จู้กหู้กกู้ กราบสวัสดี เป็นสัปดาห์แห่งการลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง เมื่อทั้ง ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ เก็บ 3 คะแนนได้แบบสุดมัน …
จุ้กหู้กกู้ ขอนำบทสัมภาษณ์ เชส ฟาเบรกาส อดีตเพลย์เมคเกอร์อาร์เซนอลและเชลซี
……………….
“ด้วยความเคารพ ผมไม่รู้จริงๆว่าแนวทางการแก้เกมของ เอริค เทน ฮาก คืออะไร ถ้าพูดตรงก่านั้นคือไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขามีโครงสร้างของแผนการอะไรแบบนั้นบ้างหรือเปล่า สาส์นที่เขาต้องการจะสื่อออกมาก็ไม่มีความชัดเจนใดๆด้วย”
“ในเกมที่พวกเขาเจอ ฟูแล่ม , พวกเขาถูกเกมโต้กลับของ ฟูแล่ม ที่กระทำกันอย่างเป็นกระบวนการและละเอียดรอบคอบ , ฟูแล่ม ทำในสิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนในเกมแก่คู่แข่งขัน แต่ผมไม่ได้เห็นว่า ยูไนเต็ด จะตอบสนองด้วยการรับมือที่เด็ดขาดอะไร ยังคงปล่อยให้แนวทางการเล่นโต้กลับของ ฟูแล่ม สัมฤทธิ์ผลต่อไปเรื่อยๆ จนที่สุดก็เข้าเป้า
มันเป็นการที่ ฟูแล่ม ดักเกมโต้นานถึง 1 ชั่วโมง แบบนั้นซ้ำๆ มันชัดเจนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างในทีมของพวกเขา”
เชส ฟาเบรกาส ยังได้เปรียบเทียบทีมปีศาจแดงยุค เอริค เทน ฮาก กับยุคสมัยของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยเลือกจะชี้นิ้วไปที่ทีมของ ‘น้าลูกอม‘ว่าอย่างน้อยๆก็ยังดูดีมากกว่าทีมชุดของ เอริค เทน ฮาก ในแง่ของความชัดเจนและเฉียบขาด
ตรงส่วนนี้ เชส ฟาเบรกาส อธิบายไว้ว่า …
“ผมมองว่ายุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อย่างน้อยๆก็ชัดเจนกว่านะ เขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมเวลาลงเล่นในเกมใหญ่ๆเกมสำคัญๆ อย่างน้อยๆทีมของ โอเล่ มีแนวทางเกมรับชัดเจนเป็นธงนำ มีวิธีการในการเบรคเกมคู่แข่ง
ที่สำคัญคือพวกเขามีเกมโต้กลับที่อย่างน้อยก็ดีกว่าในเวลานี้ ผมมองว่านั่นคือสิ่งที่ขาดหายไปจาก ยูไนเต็ด ชุดนี้ พูดด้วยความเคารพ ในสายตาผมไม่ได้มองว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนี้เป็นทีมที่แข็งแกร่งอะไรเลยด้วยซ้ำ”
อ่านสัมภาษณ์ เชส ฟาเบรกาส ที่บางช่วงพูดถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคสมัยที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นายใหญ่กุมบังเหียน ประจวบเหมาะกับเพิ่งมี ‘แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้’ ก็เลยทำให้นึกไปถึงสิ่งหนึ่งที่จู้กหู้กกู้ชอบในช่วงที่ ‘น้าลูกอม’ ยังคุมทีมอยู่
นั่นก็คือแนวทางของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เวลาทำทีมในเกมใหญ่ๆ มักทำผลงานได้ดีเสมอ อย่างการเจอกับ ‘เรือใบสีฟ้า’ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นี่แหละ ตัวอย่างชั้นดีเลย
เพราะ ‘น้าลูกอม’ เห็นตุ๋มติ๋มแบบนี้ก็เหอะ แต่แกได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการทีมคนเดียวเลยนะครับที่มีสถิติการทำทีมสู้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างน้อย 4 เกมขึ้นไปแล้วสามารถทำสถิติดีกว่านั่นคือ ชนะมากกว่าแพ้ (มาเสมอกันตอนหลังเพราะซีซั่นสุดท้ายแกทำทีมแพ้ ซิตี้ ช่วงต้นไปนัดหนึ่ง สถิติก็เลยเสมอกัน)
ตัวเลขกลมๆคือเจอกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 7 ครั้ง ‘น้าลูกอม’ ชนะไป 4 แพ้ 3 ครั้ง (รวม 8 เกม ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 3)
มีดีถึงขั้นฤดูกาล 2019-2020 , เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทั้งเหย้าและเยือนในลีก
ฤดูกาล 2020-201 , ก็ยังไม่แพ้เกมลีกทั้งเหย้าและเยือนเมื่อเจอแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะชนะและเสมออย่างละ 1
จุดสำคัญมากๆของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เวลาทำทีมเจอกับเรือใบสีฟ้าของเป๊ป คือคำว่า ‘เจียมตัว’ นะครับ (ถ้าใครยังจำได้คงไม่มีทางปฎิเสธว่ามันตรงกับคำนี้แน่ๆ)
เป็นความเจียมตัวในแบบที่รู้จุดเด่นของตัวเอง แล้วเลือกจะขันเกมรับให้รัดกุมนำมาก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้จุดเด่นเรื่องเกมโต้กลับ เกมฉาบฉวยในการรุกจู่โจมเมื่อโอกาสอำนวย
ฉะนั้นเวลาพูดถึง ‘น้าลูกอม’ ทีไร ยังไงก็ต้องนึกถึงผลงานชิ้นโบว์แดงในการทำให้ทีมสู้กับเพื่อนร่วมเมืองแล้วได้ผลลัพธ์ที่พึงใจมากกว่าอันนี้ขึ้นมานี่แหละครับ
เป็นความคิดเห็นของ เชส ฟาเบรกาส ที่น่าตรงใจเพื่อนๆหลายๆคน
ขอให้แฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนสเต็ดโชคดี
