ภาพการทวงแผ่นดินคืนที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ชายแดนไทยเขมร
นอกจากแกนนำนายวีระ สมความคิด ยังมี “สารวัตรแรมโบ้”พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ร่วมคอยให้กำลังใจทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ยืนหยัดจะร่วมกับชาวบ้านทวงคืนผืนแผ่นดินไทยคืนมาให้จงได้


”สารวัตรแรมโบ้“เป็นอดีตนายตำรวจกองปราบขาลุยเมื่อ20-30ปีก่อน
หลายคนคงมีภาพจำกับนายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่ มีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาคนนี้
มักลุยบุกจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีต่าง ๆมากมายแบบไม่สนหน้าหน้าอินทร์หน้าพรหม บางครั้งก็บุกเดี่ยวหรือมีลูกน้องคู่ใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า “สารวัตรแรมโบ้”
ภูมิหลังสารวัตรแรมโบ้
เขาโตมาในรั้วปทุมวัน พ.ต.อ. สุรโชค เจษฎาเดช อดีตผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ หรือสารวัตรแรมโบ้ ที่แม้จะเป็นผู้กำกับแต่ก็ยังคงฉายาเดิมไว้ย้อนอดีตเล่าว่า
เขาคือสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง มีต้นแบบจากจ่าตุ้มผู้เป็นปู่ และหมวดสวัสดิ์ ผู้เป็นพ่อที่เป็นตำรวจสันติบาล


เขายังได้ใช้ชีวิตวิ่งเล่นในทุ่งปทุมวันมาตั้งแต่เด็ก เพราะอาศัยอยู่ในบ้านพักตำรวจที่นั่น ปัจจุบันคือสถาบันนิติเวชฯ ทำให้เขาคุ้นเคยกับแวดวงตำรวจมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
พอโตขึ้นเริ่มเดินบนเส้นทางสีกากี เป็นตำรวจชั้นประทวน สังกัดสันติบาลตามรอยบิดา ต่อมาเรียนต่อระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีปทุม และระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ภายหลังนำวุฒิไปปรับเพื่อเลื่อนเป็นชั้นสัญญาบัตร เป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นเดียวกับ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ-ผู้การแต้ม เจ้าของฉายามือปราบหูดำ
กีฬาเป็นยาวิเศษ
สารวัตรแรมโบ้เป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง เพราะชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก สนใจศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่าง ๆ อาทิ มวยไทย เทควันโด และยูโด เรียกว่ากวาดรางวัลมานับไม่ถ้วน ทั้งเหรียญเงินเหรียญทอง เขาก็เคยครองแชมป์มาแล้ว
ส่วนเส้นทางรับราชการสารวัตรแรมโบ้ย้อนให้ฟัง
อยู่กองปราบ เกือบ 10 ปีนะ ตั้งแต่ ผู้การบุญชู วังกานนท์ ผู้การรุ่งโรจน์ ยมกุล รังสิต ญาโณทัย คำนึง ธรรมเกษม อยู่กอง 2 ตลอด แผนก 3 กอง 2 บ้าง คอมมานโดบ้าง เคยเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล หน่วยสยบริปูสะท้าน คนแรกของกองปราบ


ติดยศพ.ต.ต.ขึ้นสารวัตรสอบสวนที่พยุหะคีรี กลับมานครบาล เป็น สว.ป.สน.บางกอกน้อย สไลด์ เป็น สว.ปปป. เดือนหนึ่ง แล้วไปเป็น สว.อาวุธปืน กองทะเบียน กรมตำรวจ ทำเรื่องรื้อการทุจริตทำใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน
หลังจากนั้น เป็น รอง ผกก.อก.กองบินตำรวจ รอง ผกก. สรรพาวุธ รอง ผกก.อก. บช.ปส.เป็นได้ 2 เดือนกว่า ก็มาเป็น รอง ผกก.ปพ.ภาค3 อยู่ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ภาค 3
“เป็น รอง ผกก. นานมาก น่าจะ 15-16 ปี แล้วก็เป็น ผกก.สืบสวนจังหวัดอำนาจเจริญ 4ปีก่อนจะเกษียณอายุปี61”
ชีวิตลิขิตเองไม่ได้
ถ้าพูดถึงในแวดวงสีกากี ยุทธจักรนี้สารวัตรแรมโบ้บอกว่าไม่มีมิตรแท้ แม้แต่นายบางคนก็ยังไม่จริงใจกับเราเลย เขาจึงถูกโยกย้ายแบบนายจัดให้ (ไปอยู่ไกล ๆ และย้ายออกไปนอกหน่วย)
เขาอยู่มาหลายสังกัด ทั้งกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์ แต่เจ้านายไม่ค่อยรักมักมองข้ามหัวเสมอ เขาเล่าด้วยความน้อยใจกับชีวิตราชการที่ผ่านมา

ภูมิใจกับผลงาน
ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นในความดีที่เขาทำ แต่สายเลือดตำรวจในตัวของสารวัตรแรมโบ้ยังเข้มข้นไม่มีวันจาง เขาเล่าถึงคดีที่ภาคภูมิใจหลายคดีให้ฟัง
อาทิ บุกจับ 3 ผู้ก่อการร้ายสากลที่วางระเบิดสถานทูตกลางกรุงพร้อมของกลางเป็นระเบิด TNT จับกลุ่มเขมรแดงเป็นขบวนการค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ตาพระยา พร้อมอาวุธปืนกว่า 100 กระบอก
จำได้งานนี้มีการแย่งชิงเงินล่อซื้อด้วยและต่อสู้ดวลปืนกันสนั่นป่าชายแดนไทย – เขมร ทำให้มีทั้งจับเป็นและจับตายในคดีดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีคดียิงสาวงามเทพีหาบเงินหาบทองตาย พร้อมพี่ชายที่บาดเจ็บสาหัส คดีนี้ผ่านมาเกือบ 20 ปี ใกล้หมดอายุความ เจอหลานคนตายมาขอให้ช่วยคลี่คลายคดี สุดท้ายจับคนร้ายได้ก่อนคดีหมดอายุความไม่กี่วัน
และยังมีคดีเรียกค่าไถ่สังหารเสี่ย 100 ล้านและเลขาฯ แล้วโยนศพทิ้งเหวสุวัต คนร้ายหนีลอยนวลไปได้นับ 10 ปี จนกระทั่งมาชุบตัวเป็นช่างผมดังในกรุงเทพ ฯ
พอสารวัตรแรมโบ้สืบรู้ก็ส่งลูกน้องเข้าไป ทำทีเป็นลูกค้ามาตัดผมเพื่อหาข่าว จนมั่นใจว่าเป็นคนร้ายที่หนีคดีมายาวนาน จึงบุกรวบคากรรไกรในร้านตัดผม
นอกจากนี้ยังมีคดีจ้างวานฆ่าลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เหตุเกิดจากขัดแย้งผลประโยชน์ในวัดบ้านไร่ คดีนี้คนร้ายไม่ใช่อื่นไกลเป็นคนสนิทใกล้ชิดหลวงพ่อนั่นเอง


ยังมีคดีจับคนร้ายข้ามชาติ โดยเขาได้จับนักฆ่ามังกรจีนจากเกาะไหหลำที่ก่อคดีมาอย่างโชกโชน ทางการจีนขอให้ตำรวจไทยช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และยังมีคดีจับคนร้ายปล้นธนาคารกว่า 20 แห่ง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างผลงานเท่านั้น
ความยุติธรรมที่ไม่ต้องร้องขอ
สำหรับคดีที่ประทับใจ และไม่มีวันลืมก็คือการจับคนร้ายตัวจริงได้ในคดีจับแพะฆ่าสาวอะโกโก้ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ที่ตำรวจท้องที่จับผิดตัว น่าจะเป็นการจับแพะคดีแรก ๆ ในประเทศไทย แต่เขาก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงมาลงโทษได้ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นมลทิน
เขายังบอกด้วยว่าการคลี่คลายคดีต่าง ๆ นั้น นอกจากจะต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ ความรู้ความสามารถและทักษะในการสืบสวนสอบสวนแล้ว เรื่องไสยศาสตร์ก็มีส่วนช่วยในการปิดคดีได้ไม่น้อย
เขาจะเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้วหาเศษดิน เส้นผม หรือรอยเลือดจุดธูปตั้งจิตอธิษฐานถึงดวงวิญญาณที่รอทวงความยุติธรรมว่าให้ตามจับคนร้ายมาชดใช้กรรมให้ได้ เพื่อวิญญาณเหล่านั้นจะได้ไปสู่สุคติ ต่อมาไม่ช้าไม่นานก็จะมีงานเข้าและสามารถปิดคดีได้ในเร็ววัน
ลูกน้องคู่ใจ…จากไปไม่วันกลับ
เขายังบอกว่าตลอดระยะเวลาหลายปีสมัยที่ทำงานอยู่กองปราบ ฯ เขามีลูกน้องคู่ใจที่สารวัตรแรมโบ้ยกย่องให้เป็นอาจารย์ เนื่องจากเป็นตำรวจชั้นประทวนฝีมือดีและมีชื่อชั้นในการสืบสวนปราบปราม จนเป็นตำนานหนึ่งของกองปราบ เพราะช่วยทำงานคลี่คลายคดีให้กองปราบมาเยอะ
เขาคนนั้นคือ ร.ต.ต.กฤตสัณห์ จันทร์กระจ่าง หรือ จ๊อด กองปราบ อดีตนายก อบต.บ้านอิฐ จังหวัดอ่างทอง ที่ถูกคนร้ายยิงคาศาลาวัด ระหว่างมาร่วมงานศพสมาชิก อบต. จนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายวัยชรามารับโทษได้

จนถึงวันนี้ สารวัตรแรมโบ้ยังรอทวงคืนความเป็นธรรมให้กับ “ดาบจ๊อด” ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รื้อคดีขึ้นมาใหม่ และโอนคดีไปให้กองปราบทำ
เขาย้ำด้วยว่ากองปราบไม่ควรจะลืม “ดาบจ๊อด” เพราะเขาทำประโยชน์ให้กองปราบไว้มาก ช่วยกำราบคนชั่วมานับไม่ถ้วน
ด้วยความที่อยากทวงคืนความยุติธรรมให้ลูกน้องคู่ใจ เขาถึงขั้นตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้แจ้งเบาะแสคดี ด้วยเงินส่วนตัวจำนวน 100,000 บาทแม้ว่าเขาจะเกษียณไปแล้วก็ตาม
นอกจากเรื่องดาบจ๊อดกองปราบแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคดีที่สารวัตรแรมโบ้จะขอควักเงินส่วนตัวตั้งรางวัลนำจับอีก 100,000 บาท คือคดีฆ่าโหด พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 แม้จะผ่านมาร่วม 20 ปีแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจับคนร้ายได้
https://policenewsvarieties.com/คนร้ายมีฝีมือ-หรือ-จนท-จ/
เขาบอกว่าคดีนี้มันเป็นการหยามเกียรติตำรวจจนเกินไป ในฐานะที่เขาก็เป็นตำรวจคนหนึ่งเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดมากและอยากให้ลากคอคนร้ายมารับโทษให้ได้
ไอดอลในยุทธจักรดาวเงิน
เมื่อถามว่าเป็นตำรวจมากว่า 40 ปี ชีวิตนี้ชื่นชอบผู้บังคับบัญชาคนไหนเป็นพิเศษบ้าง สารวัตรแรมโบ้บอกว่าตำรวจในดวงใจมีหลายคน เช่น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีตผบช.น. พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก อดีต ผบช.ก. พล.ต.ท.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว อดีตจเรตำรวจ (สบ 8) และพล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล อดีต ผบก.ปทส.



พี่เจ็บมาเยอะ-แพ้ระบบอุปถัมภ์
เขาบอกว่าเรื่องดีๆของอาชีพตำรวจ คือทำให้เราได้ทำบุญโดยไม่ต้องเข้าวัดเพราะ “การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนโดนรังแกก็ได้บุญสุขใจเหมือนกัน
สำหรับสิ่งที่คิดว่าแย่ในชีวิตราชการ ที่ผ่านมาก็คือการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ตัวเขาเองต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้อยู่บ่อยครั้งตำรวจที่ตั้งใจทำงานแท้ๆ แต่กลับแพ้ระบบอุปถัมภ์ แบบนี้มันก็เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของตำรวจน้ำดี ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่มีเส้นสายก็เลยไม่ได้ดี
“ เหมือนอย่างตัวพี่เองก็เจ็บมาเยอะ”
เขาพูดพลางกัดฟันกรอด เมื่อนึกถึงความช้ำใจที่ได้รับในอดีต
อยู่ห่างๆ อย่างห่วง ๆ
สารวัตรแรมโบ้ ยังแสดงความห่วงใยถึงตำรวจรุ่นหลังโดยฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งว่า ควรยึดระบบอาวุโสมากกว่า 50% เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงานจริง และ ก.ตร. เอง ก็ควรทำให้ได้อย่างที่พูดไม่ใช่ดีแต่ขายฝันในช่วงหาเสียง
อัพเดทชีวิตหลังเกษียณ
แม้จะเกษียณมาตั้งแต่ปี 2561 แต่เขายังนึกถึงวงการสีกากีอยู่เสมอ แต่ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกับนางฐิติณ์ชญา (ภรรยา)ทั้งซื้อขายที่ดิน ทำโรงงานผลิตอาหารเสริม สำนักงานที่ปรึกษา กฎหมาย และตัวเขาเองยังเป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศ ไทยด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารชื่อ “เฮือนอิงภู” อยู่ที่ปากช่องและโรงงานผลิตน้ำดื่มกลิ่นใบเตย โรงงานผลิตน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ
“สารวัตรแรมโบ้” ยังเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพว่า
ที่ยังดูแข็งแรงไม่ทรุดโทรมไปตามวัยเพราะไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ และยังออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เลือกทานอาหารที่เป็นยา ทานอาหารที่มีประโยชน์ สวดมนต์แผ่เมตตาทุกวัน เพียงเท่านี้ก็ทำให้มีจิตใจที่แจ่มใสอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง
นี่คือเรื่องราวบางเสี้ยวชีวิตของ “สารวัตรแรมโบ้” อีก 1 ตำนานวงการสีกากี

เด็ดดาว รายงาน/1/11/68

























