Monday, September 16, 2024
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.13

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.13

    รถเมล์แล่นจอดที่ป้ายปากทางเข้าหมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่ง

    มีคนยืนรอรถเมล์นับสิบคน หนึ่งในนั้นมีชายสูงอายุรูปร่างสูงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสะอาดเป็นเสื้อสีฟ้ากางเกงสีเทาสวมหมวกแก๊ป ปะปนอยู่ในหมู่ผู้โดยสารที่กำลังก้าวขึ้นรถเมล์ ในรถเมล์ไม่มีที่นั่งว่างเหลืออยู่แม้แต่ที่เดียว นอกจากนี้ยังมีผู้โดยสารยืนโหนราวอยู่เกือบเต็มคันรถ

    ชายชราที่คะเนอายุน่าจะไม่ต่ำกว่าแปดสิบปี จึงต้องยืนจับราวโหนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีผู้โดยสารคนหนุ่มสาววัยแข็งแรงจะสละที่นั่งให้ก็หาไม่ แต่ละคนไม่มีเวลาจะสนใจใครเป็นใคร เพราะแต่ละคนมีที่พักสายตาอยู่ที่หน้าจอมือถือ หรือปิดเปลือกตาแสร้งงีบหรือง่วงจริงไม่สามารถล่วงรู้ได้

    เพื่อไม่ให้เห็นภาพตรงหน้าว่าเป็นอย่างไร ทุกคนมีสิทธิ์มีเสรีภาพที่จะคิดจะทำในสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องความเสียสละเพื่อสังคมไม่มีในบทบัญญัติใดใดทั้งสิ้น จึงเป็นไปตามสภาพที่เห็นในทุกวันนี้

    ข้าพเจ้าสังเกตมองจากด้านท้ายขณะที่ยืนโหนราวอยู่ แม้รถเมล์จะแล่นกระชากเปลี่ยนเลนแกว่งไปมาแค่ไหนก็ยังเห็นชายชราเสื้อสีฟ้าโอนเอนไปตามแรงเหวี่ยง คอยแต่ภาวนาในใจอย่าให้เกิดเหตุอันตรายใดกับชายชราคนนี้เลย

    รถแล่นผ่านป้ายแล้วป้ายเล่าก็ยังเห็นชายชราโหนอยู่อย่างนั้น ไม่สามารถก้าวไปแย่งชิงเก้าอี้นั่งกับผู้โดยสารอื่น เนื่องจากอาการชราภาพเดินเหินเชื่องช้ากว่าคนอื่น จึงได้แต่นึกเวทนาและคิดแต่เพียงว่าทำไมหนอผู้คนสมัยนี้ช่างแล้งน้ำใจกันเหลือเกิน กับ

    คนเฒ่าคนแก่ที่สังเกตเห็นมากมายกว่าแต่ก่อน จำต้องใช้รถเมล์เป็นพาหนะเพื่อสัญจร มันดูมากขึ้นอย่างที่มีข่าวเสนอว่าบ้านเมืองเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย ท่าจะเป็นเรื่องจริงจึงได้เห็นคนสูงอายุไปไหนต่อไหนพร้อมกันอยู่บ่อยครั้งจนชินตาไปแล้ว

    ระหว่างรถแล่นไปตามเส้นทางถึงป้ายหนึ่ง มีผู้โดยสารก้าวขึ้นบนรถเมล์เรื่อยเรื่อย พอรถเคลื่อนตัวออกจากป้าย คนขับกดสวิตช์ปิดประตูรถ ได้ยินเสียงเจ้าสุนัขสีดำตัวหนึ่งวิ่งไล่เห่ารถเมล์จนเลยป้ายไประยะไม่ไกลก่อนจะเลิกวิ่งไล่ตาม

    ข้าพเจ้าได้แต่ชะโงกหน้ามองด้านข้างรถเมล์ที่มาของเสียงเห่าวิ่งไล่กวด รู้สึกสนเท่ห์เหมือนกับผู้โดยสารคนอื่นว่าทำไมเจ้าสุนัขตัวนั้นไล่เห่ารถเมล์ แต่ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไรมากเมื่อรถเมล์แล่นผ่านเลยไปนอกจากรอเวลาให้ถึงที่หมายเท่านั้นเอง

    กระทั่งใกล้ถึงป้ายที่ข้าพเจ้าจะต้องลงรถเมล์ จึงต้องแหวกผู้คนที่ยืนโหนราวหนาแน่นพอสมควรไปรอใกล้ประตู สายตาเหลือบดูยังเห็นชายชราวัยไม่น้อยกว่าแปดสิบในเสื้อสีฟ้าสะอาดสังเกตมีตัวสกรีนเป็นอักษรสีขาวอย่างชัดเจนที่ด้านหลัง

    มันไม่ใช่เครื่องหมายโฆษณาสินค้าหรือตราสัญลักษณ์อะไรทั้งนั้น แต่มีข้อความเป็นประโยคสามแถวบอกว่า

    “ชายชราท่านนี้มีอาการหลงลืม หากท่านพบเห็นอยู่ตามลำพัง โปรดแจ้งทางโทร.———-”

    ข้าพเจ้าพยายามจดจำหมายเลขโทรศัพท์แต่มองเห็นหมายเลขไม่ถนัด เนื่องจากมีคนอีกหลายคนยืนบังอยู่ จึงได้แต่ก้าวลงจากรถเมล์ไปด้วยภาพที่วนเวียนอยู่ในหัว ไม่สามารถจดจำอะไรได้มากไปกว่าภาพชายชราในเสื้อสีฟ้าบนรถเมล์สายนั้นในวันนั้น

    หรือข้าพเจ้าจะเป็นชายชราที่มีอาการหลงหลงลืมลืมอีกคนไปเสียแล้ว .

    1/9/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments