มันเป็นเรื่องวนเวียนซ้ำไปมาในคลื่นสมองของฉัน ขณะเดินไปตามทางเดินบนสะพานลอย
ฉันต้องเดินบนสะพานลอยแทบจะแปดวันในหนึ่งสัปดาห์ นี้เรื่องที่เกือบจริงไปทั้งหมดทีเดียวแหละ แล้วก็ได้พบเจอหญิงผอมบางชุดดำกะมอม เธอไม่ได้นอนทอดร่างบนทางเดินเหมือนเคย แต่ยืนยิ้มอยู่ลำพังปากขมุบขมิบพูดกับตัวเอง
“แหมทำเป็นรวยนะ”
ไม่รู้ว่าถ้อยคำนั้นต้องการถ่ายทอดไปให้ใครรับฟัง ถัดไปอีกไม่กี่ก้าวเป็นชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีดำคล้ำกางเกงดำหลวมผูกด้วยเชือกแทนเข็มขัดนั่งอยู่บนพื้นทางเดินง่วนกับการเขียนหนังสืออะไรสักอย่างบนแผ่นกระดาษที่ใช้ฝากถอนเงินธนาคาร ไม่ไยดีกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนเดินกรายผ่านไปมาอย่างรวดเร็วและดูสับสนวุ่นวายไปหมด
มันเป็นความเรียบง่ายและสงบอย่างแปลกชอบกล คนสองคนที่ดูเหมือนอยู่เพียงลำพังโดดเดี่ยว กำลังสื่อสารถึงกันและกัน เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในระยะใกล้ชิดเท่านั้น
เดินผ่านเลยไปจนกระทั่งก้าวไปตามทางฟุตปาทที่คร่ำคร่าเหนียวเหนอะคราบกระดำกระด่าง แผ่นอิฐปูทางเท้าที่แตกร้าว มีน้ำขังเฉอะแฉะ
ด้วยความระมัดระวังไม่ให้เท้าเหยียบลงบนแผ่นอิฐที่แตกและมีน้ำขัง ด้วยเกรงจะโดนน้ำกระเซ็นเปื้อนเท้าและขากางเกงให้เสียอารมณ์
พลันสายตาสะดุดอยู่กับสิ่งมีชีวิตตัวดำๆเทาๆ
ใช่แล้วมันเป็นนกพิราบจงอยปากสีแดง ขนไม่เป็นมันวาวนัยน์ตาดูไม่สดใส มันยืนนิ่งแทบไม่ไหวติง
แม้เดินเข้าไปใกล้ มันก็เลี่ยงเดินหนีไปช้าๆ เหมือนไม่อยากจะหลบ หรือว่ามันไม่มีเรี่ยวแรงจะหลบหนี ท่าทางเหมือนมันป่วยอมโรคหรือไม่ก็ถึงวัยชราภาาพจนไม่มีเรี่ยวแรงบินเหมือนก่อนแล้ว
อีกทั้งไม่เหลือความงามความน่ารักและความมีอิสระเสรีอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่เคียงคู่บอกความหมายในตัวตนของมันได้อย่างชัดเจนและทรนงในศักดิ์ศรีอิสรภาพที่หลายชีวิตอยากเป็นได้ดั่งมัน
ยิ่งพินิจพิจารณาแตกยอดออกไปยิ่งเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้มันสามารถโฉบบินในอากาศในความสูงลิบลิ่ว กระพือปีกเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าเอี้ยวตัวขยับปีกกางปรับเอียงให้เลี้ยวร่อนอาบแสงแดดล้อลมอย่างสง่างาม
บางครั้งดิ่งตัวจากยอดตึกสูงบนทางด่วนบ้าง พุ่งปักลงเบื้องล่างอย่างไร้ความกลัวอันน่าหวาดเสียวใดๆ ทั้งนั้น พร้อมกับส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอเหมือนเสียงครางต่ำๆ ครึ้มอกครึ้มใจอย่างมีชีวิตชีวา
ดูเหมือนมันเต็มไปด้วยความสุขใจอย่างล้ำเหลือในแต่ละวันที่ลืมตาตื่น มารับแสงอ่อนๆ จิกเมล็ดพืชเมล็ดข้าวกินจนอิ่มหนำแล้วบินว่อนไปมาตามแต่ใจปรารถนา ไม่มีเส้นขีดกั้นแบ่งแยกไม่มีสิ่งใดมากำหนดกฎเกณฑ์ให้มันต้องทำตามทุกอย่าง มันมีอิสระเสรีอย่างแท้จริงอย่างนั้นหรือ
ตราบเท่าที่สิ่งมีชีวิตใดๆ ได้ถือกำเนิดมีลมหายใจรับสัมผัสความรู้สึกทางกายและจิตใจได้ หากจะบอกว่าทุกชีวิตมีอิสระเสรีภาพเหมือนกันไปทั้งหมดเลย
คงกล่าวได้ไม่เต็มที่สักเท่าใดนักหากมองย้อนลึกไปอีกสักหน่อย ทุกชีวิตล้วนถูกกำหนดด้วยกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ธรรมชาติที่เป็นเจ้าชีวิตโดยแท้จริง
ไม่มีหนทางใด ที่จะสลัดพ้นไปจากกฎเกณฑ์ของธรรมชาติได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่ว่าจะเคยรับรู้หรือสัมผัสเสรีภาพและอิสรภาพเพียงใด
มันเป็นเหมือนภาพมายาเท่านั้นเองหาใช่ความเป็นจริงไม่ดูอย่างเจ้านกพิราบตัวนั้น ในห้วงใกล้วันสุดท้ายของมัน มันก็ไม่สามารถจะโบกโบยโผผินบินไปตามใจปรารถนาได้อีกต่อไป คงได้แต่รอคอยวันสุดท้ายของมันเท่านั้นที่มันจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง
ฉันเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ต้องเดินต่อไปอย่างไม่ท้อถอยตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจเหมือนเจ้านกพิราบตัวนั้น
สักวันหนึ่งจะถึงดินแดนแห่งเสรีภาพ ที่ไม่มีสิ่งใดมากำหนดกฎเกณฑ์ให้ต้องเป็นไปตามความต้องการของสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือสิ่งใดก็ตาม
29/10/2567