรแบบนี้
                   
    เปลี่ยนชื่อเพราะกลัวคิดว่าขายแค่กาแฟ  
    ที่เปลี่ยนชื่อจาก Commando Cofee Love เป็น ก.เอ๋ย ก.ไก่ เพราะลูกค้าข้างนอก เขาเห็นชื่อคอมมานโดคอฟฟี่เลิฟ เขานึกว่ามีแต่กาแฟ  ก็จะงง แล้วพอมาเจอว่าร้านเรามีอาหารครบ  เลยคิดว่าควรจะเปลี่ยนชื่อ เพื่อความหลากหลาย ลูกค้าจะได้เข้าถึงมากขึ้น เป็นชื่อไก่ เอง

    ข้อดีเปิดร้านเพราะมีเพื่อนมาหา
    การที่เราเปิดร้าน ดีอย่างหนึ่ง ทำให้เหมือนเรียกเพื่อนมาหาเรา นี่คืออย่างหนึ่ง เมื่อคิดถึงระยะยาว ถ้าเราเกษียณ เราไม่เหงา เสาร์ อาทิตย์ อยู่บ้านก็ไม่เหงา กิจกรรมเราจะไม่อยู่แค่ในห้องนอน  จะมีเพื่อนฝูงมาเยี่ยมเยียน  ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

    พี่ต่อเองจะชอบมาก เวลาลูกค้ามา แกจะนั่งคุย แล้วแกจะเจอลูกค้าหลายอาชีพ ได้คุยกับลูกค้าแลกเปลี่ยนกันสนุกสนาน ลูกค้ามาก็เหมือนเป็นเพื่อนเลย

    เปลี่ยนเป็น Cops Stories  Cafe
    ตอนนี้มีทั้งหมด 3 ร้าน คือใช้ชื่อ ก.เอ๋ย ก.ไก่ อยู่ตรงนี้ เป็นสำนักงานใหญ่ แล้วจะมี Cops Stories อีก 2 แห่งที่ ป.ใหญ่และสนามยิงปืนราชสวัสดิ์ เปลี่ยนชื่อจาก Commamndo Coffee Love เพื่อจะได้เข้าถึงหน่วยงานตำรวจหลายๆที่ไม่ใช่แค่คอมมานโด

    แล้วเรามีแพลน ถ้าหน่วยงานไหน อยากให้เราไปตั้งให้  อย่างที่ ป.ใหญ่ เหมือนกลายเป็นที่สันทนาการของทั้งตำรวจ ทั้งทนาย ประชาชน

    จะได้ไม่ต้องเครียดกับสถานที่ราชการ คือบางทีเขาใช้เป็นที่นั่งรีแลกซ์ พูดคุย ประชุมกัน อย่างที่สนามยิงปืน ก็เป็น Cops Stories  Cafe

    Cops Stories ขายถูกเพราะเป็นที่ราชการ
    สำหรับพนักงาน  2 สาขา เขาจะแลกเวรกัน สลับเวรกัน ไม่เกี่ยวกับที่นี่ ที่นี่จะมีพนักงานไปเสิร์ฟให้เฉพาะเวลาที่โน่นขาดคนจริงๆ แต่ส่วนมากจะบริหารกันได้ ทั้ง 2 สาขา  เป็นรูปแบบเดียวกัน แต่หน้าตาจะเปลี่ยนไป  พอเข้าไปที่นั่น ราคาจะลดลง เพราะเป็นสถานที่ราชการ จะลดราคาลง หน้าตาก็จะไม่เหมือน แต่รสชาติเหมือนกัน

    แนวคิดพี่ต่อคือจุดกำเนิดร้าน
    Cops Stories เป็นแนวคิดพี่ต่อ เริ่มจากที่อยากจะให้เป็นสวัสดิการของตำรวจ เริ่มที่ Commamndo Coffee Love  สาขาแรกที่คอมมานโด โชคชัย 4  ตอนนั้นไม่ได้เข้าไปดูแลให้เต็มที่ ผลประกอบการมันไม่ดี

    พอไก่ไปทำให้ เปลี่ยนชื่อเป็น Cops Stories แล้วเราให้เป็นสวัสดิการตำรวจ  กำไรส่วนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาเด็กในงานวันเด็ก หรืองานตำรวจ แต่ละครั้งแล้วก็มีที่เราจ่ายเป็นค่าเช่า ก็มอบเป็นสวัสดิการของตำรวจ  

    ฝึกลูกเมียตำรวจ ให้มีอาชีพ
    แล้วเอาลูกน้อง ลูกเมียตำรวจที่อยู่เฉยๆ  มาฝึกงาน  จากไม่เป็นจนเป็น มาช่วยเรา  บอกเด็กทุกคนว่าให้คุณฝึกไว้ วันหนึ่งคุณทำได้ คุณอยากจะเปิดร้าน คุณไปเลย  ได้อาชีพแล้วคุณไปเลย บอกน้องๆแต่ส่วนมากก็ไม่ไปนะ

    ที่เคยออกไป5-6 คน ก็กลับมาใหม่ ตอนนี้มีพนักงานประมาณ 15 คน จะมีเด็กๆ ลูกหลานตำรวจที่ยังเรียนอยู่ มาเป็นพาร์ทไทม์ เด็กๆ ก็แฮปปี้ มีอาชีพติดตัว เขาอยู่กับเราก็แฮปปี้

    ต่อยอดธุรกิจ มุกดาหารบ้านเกิด
    มีที่จะไปต่อยอดธุรกิจ ไปทำที่ภูมโนรมย์  จ.มุกดาหาร  บ้านเกิดไก่  เป็นวัดที่มีพระใหญ่สีขาว มีพญานาค ที่เขาไปสักการะบูชากัน  คนไปเยอะมาก จะเอาโอทอปของชาวบ้านมาด้วย ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง น่าจะเปิดในเร็วๆนี้ เป็นร้านกาแฟ มีเค้ก ขนม  เป็นจุดบริการประชาชนไปในตัว

    ร่วมบิ๊กต่อเป็นเถ้าแก่ขอสาว

    มีโอกาสร่วมไปกับพี่ต่อเป็นเถ้าแก่ ของสามีภรรยาหลายๆคู่ รู้สึกเป็นเกียรติมาก คู่แรกๆ ตั้งแต่สมัยที่พี่ต่อ เป็น ร.ต.ท. เกือบ 18-19 ปีแล้ว  รู้สึกจะเป็นลูกน้องอยู่ 191 ไป จ.กาฬสินธุ์ หรือร้อยเอ็ด นี่แหละ  ส่วนไก่ ที่ได้ไปกับแกจริงๆ

    เริ่มตอนที่เป็น สว.ท่องเที่ยว คู่แรกเป็นลูกของลูกน้อง จากนั้นก็จะมีมาเรื่อยๆ เป็นลูกน้องประมาณแล้วน่าจะเกิน10คู่   ดีใจที่น้องๆ ให้เกียรติ ทุกครั้งที่ไป รู้สึกอบอุ่น  อยากให้เขามีความสุขกัน  
                   
    ภูมิใจ น้องๆให้เกียรติเชิญเป็นผู้ใหญ่
    คู่ชีวิตสาวที่มีวัยห่างจากผู้การคอมมานโดถึง 16 ปีเล่าให้ฟังต่อว่า เวลาไปกับพี่ต่อไปเป็นเถ้าแก่ ไปสู่ขอเจ้าสาวให้ลูกน้อง  ทุกครั้งก็ภูมิใจที่น้องๆให้เกียรติ รวมทั้งความรู้สึกไก่ ก็คือแสดงว่าเขาต้องศรัทธาเรามาก ถึงได้เชิญไปเป็นเถ้าแก่ให้ เขาเชื่อมั่นว่าจะทำให้งานพิธีของเขา หรือทางฝ่ายเจ้าสาวเขาโอเค.เขาแฮปปี้ 

    แล้วแต่ละครั้งที่ไป พี่ต่อ ก็จะให้โอวาท ให้น้องๆ ครองรักกัน ให้คำมั่น สัจจะกับฝ่ายเจ้าสาว  แล้วไก่ เอง  ก็มีหน้าที่เน้นไปทางเจ้าสาว วิธีปฏิบัติ ก็จะมีการปูเตียง คล้องมาลัย สวมมงคล  

    แนะนำการครองคู่ ให้อดทน-ทำใจ
    ก็จะแนะนำการครองคู่ ให้รู้ว่าการที่เราเป็นแฟนตำรวจ  ต้องอดทนขนาดไหน ต้องรับได้ทุกสถานการณ์ เพราะการเป็นแฟนตำรวจ จะคาดหวังว่าสามีจะมีเวลาให้ 100% หยุดในช่วงเทศกาลไม่มีทาง

    คุณต้องพร้อมรับว่า กินข้าวกันอยู่ดีๆ สามีคุณโดนเรียกรวมกำลัง ทำงานด่วน หรืออะไร ต้องทำใจ อยู่คนเดียวก็ต้องทำใจ แล้วความอดทนความเข้าใจต้องมาอันดับ 1 เลย สำหรับครอบครัวตำรวจ

    หลังบ้านที่ดี สามีลุยงานได้เต็มที่
    ประสบการณ์ตัวเอง  พี่ต่อให้ดูแลหมด ทั้งลูก ทั้งทุกอย่าง ตอนนี้ลูกๆคนโต อายุ 14  คนเล็ก 11  ก็ดูแลทุกอย่าง พี่ต่อไม่ยุ่งเลย ให้ตัดสินใจเองหมด ทั้งบ้าน ทั้งงาน ทั้งอะไรทุกอย่างให้เราดูแล เพราะถ้าเราเป็นหลังบ้านที่ดี เรามั่นคง  เข้มแข็งพอ

    เขาจะไม่ห่วงเรา  เขามีหน้าที่ทำงานนอกบ้านไป

    ส่วนของเรา ไม่ต้องมาห่วงว่าจะอยู่ได้มั้ย  

    ใครมีปัญหาครอบครัว พี่ต่อให้มาปรึกษา
    ยิงตอนนี้ พี่ต่อเป็นผู้การ ยิ่งมีความรู้สึกว่าพี่เขามีภารกิจเยอะขึ้น สิ่งแรกคือทำใจก่อนว่า ไม่มีเวลาให้เราแน่อยู่แล้ว แต่พี่ต่อก็คือเหมือนเดิม  ดูแลลูกน้องยังไงก็เหมือนเดิม ลูกน้องเขามีปัญหา พี่ต่อก็จะแก้ปัญหา  ถ้ามีปัญหาครอบครัว ก็จะส่งภรรยาทั้งหลายมาคุย ไก่ก็จะคอยสอน แม้กระทั่งทุกวันนี้

      ต้องเข้าใจว่าผู้ชาย ไม่ว่าอาชีพไหน มันก็จะมีปัญหาครอบครัวอยู่แล้ว  ฉะนั้นเวลามีปัญหา พี่ต่อจะพูดเลย ให้มากินข้าวกับไก่ ให้มาหาไก่ เราก็คิดว่าเกิดอะไรขึ้น สักพักเราก็รู้แล้ว
                   
    ใครนิ่งและอดทนได้มากที่สุดชนะ
    พี่ต่อจะโยนมาเรื่องครอบครัวลูกน้อง  เพราะแกจะบอกว่า ตัวพี่เองก็ไม่ได้ 100 ตัวพี่ก็เอาตัวไม่รอด ให้มาคุยกับไก่  คุยแล้วไม่ใช่ว่าคุณจะดี 100% แต่ใจคุณจะดีขึ้น คุณจะสามารถประคองชีวิตคู่ของคุณไปได้อีกยาวไกล คือไก่ เชื่อว่าทุกครอบครัว ปัญหามันไม่ได้แก้ได้ใน 15 วัน หรือเดือนหนึ่ง

    ใครที่มีความอดทนได้มากที่สุด คนนั้นชนะ หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง เราพูดรวมทุกสิ่งอย่างเลย ใครยิ่งนิ่งและอดทนได้มากที่สุด คุณก็จะชนะเอง

    สำคัญสุด เข้าใจและอภัยให้กันจริงๆ
    เวลาที่ได้มาคุย ผู้ชายก็แฮปปี้  ผู้หญิงก็แฮปปี้ สบายใจขึ้น ก็ยังอยู่ด้วยกันได้  ถ้ามันหุนหันพันแล่น ไม่อภัยซึ่งกันและกัน ก็จะทุกคู่ ไปเลย แต่ถ้าคุณฟังเราสักนิดหนึ่ง ให้รู้ว่าธรรมชาติผู้ชายเป็นยังไง หรือเราต้องทำอะไรยังไง แล้วเราจะได้ชัยชนะกลับมา ถ้าคุณฟังเราสักนิดหนึ่งแล้ว คุณจะรักษาครอบครัวไว้ได้

    ที่สำคัญคุณต้องเข้าใจ และมีใจให้อภัยกันจริงๆ แล้วต้องออกมาจากใจ อภัยแล้วต้องไม่มานั่งขุด มาพูดกันอีกแล้ว ไม่งั้นมันก็ไม่จบ พูดจริงๆ คุณยังรักเขามั้ย ถ้ารัก คุณให้อภัยเขามั้ย ไก่เห็นหลายคู่แล้ว สุดท้ายมา ก็มาขอบคุณนะพี่
                  
    เมียตำรวจนอกหน่วยโทรฯมาระบาย
    มีถึงขั้นเห็นไก่ ในหน้าเฟซ  ครอบครัวตำรวจนี่แหละ แตไม่ใช่ในหน่วย  เขามีปัญหา แมสเซ็นเจอร์มาถาม พี่ไก่ มีปัญหาอย่างนี้ๆนะ โทร.คุยกันเลย  เป็นชั่วโมง  เขาต้องการคนคุยนะ เวลานั้น ช่วยให้เขาได้ระบายก่อน ไม่รู้จักด้วย  เห็นกันแค่ในหน้าเฟซ

    แล้วน้องผู้หญิง ก็มากราบขอบคุณ บอกว่าถ้าไม่มีพี่ไก่ วันนั้น  คงแย่ เพราะว่าคนเรา ผู้หญิง เวลารัก แล้วถ้ายังไม่ถึงที่สุด ทิฐิมาก่อนเลย  
    ปัญหาคล้ายกัน หนักเบาไม่เท่ากัน
    ถ้าเกิดเราช่วยแล้ว แต่คู่ชีวิตของคุณช่วยไม่ได้ก็คือจบ อันนั้นไม่เป็นไร ถ้าเกิดเราให้อภัย เราให้โอกาส ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ อาจจะ 10 ครั้ง 100 ครั้ง บางทีก็ต้องให้เขา ถ้าคุณคิดว่าคุณยังจะรักษาครอบครัวไว้ ยังรักกันอยู่ ต้องชั่งน้ำหนัก ความดี ไม่ดี

    แก้ปัญหาแต่ละคู่ ถามว่าเหนื่อยมั้ย ก็เหนื่อย แม้ปัญหาจะคล้ายๆ กัน แต่บางคนก็หนัก แบบว่าผู้ชายคือไม่เอาเธอแล้ว หรือบางคนก็แบบ ฉันจะเอาทั้งคู่
                   
    เข้าใจ-อภัย คัฟเวอร์ทุกอย่าง
    แบบที่จะเอาทั้งคู่ นี่คือแบบ บอกเมียเลยว่าจะเอาทั้งใหม่และปัจจุบัน นี่คือลูกน้องเราด้วยนะ  แต่เจอไก่ สอนให้กลับลำไป  คอมมานโด ก็มีหลายรูปแบบ แต่ไก่ ต้องพยายามให้เขารักษาครอบครัวไว้ก่อน  ถ้ามันเหลือบ่ากว่าแรง ก็ให้เขาตัดสินใจของเขาเอง แต่อันดับแรกต้องบอกเขาว่าธรรมชาติเป็นยังไง นี่คือหน้าที่หลักของไก่ 

    คือพี่ต่อ โยนมาเลย ถ้าเรื่องพวกนี้แกจะโยนมาให้ เราก็มีหน้าที่ตรงนี้  สำหรับส่วนตัว  หลักการครองชีวิตคู่ของไก่เอง คือ ความเข้าใจ ต้องมาที่ 1 แล้วก็อภัย แค่นี้เอง เข้าใจ และอภัย มันคัฟเวอร์ทุกอย่างเลย
                  
    ไม่ห่วงผู้การต่อ ฝึกหนักทั้งที่อายุ 54
    ถามว่ารู้สึกยังไง กับการที่พี่ต่อ ฝึกหนักขึ้นทั้งที่อายุเข้า 54 ปีจริงๆ ตอนแรกก็ห่วงนะ เพราะอายุก็เยอะขึ้น แล้วไปทำอะไรที่เสี่ยง แต่พอเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว รู้สึกว่าแกพร้อม  อาจจะเป็นเพราะ สุขภาพแกก็ไม่เหมือนคนอายุ 54 

    ด้วยความที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่  คือดูแลตัวเอง คิดว่าก็ไม่น่ามีปัญหา เป็นความชอบของแก ลูกสาวทั้งสอง ก็ติดมาด้วย ชอบยิงปืน เหมือนพ่อเด๊ะ
                   
    ที่ 3 ยิงปืนภายใต้สภาวะกดดัน
    ไก่ก็ฝึกนะ ยิงปืนได้ แต่ยิงแบบสภาวะกดดัน ของคอมมานโด วิ่งยิง แบบนั้นเลย  เพิ่งแข่งไป ได้เหรียญทองแดงมา   ลูกๆ ก็ไปฝึกยิงด้วย กลายเป็นกิจกรรมในครอบครัว ตอนแรก คิดว่ามันห่างไกลตัวเอง 

    เมื่อก่อนเวลาพี่ต่อไปออกตรวจ เข้าเวรวัง หรือไปอะไรที่ไม่อยู่บ้าน แล้วเราอยู่กับลูกๆ เราจะกลัว ปืนเราเต็มบ้านเลยนะ แต่เราไม่เป็นเลย แค่หยิบปืนเรายังกลัว 

    แต่วันที่เราไปฝึก ก็เข้าใจ การที่เราเป็นบ้าง ไม่ต้องถึงขนาดเก่ง แต่เป็นไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ไก่ว่ามีประโยชน์ เพราะถ้าสามีไม่อยู่ แล้วขโมยขโจร ขึ้นบ้าน คุณสามารถหยิบจับอาวุธป้องกันตัวได้  
                   
    ดูแลตัวเองได้ สามีไม่ห่วง
    แต่ถ้าเกิดคุณไม่เป็นเลย ก็จะกลัวอยู่อย่างนั้น  ถ้าไม่จับเราก็จะไม่รู้สึกปลอดภัยในชีวิต แล้วสามีเราที่ออกไปทำงาน ไก่เชื่อว่า ยิ่งสามีเราไปจับผู้มีอิทธิพล หรืออะไรก็ตามที่ที่มีศัตรูเยอะ แล้วเราเองก็เป็นเป้า

    ไก่ว่า ถ้าเราอยากดูแลตัวเองได้ระดับหนึ่ง  ความห่วงใย ความกังวลของคนที่ไปปฏิบัติหน้าที่ก็จะลดลง เขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่  
                   
    ขาด15คะแนนได้เหรียญเงิน
    ไปฝึกยิงได้ครึ่งปี จริงๆไก่ ฝึกยิงแค่ 3 วัน  ครูนพ สอน 3 วัน ที่สนามยิงปืน สอนเบสิคแล้วเข้าอบรม 5 วัน  ต้องมีท่านี้ๆ นะ ฝึกจากครูนพ  ได้ทองแดงเลยครั้งแรก ถ้าในทองแดง ไก่ ได้ที่ 1  เพราะได้คะแนนสูงสุด ขาดอีกประมาณ 15 คะแนนมั้ง จะได้เงิน เสียดายมาก 

    พี่ต่อแกไม่เชื่อเลย  ยังบอกเราก่อนว่า ไก่ ไม่ต้องคิดมากหรอก ขนาดนักเรียนนายร้อย เขายังไม่ได้เหรียญเลยก็มี

    เคยฝึกเมื่อ20ปีก่อนแล้วทิ้ง
    ไก่ ก็บอกงั้นตัวเองก็อัดฉีดมาสิ ว่าเหรียญนี้เท่าไหร่ แล้วแกก็ไปยืนเชียร์ แกก็งง  วิ่งเสร็จ 5 รอบ แล้วก็ยิง ยิงเสร็จแล้วก็มือเดียว ซ้าย ขวา  เหมือนผู้ชาย ฝึก 5 วัน แล้วสอบเลย ไม่เคยยิงมาก่อน มีพี่เขาเคยสอนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สอนจับปืน ยิงปืน ครั้งเดียว แล้วไม่สอนอีกเลย

    ที่ไปฝึกยิง ก็ด้วยความที่สนามยิงปืนราชสวัสดิ์ เปิดใหม่ มีทุกอย่าง แล้วก็มีคนนอกเขาหาเวลามากัน แต่เราอยู่ตรงนั้นแท้ๆ น่าจะนิดหนึ่ง
                  
    เห็นพี่ต่อทำบุญมาตั้งแต่คบกันใหม่ๆ
    ส่วนเรื่องที่พี่ต่อ ได้ฉายาเป็นมือปราบสายธรรมะ คือเราจะไปทำบุญด้วยกันตั้งแต่คบกันแรกๆ ตั้งแต่ไก่ อายุ 20ปี  ก็มีไปถวายเทียน ไปหล่อเทียน ทำบุญกันมาตลอด สร้างพระประธานอะไรอย่างนี้ 

    ส่วนสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ชอบ ตอนนี้ก็คือที่วัดป่าภูทับเบิก พี่ต่อ เป็นคนไปเจอ ก็คือแฟนของลูกน้องแนะนำ พากันไป  

    ช่วยเหลือคนมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไร
    พี่เขาเป็นคนใจบุญ ใครขออะไรก็ให้ แต่บางทีเราจะคิดแล้วค่อยๆเบรก ว่าจำเป็นจริงมั้ย  เพราะผ่านมาเยอะ คือช่วย ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้พวกประเภทมายืม แล้วไม่คืนแล้วตัวเองยังใช้ชีวิตหรูอย่างนี้  อันนี้คือทำให้เป็นบทเรียนว่า คนที่มายืม ยืมไปเพื่ออะไร

     ตอนหลังแกเลยให้ไก่เป็นคนดูแล เพราะเงินเดือนตำรวจ มันไม่ได้เยอะหรอก แต่พอมีใครลำบาก เราก็สงสารนะ   พี่เขาช่วยคนแบบนี้มาตลอด นานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีอะไร เมื่อก่อนไม่มีแบบนี้ แต่แกเป็นคนขยัน เลยไม่เคยลำบาก ครอบครัวไม่เคยลำบาก
                   
    ขยันทำมาหากินตั้งแต่ยศร.ต.ท.
    สมัย ร.ต.ท. ไปติดต่อแฟนลูกน้องที่หมอชิต เขามีบูธขายของในชานชาลา  ตอนนั้นจะมีชั้น 2-3 ขายน้ำ ขายขนมก่อนคนขึ้นรถ แกเอาน้ำเปล่าได้ขวดละ 50 สตางค์มั้ง ไปขายน้ำโพลาลิส ขวดขุ่นๆ ได้เดือนละ 2-3 หมื่น   มีเงินมาก็เอาไปเล่นแชร์ ของคาลเท็กซ์ ได้ดอกมาเป็นก้อน อยู่กันอย่างประหยัด พี่ต่อไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อบายมุขไม่เล่น

    เมื่อก่อนกินข้าวกันใต้ถุนแฟลต 191 จะมีแม่บ้านที่เขาทำกับข้าวขาย กับข้าว 3 อย่าง ข้าวเปล่าคนละจาน โค้กขวดหนึ่ง มื้อหนึ่ง 90 บาท ไม่เกิน 100 ที่กินกันทุกเย็นๆ  ไม่ได้กินหรูหราอะไรเลย แล้วเราถึงเก็บๆ กันมา จนมีทุกวันนี้

    ขวัญดาว14/4/62 

            

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments