เป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับ “บรรดาเชิ้ดดำ” กับ สรรพนามที่ใช้เรียก “เจ้าแม่เชิ้ตดำ”หญิงสาวนางหนึ่ง ในวงการผู้ตัดสิน
แว่วมา บรรดาผู้ตัดสินจากทั่วสารทิศกำลัง ตั้งฉายาให้ใหม่ เพราะนอกจากจะทำตัวเหนือทุกคน ควบคุมดูแลกิจการเรื่องของผู้ตัดสินเกือบทั้งหมด เหยียบใครได้เป็นเหยียบ เพื่อให้ตัวเอง กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ใครขวางทาง ก็ต้องเขี่ยกระเด็นให้พ้นทาง อย่างกรณี อาจารย์ อ. 1ในคณะกรรมการผู้ตัดสินฯ ตอนนี้ไปนอนเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน
อย่างนี้จะไปเหลืออะไรครับท่านพี่น้อง แค่ผลประโยชน์กับส่วนต่างในทุกมิติ ทั้งตัวเอง และพวกพ้อง ก็รับกันอื้อซ่า ไม่แปลกใจที่ ผู้ตัดสิน ที่อยู่ภายใต้การคอนโทรลเจ้าแม่ คนนี้ “ออกรถป้ายแดง” เป็นว่าเล่น
เรื่องฉาวโฉ่อย่างนี้ กลับไม่ได้รับความสนใจจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่มีการเรียกมาสอบสวน หรือส่งลูกน้องไปหาข้อมูล เพื่อหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นตามที่มีกระแสข่าวหรือเปล่า
อย่าลืม อุดมการณ์ของผู้ตัดสินไทยทุกคน คือ “บริสุทธิ์และยุติธรรม” แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแบบตรงกันข้าม หรือเป็นเพราะว่า “บิ๊กอ๊อด” ไม่รู้เรื่องของเกี่ยวกับผู้ตัดสิน เลยแม้แต่น้อย
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเท่ากับว่า ทำตัวยิ่งใหญ่กว่า “นายกลูกหนังไทย” เสียอีก แต่ก็ต้องเห็นใจ “บิ๊กอ๊อด” เหมือนกัน เพราะทั้งชีวิตเป็นตำรวจอาชีพ
แต่ถ้าปล่อยปะละเลยเช่นนี้ โดย เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ “วงการฟุตบอลไทย” จะเจริญขึ้นไปได้อย่างไร
อีกอย่าง ทุกวันนี้ “บิ๊กอ๊อด” เคยไปนั่งดูบอลลีกอาชีพบ้างหรือเปล่า
เพราะขณะนี้ “คนดู” จากที่เคยนั่งชมเต็มความจุของสนาม วันนี้ แต่ละสนามแทบไม่มีที่นั่ง มีแต่ที่นอน ดังนั้นถ้ายิ่งปล่อยให้ วงการผู้ตัดสิน ยังเป็นเช่นนี้ ก็ต้องรอนับวันตายของวงการฟุตบอลไทย
สำหรับเรื่องของ วงการผู้ตัดสินไทย ที่ผ่านมา ทุกคนมีความรัก มีความสามัคคีกันมาก เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่สำคัญทุกคนสามารถใช้จิตวิญญาณ และ จิตสำนึก ของการทำหน้าที่การเป็นผู้ตัดสินได้อย่างเต็มเปี่ยม
แต่วันนี้เมื่อมี “เจ้าแม่” คอยสั่งการในทุกๆ เรื่อง ผู้ตัดสิน ก็ต้องยอมทำตามทั้งหมด ศักดิ์ศรีของการเป็น “เชิ้ดดำ” วันนี้ไม่รู้หายไปไหน..
ต้องยอมรับว่า เจ้าแม่คนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่สนว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม หากไม่ยอมสยบให้ ก็เตรียมใจไว้ล่วงหน้า ขอให้จับตา รายต่อไป ก็น่าจะเป็นคิวของ “อาจารย์ ภ.”เพราะทราบมาว่า แกไป ขวางหู ขวางตาเจ้าแม่
รวมทั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ประธานกรรมการผู้ตัดสินและพล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ รองประธานฯ 2นายพลมือปราบระดับประเทศ ที่เข้ามาอยู่ร่วมกับนายกสมาคมฯ
ถ้าจะให้ดีที่สุด นายกสมาคมฯต้องให้นายพลมือปราบทั้ง2ท่านให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ให้มาเป็น“เสือกระดาษ”คอยแค่เซ็นต์เอกสารและเชิญไปร่วมเปิดงาน เพราะชื่อชั้นเหนือกว่า”เจ้าแม่เชิ้ตดำ” ทั้งมวล
ยิ่งตอนนี้มี พรายมากระชิบข้างหู พอรู้ว่าเรื่องใกล้จะมาถึงตัวเอง กลัวจะถูก”บิ๊กอ๊อด” เรียกพบ ก็สั่งปิดปาก “ผู้ตัดสิน” ที่ตนเองสั่งไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เตียมกันไว้หมดแล้ว
ถ้า “บิ๊กอ๊อด” เข้าใจเรื่องของ “เงินทอนวัด” นั้นแหละ “วงการผู้ตัดสินไทย” ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย… ระวังจะตกเป็นหุ่นเชิดให้กับ “เจ้าแม่”คนนี้
ล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านเรื่องที่ฉาวโฉ่ในวงการผู้ตัดสินฟุตบอล เมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกไปจับผู้ตัดสินฟุตบอลชื่อดังคนหนึ่งคาห้องพักคอนโดฯเกี่ยวกับข่าวไม่ดีของผู้ตัดสินฟุตบอลในเรื่องของการพนัน ฟุตบอลที่มีข่าวหนาหูกันมากมายในเวลานี้
ที่พูดมาก็เพราะเป็นห่วงภาพพจน์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ..
ที่สำคัญ “วงการฟุตบอลไทย” กว่าจะเติบโตมาจนถึงวันนี้ได้ ต้องผ่าฟันอุปสรรคมาหนักหนาสากันทีเดียว ดังนั้น คนที่เข้ามาบริหารงานสมาคมกีฬาฟุตบอล “ถ้าคิดจะไม่พัฒนา ก็อย่าทำลาย” ก็แล้วกัน..
ยันแข้ง