เคยลงเรื่องพระที่พี่บ๊อก-พล.ต.อ.ปริญญา จันทร์สุริยา อดีต ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.สวมใส่มาครั้งหนึ่งแล้ว
วันนี้ขอเอาบันทึกที่เคยสัมภาษณ์พี่บ๊อก สมัยอยู่ในราชการเป็นรอง ผบช.น.เรื่องปืนผาหน้าไม้จับโจร มาอ่านกันอีกครั้ง
พร้อมขอบคุณในความอนุเคราะห์จากพี่เปิ้ล อดีตนักข่าวสาวเมืองนนท์ คนใจใหญ่ ที่สนิทสนมรักใคร่กับพี่บ๊อกเป็นธุระติดต่อให้ผมได้พบกับมือปราบนักรักบี้คนนี้
เก่งยังไง ถ้าไม่ซ้อมก็ไม่ชนะ
ปืนกระบอกแรกในชีวิต เป็นปืน .357 สมิท โมเดล 66 ลำกล้อง 4 นิ้ว ซื้อประมาณปี 2518
สมัยเป็นนักเรียนนายร้อย เขาให้ซื้อ ก็ซื้อมาเลยในราคา 3,750 บาท เพราะต้องไปฝึกยิง ก็อยากใช้ปืนให้มันคุ้นเคย
เดอะบ๊อก-พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น.เปิดเผยถึงเขี้ยวเล็บคู่ใจ
เหตุที่ซื้อ .357เพราะคิดว่ามันจะป้องกันชีวิตเราได้ หรือว่าหยุดยั้งคนร้ายได้
ในความรู้สึกตอนนั้น ปืนไม่ขัดลำ ลูกโม่หมุนไปเรื่อย พกแล้วอุ่นใจ มีเพื่อน 6 คน มีกระสุน 6 นัด ก็ใช้มาเรื่อย
นอกจากนี้ยังมีปืนสมิทชิฟ 5 นัด ลำกล้อง 2 นิ้ว เอามาใช้เวลาพกนอกเครื่องแบบ
พอเป็นสารวัตรสืบสวนอยู่ที่สระบุรี เจอคนร้ายส่วนใหญ่มักใช้อาวุธมีน้ำหนัก พวก 9 มม. 38 ซุปเปอร์ 11 มม.
เลยคิดว่าเราน่าใช้บ้าง เลยไปซื้อโคลท์ .38 ซูเปอร์ เพราะเห็นว่ามันคม ยิงดี กระสุนมันเยอะกว่า บรรจุได้ 9 นัด เลยซื้อมา
แต่พอตอนล้อมจับคนร้ายที่หนองแค คดีปล้น มีการยิงสู้ ปรากฎว่ายิงไปนึกว่าเรายิงไม่โดน ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังใช้ 11 มม.ยิง คนร้ายหงายท้องเลย
ส่วนกระสุนเราคิดว่าไม่โดน มันกลับทะลุ คิดว่า .38 ซุปเปอร์มันหยุดยั้งคนร้ายไม่ได้ เลยเก็บไว้ที่บ้าน
คราวนี้หันมาใช้ โคลท์ 11 มม.มาร์คโฟร์ ซีรีย์ 70 ไปแต่งไกให้มันนิ่มขึ้น
ชอบเพราะเห็นว่ามันหยุดยั้งได้ดี ยิงเข้านัดเดียวหงายหลัง ประกอบกับรู้สึก .357 มันหนัก พกไปไหนลำบาก แต่มาร์คโฟร์ พกใส่เอวข้างหน้าได้ ข้างหลังได้ เลยซื้อมาใช้
ซ้อมยิงแล้วรู้สึกมั่นใจ ไปทดสอบยิงจนมั่นใจ เลยใช้มาตลอด
จนเป็น ผกก.รู้สึกมันเริ่มหนัก เลยไปซื้อซีแซด 9 พารา เป็นปืนโควต้า แข็งแรง ทน แต่อาจไม่สวย มีน้ำหนัก ยิงดี
ซีแซด จุกระสุนได้ 15 นัด แรงปะทะไม่เหมือน .38 ซุปเปอร์ ลูกกระสุนก็ถูกกว่าตลาดก็นิยม
จนไปเจอปืนกล๊อก 26 ตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบ แต่เอามาลองยิงดูระยะ 15 หลา มันคลุมดีกว่า ตอนแรกยืมของลูกน้องมายิงก่อน พอเห็นว่าประสิทธิภาพมันดีเลยซื้อมาใช้
เราไม่ใช่คนที่ชอบแล้วก็เอา ต้องลองก่อน แต่เห็นคนอื่นยิงแล้วดีเลยซื้อ ครั้งแรกก็มี .357 ตอนแรกคิดว่ากระบอกเดียวก็พอแล้ว
แต่เราทำงานเรื่องสืบสวนปราบปราม เลยเปลี่ยนมาใช้เล็กๆ ยิงไม่แม่น แต่ได้เสียงขู่ เสียงปืนพอมันดังๆ แล้วมันข่มขวัญ
จริงๆ ที่ชอบคือ 11 มาร์คโฟร์ น่าจะดีที่สุด และเป็นปืนที่ชอบที่สุด
ในรถพี่ มีลูกซอง 5 นัด ลูกซอง 5 นัด รุ่นพานท้ายพับได้ เอาไว้ยิงขู่ เสียงมันดังดี ใช้เวลาเราไปล้อมคนร้าย มีลูกซองเหมือนกับเราอุ่นใจ คนร้ายมันกลัว
ลูกซองใช้ลูกปราย ลูกโดดก็ได้ เวลาตามล่าโจร ลูกน้องถือเอชเค. เราถือลูกซอง 5 นัด
แต่ปืนทั้งหมดต้องซ้อมให้คุ้นเคย ทุกวันนี้ก็ยังไปซ้อมยิงค่อนข้างบ่อย ยิ่งเราแก่ ถ้าไม่คุ้นกับมัน เวลาใช้แล้วเราไม่มั่นใจ
การใช้อาวุธมันก็เหมือนกีฬา ไม่มีกีฬาอะไรที่ทำได้ดีถ้าไม่ซ้อม ให้เก่งยังไง ถ้าไม่ซ้อมก็ชนะเขาไม่ได้ หยิบมาปุ๊ปต้องรู้เลยว่าต้องทำอะไรกับมัน
ไม่ถึงกับสะสม แต่มีปืนที่จดทะเบียนถูกต้องกว่า 10 กระบอก เช่น ถ้าวันนี้รู้ว่าต้องทำงานจะเอาปืนลูกดกไป
ใช้กล๊อกบ้าง แต่อาจใช้ 11 มม.ก่อน เพราะความมั่นใจเราอยู่ที่ 11 ถ้าถือ 11 ก็มั่นใจ
จะต่อสู้คนร้ายต้องมั่นใจ อาวุธ ต้องมั่นใจว่าเราเหนือกว่าคนร้าย
ปัจจุบันคนร้ายอาวุธปืนดีๆ ทั้งนั้น อาวุธดี ทันสมัยกว่าเราอีก แต่เราก็ได้เปรียบตรงที่ได้ฝึกซ้อม บางทีคนร้ายก็แอบไปฝึก
แต่เรามียุทธวิธี อยู่ที่เราฝึก
Cop’s Magazine Vol.7 No.83 July 2013
ลาออกจากราชการ ตามโครงการปรับเปลี่ยนกําลังพล รุ่นที่ 15 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558) ในตำแหน่งผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญงานสืบสวน ได้ยศพล.ต.อ.