Monday, September 16, 2024
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.6

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.6

    นั่งเหม่อรำพึงย้อนคำนึงปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ ระหว่างเดินทางบนรถเมล์สีครีมแดงสายหนึ่งที่ยังมีเบาะนั่งว่างให้ได้นั่งบ้างในช่วงเวลาที่ไม่ได้รีบร้อนเร่งด่วนสักเท่าใด

    บางทีการหยุดนิ่งไหลเอื่อยเหมือนลำธารตื้นเขิน ช่วยบรรเทาเบาบางความเครียดครุ่นขุ่นข้องหมองในกมลจิตลงไปได้บ้าง

    บนถนนที่รถราเบาบางไม่ติดขัดแล่นไปได้อย่างคล่องตัว บรรยากาศที่ชื้นหลังฝนซาลงในตอนเช้าวันหนึ่ง กับการเดินทางที่ไม่ค่อยจะได้พบเจอบ่อยนัก ความคิดคำนึงเลยสงบไม่ฟุ้งซ่านเครียดเคร่งเหมือนวันอื่นๆ

    ใจเหม่อลอยเกือบไม่เหลือเศษเสี้ยวความขุ่นมัวในหัวเลย กลับต้องสะดุดอีกเมื่อนึกถึงคลิปวีดิโอชิ้นหนึ่งที่ปรากฏพบเห็นในโทรมือถือจนติดตราตรึงใจในห้วงคิดคำนึงเสมอ ผุดขึ้นมาในมโนสำนึกจนได้

    มันเป็นคลิปเผยให้เห็นชีวิตอีกหลายลมหายใจ ปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้าหรืออาจแค่ข่มเปลือกตาปิดเท่านั้น นอนตะแคงบนม้านั่งรอรถโดยสารประจำทางที่ป้ายแห่งหนึ่งในย่านคนพลุกพล่านเพียงแต่ร้างผู้คนในยามค่อนดึกดื่น รอแสงอรุณของวันใหม่เพื่อต่อเติมลมหายใจไปอีกวันหนึ่งเท่านั้นเอง

    หากแต่เจตนารมณ์ของเจ้าของคลิปคงไม่ได้ต้องการสะท้อนให้เห็นชีวิตของใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนอย่างแม่นมั่น เพราะต้องการสื่อรักษาสิทธิ์ของตนเองในฐานะพลเมืองหน่วยหนึ่งของสังคม ต้องการไถ่ถามไปถึงผู้เกี่ยวข้องในท่วงทำนองเรียกร้องขอคืนพื้นที่นั่งพักรอรถโดยสารประจำทางหรือรถโดยสารสาธารณะทั่วไปที่ป้ายแห่งนั้น จากผู้หลับใหลบนม้านั่งที่ถูกยึดครองเป็นเตียงแข็งกระด้างรับร่างที่หมดเรี่ยวแรงอ่อนล้าเหล่านั้น

    เพียงคิดสะระตะเรื่อยเปื่อยถึงภาพที่เห็นประกอบเสียงบรรยาย มันแตกความเห็นไปในหลายทาง จริงแน่นอนเป็นสิทธิ์ของพลเมืองทุกคนที่จะใช้สอยสิ่งสาธารณประโยชน์ได้เท่าเทียมกัน ผู้เผยคลิปแพร่ในสื่อสังคมไม่มีเจตนาล่วงละเมิดผู้อาศัยหลับนอนบนม้านั่งรอรถเมล์ เพียงแต่ทวงสิทธิ์ของตัวเอง เป็นมุมมองที่ยอมรับกันได้ไม่ผิด

    ขณะที่ผู้ล้มตัวลงนอนบนม้านั่งด้วยไม่มีห้องหับเตียงนอนของตัวเองในเมืองใหญ่อย่างนี้ ย่อมต้องแสวงหาสถานที่ที่คิดว่าดีที่สุดในค่ำคืนนั้นเพื่อพักผ่อนร่างกายเหมือนกับคนทั่วไป แต่ไม่ได้อบอุ่นอ่อนนุ่มเหมือนเตียงนอนในบ้านในเรือน

    แน่นอนพวกเขาและเธอเหล่านั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงที่ถูกเรียกขานว่าคนไร้บ้าน คนจรจัด หรืออะไรก็ตาม แม้ยามถือกำเนิดเป็นทารกจะอยู่บนเตียงโรงพยาบาลที่ใดที่หนึ่ง หรือใต้หลังคาบ้านหลังใดหลังหนึ่งก็ตาม คงไม่มีใครในหมู่เขาเหล่านั้นจะใฝ่ฝันเติบโตมาเป็นคนจรหมอนหมิ่นอย่างที่เห็นในคลิปอย่างแน่นอนถ้าไตร่ตรองให้ลึกลงไปอีกสักเล็กน้อย

    รถเมล์ตะบึงต่อไปตามเส้นทางแวะจอดส่งและรับผู้โดยสารตามป้าย ข้างๆ ที่นั่งยังว่างอยู่ แต่ผู้โดยสารนักเรียนนักศึกษาสถาบันอาชีวะที่ไหนสักแห่งสองสามคนยังคงยืนโหนราวอยู่ไม่มีใครสนใจอยากจะนั่งลงเคียงข้างบ้างเลย ขณะที่รถยังคงทำหน้าที่ของมันไปตามการบังคับของโชเฟอร์รถเมล์อย่างซื่อสัตย์ไม่ทรยศเครื่องรวนพังจนแล่นต่อไม่ได้

    กระทั่งเมื่อรถเมล์เข้าจอดป้ายหนึ่งระหว่างทาง ก่อนเร่งเครื่องเดินหน้าต่อไป กำลังคิดถึงคลิปวีดิโอนั้นอยู่ หาจุดเรียกความสนใจจนทำให้มีความเห็นหลากหลายตามสื่อโซเชียลที่บางสำนักมีชื่อเสียงในวงกว้างหยิบไปขยายเผยแพร่กลายเป็นข่าวอีกชิ้นหนึ่งที่ผู้คนสนใจและแสดงความคิดเห็นต่างกันไปตามความรู้สึกความคิดของแต่ละคนอย่างหลากหลาย

    บ้างเห็นด้วยที่จะให้จัดระเบียบการใช้สาธารณประโยชน์อย่างถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของสถานที่นั้นๆ บ้างมองไปถึงความเป็นมนุษย์ให้เอื้ออาทรต่อกันบ้าง บางรายก่นประณามคนเหล่านั้นในทำนองเป็นคนขี้เกียจไม่ยอมทำงาน ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบสร้างฐานะ ไปจนกระทั่งเรียกร้องให้ไปตรวจสอบว่าเป็นคนต่างด้าวใช่หรือไม่

    ไม่อาจชี้ชัดว่าความเห็นที่ว่าอันไหนถูกต้องเหมาะสมที่สุด นอกจากปล่อยให้ลอยเลื่อนไปในคลองแห่งปัญญาเท่าที่มีอยู่น้อยนิด

    “ผลุบ”เสียงปลุกภวังค์ให้สะดุ้งตื่น มีชายร่างผอมสูงผมยาวประบ่า เสื้อยืดที่อาจเคยเป็นสีขาวสะอาดสะอ้านมาก่อนแต่บัดนี้มอมแมมเหลืองมีคราบเปื้อน เต็มไปด้วยรอยกระดำกระด่าง กางเกงยีนซีดเก่าเขรอะไม่ต่างจากเสื้อยืด หย่อนก้นนั่งลงบนเบาะที่นั่งคู่กัน พร้อมกับมีเสียงหายใจฟืดฟาด

    ผู้คนบนรถเหลือบเหลียวมองที่ชายคนนั้น ในแวบแรกความคิดก็ต้องมองว่า นี่ไงคนไร้บ้านอีกหนึ่งที่ก้าวขึ้นรถเมล์มานั่งติดกัน ทำให้ความคิดคำนึงถึงคลิปวีดิโอนั้นจางหายไปทันใด แล้วกลับมาเผชิญสถานการณ์จริงตรงหน้า

    ขณะรถเมล์แล่นไปตามปกติ คนเก็บค่าโดยสารเดินเข้ามาใกล้มองชายคนนั้น แล้วผ่านเลยไปไม่สนใจเรียกเก็บเงินค่ารถเมล์ชายคนนั้นนั่งขยุกขยิกหันรีหันขวาง บางครั้งส่งเสียงครางในลำคอให้เผลอแหงะมองบ้าง ในใจคิดเพียงว่านี่ก็คืออีกหนึ่งลมหายใจของเพื่อนร่วมโลก จะดีจะร้ายอย่างไรก็ไม่สิทธิ์ไปไล่ให้เขาหนีห่าง แม้จะมีกลิ่นสาปจากเนื้อกายที่ไม่ได้ผ่านน้ำผ่านสบู่มาเลยไม่รู้กี่วันกี่เดือนกี่ปี โชยมาแตะจมูกอยู่รำไรก็ตาม

    ได้แต่คิดเตรียมรับมือสถานการณ์ที่ประเมินไปในทางเลวร้าย หากชายคนนั้นนึกจะทำอะไรที่ผิดปกติวิสัยปุถุชน จะทำอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย ในใจเมื่อพบคนแปลกหน้าไม่ว่าในเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สะอาดสวยงามหรือปอนเปื้อนเขรอะสกปรกโสมม ย่อมต้องมองในเชิงลบไว้ก่อนบ้างอย่างที่มีคำเตือนคำพร่ำสอนปรากฏให้เห็นอยู่เสมอๆ หรือคติสอนใจแต่โบราณว่าอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน

    จนเมื่อถึงป้ายที่จะลง ข้าพเจ้าหันไปหาชายคนนั้นที่นั่งติดกันขอทางเพื่อลุกจากเบาะนั่ง เขาหันมายิ้มและเบี่ยงตัวขยับขาออกให้ก้าวเดินอย่างเรียบร้อยสุภาพ ไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้ในใจเลย​

    เป็นอีกวันหนึ่งที่เรื่องราวในโลกโซเชียลกับโลกจริงมันทับซ้อนกันอย่างนี้เอง

    2/8/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments