เรื่องในรั้วโรงเรียนหรือรั้วสีขาวเมื่อเกิดฉาวโฉ่ทีไรก็ทำให้รู้สึกสลดหดหู่ใจอย่างมาก
จากการสรุปข่าวของเพจPoetry of Bitch ในเฟซบุ๊ก กรณีครูเปรมจากครูไอดอล…สู่ผู้ต้องหา ช่างน่าละเหี่ยเพลียใจไม่น้อยในหัวอกคนที่เป็นผู้ปกครองเด็กนักเรียนทั้งหลาย
เนื้อหาสรุปอีกทอดจากครูไอดอล ปี 2562 นายวัชรวิทย์หรือเปรมสมัยนั้นเรียนปี 5 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยหนึ่ง ได้รับเลือกให้ร่วมรายการสารคดีเรียลลิตี้ “ฉันจะเป็นครู” นำผู้ชมไปติดตามชีวิตการเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนหญิงแห่งหนึ่ง
ครูเปรมสอนวิชาสังคมศึกษาและภาษาเยอรมัน บอกว่าเคยสอนในโรงเรียนสหศึกษามาก่อน พอย้ายมาโรงเรียนหญิงล้วนก็ต้องปรับเปลี่ยนระวังคำพูดจามากขึ้น
“บางทีเด็กต้องการที่พึ่ง เขามาหาครูด้วยสายตากังวล พอเราให้คำแนะนำไป สายตาเขาเปลี่ยน ตาเขาเป็นประกาย เรารู้สึกว่าเราช่วยเด็กได้ เราเป็นที่พึ่งของเด็กได้”
ทัศนคติมุมมองอีกหลายอย่างในตัวครูฝึกสอนหนุ่มสร้างความประทับใจให้ผู้ชม และเชื่อว่าจะได้ครูที่คุณภาพอีกคนหนึ่งในวงการศึกษาของไทย
สุดท้ายผ่านไป 5 ปี วันที่ 14 มี.ค.2567 ตำรวจติดตามจับกุมครูเปรม วัย 28 ปี ที่โรงเรียนหนึ่งในจ.สงขลา ขณะที่เป็นครูอัตราจ้าง ด้วย 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนำข้อมูลลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2565 นักเรียนหญิงวัย 16 ปีคนหนึ่ง ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.4 ได้พบกับครูเปรมที่มาเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนในกทม.แห่งหนึ่ง
ครูเปรมมาทำความสนิทสนมให้คำปรึกษาใกล้ชิด จนสุดท้ายขอคบเป็นแฟนเสียเลย ถึงขั้นได้เสีย มีการหว่านล้อมขอถ่ายคลิประหว่างมีอะไรกันด้วย
ถัดมาฝ่ายครูเปรมไปเรียนต่อที่เยอรมนี เป็นเวลากว่า 9 เดือนความห่างไกลกันทำให้ทั้งคู่เลิกรากัน จนเมื่อนักเรียนหญิงจบม.ปลาย เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ไปคบกับแฟนนักศึกษาด้วยกัน ครูเปรมที่ติดตามส่องไอจีอดีตแฟนที่เป็นนักศึกษาในตอนนี้ ยังไม่คิดจะตัดสัมพันธ์เสียทีเดียว
พอช่วงปลายปี 2566 ฝ่ายหญิงโพสต์รูปคู่กับแฟนใหม่ในไอจีก็ตกใจมีคนมาติดตามมากมายอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เมื่อพบความจริงว่าคลิปลับที่เคยถ่ายกับครูเปรมสมัยเป็นนักเรียนม.ปลาย ถูกปล่อยออกในไอจีนั่นเอง เป็นเหตุให้มีคนติดตามมากมาย
จะเป็นด้วยฝีมือใครไม่ได้ นอกจาก “ครูเปรม” อดีตแฟน ที่ใช้เล่ห์อุบาทว์ประจานน้องนักศึกษาให้อับอาย จนน้องมีการซึมเศร้าคิดจะฆ่าตัวตาย
แม่ของน้องนักศึกษารายนี้ทราบความจริง กลับรู้สึกสงสารและเข้าใจในตัวลูกสาวคนเดียว ยืนหยัดจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด พาลูกสาวไปแจ้งความตำรวจหน่วยสืบสวนนครบาล จนสืบพบว่า ครูเปรมไม่ได้กระทำกับน้องนักศึกษาคนนี้รายเดียว แต่มีเหยื่ออีกหลายราย จนเคยถูกไล่ออกจากครูฝึกสอนมาแล้ว
หลังตำรวจค้นหลักฐานจากมือถือและคอมพิวเตอร์ พบคลิปมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงอีกมากมาย มีภาพลามกวาบหวิวที่เด็กส่งให้ด้วยความอ่อนต่อโลกอีกหลายคลิปด้วย
เบื้องต้นมีการซักถามคุยกับผู้ต้องหา ตำรวจถามว่าเรา เป็นอะไร ผู้ต้องหาตอบว่าเป็นครูครับ ตำรวจสวนย้อนว่า ครูนี้คบกับนักเรียนได้เหรอ ไม่มีครูดีๆ ที่ไหนเขาทำกันนะ
นี่คือบทสรุปคดีหนึ่ง ที่บุคคลในแวดวงแม่พิมพ์ก่อไว้ แม้กระทั่งระดับผู้บริหารที่หลงใหลอำนาจบารมีที่คิดว่ามีติดตำแหน่งยังไม่ยอมให้ครูที่ยศศักดิ์ต่ำกว่าแตะเก้าอี้ยังเกิดขึ้นแล้ว
แต่ครูแบบนี้ ยังจะเรียกว่า “ครู”ได้อีกหรือ แม่พิมพ์ที่มีรอยตำหนิ ขาดความงดงาม ขาดจริยธธรรม ทำไมมีมากมายเหลือเกิน
หลายครั้งที่เกิดเรื่องราวที่แย่ๆในวงการไหนๆ ไม่ว่าจะครูพระ ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้บริหารขององค์กรมักจะท่องเป็นสูตรสำเร็จว่า “องค์กรมีบุคลากรนับหมื่นนับแสนคน มีที่ไม่ดีเพียง 1 % เท่านั้น อย่าเหมารวมไปหมด”
ก็ว่ากันไป แต่ไอ้ที่ไม่ดีเพียง 1% นี้ ทำไมขจัดให้หมดสิ้นไปไม่ได้ล่ะหือ
ดอนรัญจวน 18/3/2567