Monday, September 16, 2024
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.11

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.11

    มัน “ปาวิกกิมแม้”

    ผู้เป็นเซียนเฒ่าในยุทธภพครั้งอดีตเพิ่งผ่านพ้นไปไม่ดักดานนานนับเนื่องขวบปี ปะทุอารมณ์พลุ่งพล่านดาลเดือดราวกับพยัคฆ์ราชันย์แห่งป่าทึบทะมึนถูกเจ้าสมันน้อยกระตุกหนวดเข้าอย่างไม่ยำเกรงสถานะอันสูงส่งของมันแม้ปีกเล็กของเจ้าแมลงหวี่

    มันเซียนเฒ่าตะปบอุ้งมือขยุ้มจิกเส้นผมของดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ทำหน้าที่ถือสาส์นใบบอกเรื่องราว อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวจนจิตตระหนกตกหล่นระนาวเนื้อเต้นสั่นเทาระริกขวัญกระเจิงว่อน

    ก่อนจะพลันสำนึกได้ชักอุ้งมือกระหวัดกลับมาในสภาพเดิมเหมือนไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเลย สีหน้าพลันเปลี่ยนแปรจากแยกเขี้ยวเขม่นขึ้งถลึงนัยน์ตาปรับมาเป็นเฉยเมยได้อย่างอัศจรรย์ใจ

    อา..มันสำเหนียกเรียกสติกลับคืนได้หลังปล่อยอารมณ์ครอบงำนำสมองไปได้อย่างไร

    หรือเพียงแค่นึกถึงเรื่องราวที่อดีตประมุขแห่งยุทธภพที่มันเซียนเฒ่าเคยผนึกพลังร่วมมือกับจอมยุทธ์มือกระบี่ใบหน้าไร้อารมณ์ศิษย์รุ่นน้องผู้หนึ่งพลิกคว่ำบัลลังก์จนกลายเป็นจอมยุทธพเนจรพลัดถิ่นฐานโคจรรอนแรมเดียวดายไปตามดินแดนห่างไกลนับเนื่องเกือบยี่สิบปีแล้ว ได้หวนคืนถิ่นยุทธภพในสภาพเหมือนอ่อนล้าเบื่อหน่ายโลกแห่งการต่อสู้แย่งชิงความเป็นยอดฝีมือกระบี่แห่งแดนพยัคฆ์คำรณ…

    ใช่ มันอีกหนึ่งจอมยุทธ์ผู้เปี่ยมทั้งเชิงบู๊และบุ๋นเป็นที่ยอมรับนับถือของเหล่ามือกระบี่ทั้งหลาย แม้จะเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ต่อขุนศึกกระบี่หยกลิ้นมังกรแทงหลังเหวอะหวะเจียนสิ้นลมปรานแต่มันแหวกหนีโลกวิญญาณไปได้ด้วยอาศัยพลังภายในที่รวบรวมสุดล้ำลึกเต็มพลังที่เหลือทั้งหมด

    ยอมศิโรราบในคราวนั้น เพียงเพื่อรอเวลาอำนวยให้หวนคืนกลับมาทวงศักดิ์ศรีและชำระแค้นให้หมดสิ้น และนั่นคือเพลานี้

    บัดนี้อดีตประมุขฉายากระบี่หยั่งดินฟ้าท้าบาดาล มันคืนถิ่นแดนด้าวในวันวัยแม้ร่วงโรย หามิได้แต่กลับรุ่งโรจน์สว่างไสวจนทำให้เซียนเฒ่าซือแป๋ระงับจิตฝืนอารมณ์ข่มกลั้นไม่ไหวเผลอหลุดอากัปกิริยาอันมิควรปรากฏต่อหน้ามันผู้ใดทั้งสิ้น เป็นความรู้สึกที่ไม่คิดจะบังเกิดกับเซียนเฒ่าที่กรำศึกโชกโชนจากทุกสารทิศ ต้องมาพลาดพลั้งเผยให้เห็นจุดอ่อนด้อยอีกด้านหนึ่งของมันอย่างมิยากจับจ้องเพ่งพินิจ

    โดยพลันทันทีอดีตประมุขแห่งแดนยุทธภพมิพักให้เสียการแม้เรียวหนวดริ้นไรเร่งรวบรวมเหล่าสมุนรับใช้เก่าของมันจากทุกสำนักทุกก๊วนประดามีทั้งหลาย เข้ารวมเป็นกองกำลังผนึกให้แน่นมั่นคงแต่กาลเนิ่น ปิดจุดโหว่จุดแหว่งวิ่นเพื่อเตรียมกอบกู้อำนาจบารมีศักดิ์ศรีที่เคยถูกมันผู้อื่นทั้งหลายเคยปรามาสดูหมิ่นดูแคลนแสนบาดเจ็บใจแปลบกล้ำกลืนโลหิตในทรวงอกเต้นเร่าเร่าทุกลมปราน

    มันอดีตประมุขผู้เคยดำรงคงอยู่ในจุดสูงสุดเหนือบรรดามือกระบี่ทั้งหลายในยุทธจักร แม้ห่างเหินจากไปกว่ายี่สิบฤดูกาล ใช่ว่าฝีมือเชิงยุทธ์จะร้างลาถดถอยไปด้วยก็หาไม่ มันยังเชี่ยวเชิงยุทธ์ด้วยความยึดมั่นหมั่นฝึกฝนมิเว้นวางในทุกลมหายใจเข้าออกของมัน

    ด้วยดวงใจมุ่งมั่นผสานความแค้นผูกพยาบาท แปรเปลี่ยนเป็นกระแสพลังใจหนุนเนื่องให้มันเคี่ยวกรำฝึกปรือให้ฝีมือมั่นคงและแกร่งกล้าขึ้นด้วยตำราพิชัยยุทธ์จากทุกสำนัก

    มันรวบรวมยอดฝีมือทุกสำนักทั้งพรรคที่เคยเป็นอริคู่ต่อกรที่มันย่อยสลายให้หลอมรวมได้มันไม่ว่างเว้นทำ กระทั่งพรรคพลังภายในสลายวิญญาณแห่งสำนักป่าไร้ร่องรอยของเซียนเฒ่าก็ถูกดูดดึงเข้าสู่วังน้ำเขียวอมฤตจันทร์ส่องนภาลัย

    กระทั่งพรรคมวลประชากระยาจกที่ครั้งอดีตเคยรุ่งเรืองในยุทธภพในลำดับหนึ่ง บัดนี้ถูกบั่นสลายแตกหน่อแตกกอแตกฉานซ่านกระเซ็นยกเหล่าขุนพลที่พอมีฝีมือเข้ามาสวามิภักดิ์ด้วยอย่างมิอาจเป็นไปมิได้ก็ รวมสะระตะกองทัพของอดีตประมุขแห่งดินแดนขุนเขาเทวดา นาม “ตั๊กซิ่งเหล่าซือ” มีนักบู๊ทุกเพลงยุทธ์ผนึกผสานกับนับได้กว่าสามร้อยยอดฝีมือ เป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่แข็งแกร่งท้าปฐพีทุกแคว้นทุกแดน เพียงพอจะรอนฤทธิ์ขจรขจายทำลายบรรดาผู้หาญเหิมท้าประลองกำลังได้ในชั่วกะพริบตา

    ฟ้าคำรามครืนครั่นโครมครามอยู่มิพักหยุดหย่อน เมฆทะมึนก่อตัวคลุมห้วงเวหา แสงอสุนีบาตแลบเปรี้ยงประดุจเงากระบี่ถูกกระชากจากฝักจู่โจมฟาดฟันคู่ต่อสู้ก่อนเสียบเข้าฝักในเสี้ยวเหยี่ยวขยับปีก

    เหมือนฉากยิ่งใหญ่กำลังจะบังเกิด เป็นห้วงระทึกที่รอระเบิดศึกใหญ่ทวงบัลลังก์ของมันอดีตประมุขสำนักจันทร์ส่องนภาลัย…ใกล้เข้ามาทุกขณะจิต

    ข้าพเจ้าผู้ด้อยฝีมือเชิงยุทธ์เฝ้ารอด้วยใจระทึกเหมือนกันจนคิดกระเจิดกระเจิงประหวั่นพรั่นพรึงกับวันนั้นอย่างมาก

    คิดพลางเคลิ้มฝันมันจะดีเลวอย่างไรหลังจากนี้ อะไรจะเกิดขึ้น ผลจะลงเอยอย่างไร สรรพสิ่งล้วนมีวันเปลี่ยนแปลง แม้แต่รถเมล์ยังต้องหยุดวิ่งหลายสาย ปรับเส้นทางระยะทางวิ่งกันใหม่

    แล้วเหตุอันใด แดนยุทธภพที่เหล่ายอดฝีมือมาชุมนุมกันเหมือนตะลุยแดนพยัคฆ์ อาจจะไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจเขย่าขวัญสั่นประสาทเหมือนเก่าก่อนก็ย่อมมิอาจมิเป็นไปได้

    ดุจดังชุมนุมนักเลงเทวดาในโรงเตี๊ยมธรรมดาก่อนแยกย้ายสลายขั้วไปตามทางของเหล่าพวกมันบู๊ลิ้มไร้วิญญาณทั้งหลาย เมื่อร่ำสุราจนหมดจอกหมดไหไปแล้วนั่นเอง

    23/8/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments