Tuesday, November 26, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“อาชยน”แจงยิบร่ายยาว ปมร้อน”ผู้กองแคท”กับหลักสูตร กอส.

    “อาชยน”แจงยิบร่ายยาว ปมร้อน”ผู้กองแคท”กับหลักสูตร กอส.

     

    ยืนยันเข้ามาตามกฎ ก.ตร.

    เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 มิ.ย.66 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงปมร้อนกรณีร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก หรือ ผู้กองแคท วัย 27 ปี ใช้เวลา4 ปี จาก ส.ต.ต.เป็น ร.ต.อ. โดยชี้แจงรายละเอียดทั้ง 3 ขั้นตอน ว่า

    ขั้นแรกการเข้ามาเป็นตำรวจ  เริ่มจากสำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ  ตำแหน่งว่างระดับ รองสารวัตร ที่จำเป็นต้องมาทำงานด้านพิธีการ การประชุม และสารบรรณ  ได้เปิดรับสมัครให้มีผู้สมัคร โดยขออนุมัติ ตร.ในการสมัคร  4 คน จากนั้นใช้วิธีการคัดเลือกตามคุณวุฒิที่เปิดรับสมัคร และเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจโดยมีกฎ ก.ตร.ว่า ผู้ที่จะเข้ามาเป็นตำรวจลักษณะนี้จำเป็นต้องบรรจุเป็น ส.ต.ต.ก่อน เมื่อผ่านการอบรม กอส. จะได้ยศ ร.ต.ต.

    ไม่มีอภิสิทธิ์ยศขึ้นเร็วกว่าใคร

    ส่วนเรื่องยศที่เลื่อนเร็วนั้น โฆษกตร. ชี้แจงว่า การเข้ามาเป็นตำรวจตามคุณวุฒิปริญญาตรี บรรจุประมาณ 1 ปี และจากร.ต.ท.เป็น ร.ต.อ.จะต้องครองยศ 3 ปี ในส่วนของคุณวุฒิปริญญาโท-ปริญญาเอก จากร.ต.ต.เป็น ร.ต.ท.ใช้เวลาประมาณ 1 ปี และครองยศอีก 1 ปี ก็จะได้ ร.ต.อ.

    ในกรณีของ ร.ต.อ.หญิง อาทิติยาได้เข้าอบรม กอส.กับเพื่อนตำรวจประมาณ 350 นาย มีหลักเกณฑ์ดังกล่าวเหมือนกันหมด  ไม่มีใครได้รับอภิสิทธิ์ ที่จะได้ยศเร็วกว่าใคร โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกๆ คน

    เป็นไปตามหลักเกณฑ์

    สำหรับคุณวุฒิของผู้กองแคท จากการตรวจสอบเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้รับสมัคร คือ วุฒิปริญญาโท ส่วนการรับสมัครตำแหน่งเดียวกับ ผู้กองแคท สำนักงานเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขออนุมัติจาก ตร.เปิดรับสมัครเข้ามา  4 คน  มีการกำหนดคุณสมบัติตามที่หน่วยงานในตร.ต้องการไว้ก่อนจะเปิดรับสมัครสรรหาคนที่มีคุณวุฒิตรงตามที่กำหนดก่อนจะมีการคัดเลือกต่อไป

    ไม่ใช่คุณวุฒิขาดแคลน

    กรณีของผู้กองแคท ไม่ขอใช้คำว่าตำแหน่งคุณวุฒิที่ขาดแคลน เพราะการเข้ามาเป็นตำรวจมีได้หลายทาง ตั้งแต่การสอบแข่งขัน ทายาท การโอนย้ายจากหน่วยราชการอื่น และโดยการคัดเลือก ในส่วนของความขาดแคลนก็เป็นอีกหนึ่งที่ ตร.รับบุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ เช่น นักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์หลักฐาน หรือว่าสายต่างๆ ที่สามารถมาทดแทนในส่วนที่ ตร.ขาดแคลน ก็ถือเป็นคุณวุฒิขาดแคลน

    เป็นความต้องการของหน่วย

    กรณีของผู้แคท ซึ่งมีวุฒิปริญญาโททางด้านนิเทศน์ศาสตร์นั้น ไม่ได้เป็นคุณวุฒิที่ขาดแคลน แต่เป็นความต้องการของหน่วยงานใน ตร.ที่จะกำหนดสเปคคนที่จะเข้ามาบรรจุรับราชการในระดับ รองสารวัตร  มีสเปคและหลักเกณฑ์ต่างๆตามที่ต้องการจึงเปิดรับสมัครคนที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดได้เข้ามา เพื่อตอบสนองความต้องการของหน่วย

    กอส.อบรมปีละ300-350 นาย

    ส่วนหลักสูตร กอส.เป็นหลักสูตรที่ให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาเป็นตำรวจได้มีการอบรมแต่ละปีก็จะมีประมาณ 1 รุ่น รุ่นละ 300-350 นาย  บางปีถ้ามีการรับสมัครจากบุคคลภายนอกไม่ว่าเหตุผลต่างๆ ก็คือ การสอบแข่งขัน ทายาท คัดเลือกหรือโอนย้ายต่างๆ มีจำนวนมากกว่าหลักสูตรก็จะทดไปเรียนในปีถัดไป ถือว่าเป็นวงรอบในการอบรม

    มีหลักสูตร กอน.และกอต.

    นอกจากหลักสูตร กอส.แล้วก็มีหลักสูตร กอน. ที่จะรับตำรวจชั้นประทวนเข้ามาสอบแข่งขัน เพื่อเลื่อนชั้นตำรวจสัญญาบัตรและมาอบรม และมีหลักสูตร กอต. เป็นการรับตรงคือรับเฉพาะพนักงานสอบสวนจะมีการสอบแข่งขันเพื่อเป็นพนักงานสอบสวน  ทุกหลักสูตรจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องของคุณสมบัติและความครบถ้วน ถ้าที่นั่งเกินจะต้องไปอบรมรอบถัดไป

    นรต.รับปีละ2-300นาย

    พล.ต.ท.อาชยน กล่าวต่อว่า สำหรับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ละปีจะรับประมาณ 200 -300 นาย ส่วนเหตุผลการอบรมในการศึกษาชัดเจนอยู่แล้วว่าข้าราชการตำรวจมีความหลากหลายในการปฎิบัติหน้าที่ในสายอาชีพที่ต้องการคนที่มีความรู้ในด้านต่างๆ มาทำงาน

    ในส่วนของการอบรม กอส.ที่ต้องการคุณวุฒิต่างๆ เข้ามาเป็นตำรวจก็เป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ วิทยาศาสตร์ ตำรวจน้ำ หรือบัญชี ฯลฯ เพราะต้องมีบุคคลากรที่คอยซับพอร์ต  ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายอำนวยการ

    ใช้วุฒิม.ปลายเข้ามาสอบ

    ในส่วนของ นรต.ที่มีการอบรม เป็นคนที่มีความตั้งใจตั้งแต่มัธยมแล้วว่า อาชีพที่ใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ  มีวุฒิชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้ามาสอบ ตรงนี้จะมีความเข้มข้นเรื่องของการเรียนเพื่อจบมาเป็นตำรวจอาชีพ เป็นพนักงานสอบสวน ต้องเป็นชุดสืบสวน จราจร หรือสายงานต่างๆ เป็นฟร้อนต์ไลน์ที่ส่วนใหญ่เห็นตามโรงพัก ทั้งหน่วยปฎิบัติ  เป็นส่วนที่ต้องอบรมให้เป็นตำรวจตั้งแต่ชั้นปริญญาตรี

    เมื่อจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะได้วุฒิปริญญาตรี  จะไม่เหมือนบุคคลภายนอกที่อาจจะไม่ได้เบนเข็มมาเป็นตำรวจตั้งแต่ต้น แต่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น บัญชี วิทยาศาสตร์ แพทย์ หรือคุณวุฒิอะไรก็ตามที่ ตร.ก็ต้องเป็นหน่วยสนับสนุนให้กับบุคคลากร

    ระยะเวลาครองยศใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน

    เมื่อถามว่าเมื่อจบรร.นรต.กับวุฒิการศึกษา รร.นรต. เมื่อเทียบกับวุฒิการศึกษากับบุคคลภายนอก ชั้นยศระดับรองสารวัตร ระยะเวลาจะไปพร้อมกันหรือไม่ โฆษก ตร. กล่าวว่า ใช้หลักเกณฑ์เดียวกันหมด พอจบ ร.ต.ต.ก็เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าการครองยศไปจนถึง ร.ต.อ.จะมีการกำหนดชัดเจนว่ากี่ปีได้ขึ้น แต่พอขึ้นระดับสารวัตรที่เรียกว่า พ.ต.ต.ก็จะอยู่ที่ตำแหน่งที่ว่างในแต่ละปี และก็มีสายงานต่างๆ

    พ.ร.บ.ตำรวจ2565ส่งผลดีให้ตร.

    หลังจากการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 แล้ว จะแบ่งชัดเจนว่าข้าราชการตำรวจจะมีสายงานที่ต้องปฎิบัติชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการสอบแข่งขันคัดเลือกโดยระบบต่างๆ  จะโปร่งใสมากขึ้น และจะมีมืออาชีพทางด้านสายงานต่างๆ มากขึ้น ตรงจุดนี้เราเพิ่มหลักเกณฑ์ให้มีความเข้มข้นในเรื่องของการรับสมัครบุคลากรที่มาจากข้างนอกให้ตรงกับเรามากที่สุด  

    ตอนนี้สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเร่งดำเนินการตรงจุดนี้ เพื่อให้การสมัครข้าราชการตำรวจตรงเป้าประสงค์กับความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพี่น้องประชาชนมากที่สุด

    มีจัดสอบเลื่อนเป็นสัญญาบัตรทุกปี

    เมื่อถามว่าตำรวจชั้นผู้น้อยที่ระบุว่า ไม่ได้รับโอกาสในการเลื่อนชั้นยศ หรือมีโอกาสในหน้าที่การงาน ตามที่มีการเผยแพร่ สามารถชี้แจงได้หรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า หลักสูตร กอส.คือบุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ แต่อีกส่วนเรามีการจัดสอบแข่งขันระดับชั้นประทวนด้วยกันเอง ให้มาเป็นตำรวจสัญญาบัตร และก็มีการฝึกที่เรียกว่า กอน. ตรงจุดนี้ก็มีด้วย ส่วนนี้ก็เป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจกับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน

    ผบ.ตร.สั่งคัดเลือกปีหน้า900นาย

    ขณะนี้สำนักงานกำลังพลได้รับนโยบายจาก ผบ.ตร. ให้คัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่ประพฤติดี มีความตั้งใจ มีหลักเกณฑ์คุณวุฒิต่างๆครบถ้วน เพื่อให้เลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรในปีหน้า คิดว่าประมาณ 900 นาย ทุกอย่างก็ต้องบาลานซ์ในเรื่องของความต้องการคุณวุฒิหรือการปฎิบัติหน้าที่ที่จำเป็นจะต้องมีหลากหลาย

    บิ๊กตร.ให้เป็นขวัญกำลังใจ

    เมื่อถามว่าโดยเฉพาะชั้นประทวนที่มีวุฒิปริญญาตรี ปริญญาโท หรือบางคนเป็นดอกเตอร์ มีโอกาสเลื่อนขั้น หรือจะต้องไปสอบตามขั้นตอน โฆษกตร. กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคุณวุฒิตอนสมัครเข้า และในส่วนที่เป็นชั้นประทวนหรือชั้นสัญญาบัตรนั้น ในส่วนที่จะไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็เป็นสิ่งที่ดี ให้ทุกคนเป็นโอกาสเป็นสัญญาบัตร แต่ผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีดำริให้ดูแลขวัญกำลังใจ ถึงได้เปิดตำแหน่งให้ตำรวจชั้นประทวนสอบแข่งขัน และสามารถเลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้

    แจงประเด็นสีเทาเข้าอบรมกอส.

    เมื่อถามถึงกรณีหลักสูตร กอส. ที่มีประชาชนภายนอกสมัครเข้ามาบางคนเป็นเจ้าของเว็บพนัน หรือพัวพันกับธุรกิจสีเทา จะชี้แจงอย่างไร พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า มี 2 ประเด็น ประเด็นแรกตอนรับเข้ามาก็ตรงตามคุณวุฒิความต้องการของหน่วย เมื่อผ่านมาแล้วอาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็ต้องดำเนินการ ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นมีหน้าที่หลักในเรื่องของการดำเนินการ เมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีความผิดวินัย หรือน่าเชื่อว่ากระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ระเบียบ

    ในประเด็นที่ 2 ถ้าพบว่าตั้งแต่ก่อนเข้ามีประวัติ ไม่มีประวัติอย่างไร และรับเข้ามา ก็คงต้องดูว่ากระบวนการขั้นตอนในการรับมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ ต้องนำมาเป็นบทเรียนว่าในกรณีที่อาจจะรับเข้ามาแล้วมีความประพฤติที่ไม่ดีมาก่อนเข้าก็ต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของวิธีการรับให้รัดกุมยิ่งขึ้น

    ยัน กอส.เป็นหลักสูตรที่ดี

    กระแสสังคมระบุว่ากอส. จะเข้ามาได้ต้องเป็นเด็กนาย เด็กเส้น เด็กตระกูลดัง พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า หลักสูตรกอส.เป็นหลักสูตรที่ดีที่ทำให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาจากหลายภาคส่วน จากหลายเหตุผลหลายวิธีการเข้ามาเรียนด้วยกันเพื่อให้ซึมซับในเรื่องของวิสัยทัศน์ความเป็นตำรวจ ยุทธวิธีต่างๆ ให้เข้าใจลึกซึ้งบทบาทของตำรวจทุกๆ อย่าง

    คนไม่ดีต้องดูเป็นรายๆ

    แต่ในส่วนของแต่ละบุคคลผมคิดว่าจะต้องมองแยกกันเป็นบุคคลเป็นรายๆ ไปที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม  ที่ผ่านมาบุคคลที่ได้พูดถึงอยู่  ถูกตรวจสอบได้ดำเนินการทางวินัย บางคนก็ถูกไล่ออกปลดออกไปแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องเพิ่มการระแวดระวังทำให้หลักเกณฑ์นี้สามารถที่จะเข้มแข็งขึ้นจะต้องสกรีนคนที่ต้องการเป็นตำรวจที่เป็นคนดีจริงๆ ที่จะเข้ามาอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ได้มากที่สุด

    พร้อมชี้แจงทุกข้อสงสัย

    จริงๆ ก็ต้องเรียนว่าเมื่อมีข้อสงสัยหรือมีข้อที่คิดว่าอยากจะทราบ เราพร้อมจะชี้แจงทุกๆ อย่างในเรื่องของการดำเนินการอะไรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราพร้อมชี้แจงในสิ่งที่เป็นประเด็นมีข้อสงสัยหรือมีข้อที่ยังคลางแคลงใจอยู่ในเรื่องของกฎระเบียบ หรืออะไรก็ตามในสิ่งที่เป็นข้าราชการตำรวจ ทุกคนก็ควรจะต้องมีความโปร่งใสเพื่อให้ตรวจสอบได้

    เล่นโซเชี่ยลต้องดูความเหมาะสม
    กรณีที่ผู้กองแคทได้โพสต์ผ่านโซเชียลเข้าข่ายผิดวินัยหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า จริงๆแล้วคำสั่งไม่ได้ห้ามเล่นโซเชียล แต่ตำรวจต้องมีจรรยาบรรณเยอะกว่าประชาชนธรรมดา ฉะนั้นจะต้องพิจารณาความเหมาะสมในเรื่องของการใช้โซเชียลจะต้องเป็นไปแบบไหน

    ในยุคนี้การใช้โซเชียลแพร่หลายมาก ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นต้องสอดส่องดูแลและตักเตือนถึงความเหมาะสมต่างๆ คอนเทนท์อะไรที่ดูแล้วไม่เหมาะก็ต้องไม่ทำและไม่ลง ส่วนไหนที่เข้าข่ายผิดวินัยก็ต้องดำเนินการ แต่ในส่วนไหนที่สามารถตักเตือนกันได้หรือถ้าบ่อยมากไปแต่ไม่ได้ผิดอะไรมากก็ให้ตักเตือนให้โพสต์ให้น้อยลง

    ต้องยอมรับว่าบางคนอาจจะลงไปเพื่อโปรโมทตัวเอง บางคนก็อยากได้ยอดไลค์ แต่ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจที่จำเป็นต้องใช้เครื่องแบบมาดำเนินการ

    พล.ต.ท.อาชยน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้มีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นจะต้องพิจารณาหากเผยแพร่ไปแล้วใครพบเห็นที่เข้าข่ายกระทำผิดวินัย ไม่ได้พูดถึงข้าราชการคนใดคนหนึ่งแต่พูดถึงทุกคนที่ได้มีการเล่นโซเชียลและมีการโพสต์ ทุกอย่างขั้นตอนก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าพบว่ามีการผิดวินัยก็ต้องดำเนินการ

    อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ปิดกั้นการเล่นโซเชียลมีเดียของตำรวจแต่ให้พิจารณาใช้ความเหมาะสมให้พอดี และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพในเรื่องของการรับราชการ การใส่เครื่องแบบแล้วทำกริยาไม่เหมาะสม

    รับยังไม่ดำเนินการทางวินัย”ผู้กองแคท”

    ถามตอบว่าขณะนี้ ผู้บังคับบัญชายังไม่ได้ดำเนินการทางวินัยกับผู้กองแคทใช่หรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ยัง

    สนง.กำลังพล จัดสรรตามงบฯ

    ถามต่อว่าหน่วยงานอื่นๆ ที่จะเปิดรับสมัครกอส.ได้ทุกหน่วยงานหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า สำนักงานกำลังพลจะเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติของแต่ละหน่วยว่าในแต่ละปีมีข้าราชการในหน่วยสังกัดใดที่ได้บรรจุและมีเงื่อนไขที่ต้องเข้าอบรม กอส.  จะจัดเป็นลำดับไว้และจะมีเรื่องของการเปิดที่นั่งตามงบประมาณที่ได้จัดสรรไว้ในแต่ละปี

    กอส.หลายคนล้วนมีความสามารถ

    เมื่อถามว่าที่ผ่านมาหลักสูตร กอส. มีข้อครหาเยอะ ทางตร. กำชับไปยังหน่วยในการรับคนมีการวางหลักเกณฑ์และมีข้อสั่งการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า กอส.ที่ผลิตไปหลายๆ ท่านก็เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ก็ไม่อยากให้เล็งเห็นถึงบางคนที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม

    พร้อมปรับปรุงหลักการ-หลักเกณฑ์

    อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องยอมรับว่าอาจจะมีบางส่วนที่ไปข้องเกี่ยวในเรื่องความประพฤติหรือการกระทำผิดต่างๆ แต่พร้อมที่จะปรับปรุงเรื่องหลักการ หลักเกณฑ์ในเรื่องของการรับสมัครให้ดูทันสมัยต่อสถานการณ์ และสามารถที่จะเลือกคนที่เราต้องการและอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างมีความตั้งใจในอนาคตให้ได้มากที่สุด

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments