เช้าวันนี้สัมผัสความหนาวเย็นตามฤดูกาลบนรถเมล์ครีมแดง ต้องลดกระจกหน้าต่างลงปิดสนิทไม่ให้ลมยะเยือกลอดช่องหน้าต่างมาให้สะท้านกายเพิ่มอีก
กระทั่งรถเมล์ถึงป้ายที่หมาย ลงก้าวเดินไปยืนต่อรถเมล์เล็กหรือสองแถวสีแดงอีกทอดหนึ่งเพื่อกลับบ้าน ตรงบริเวณที่ยืนรออยู่ริมกำแพงวัดใหญ่ บรรยากาศดูไม่แตกต่างจากทุกวันที่มายืนรอยังรถสองแถว
แต่กระนั้นในความคุ้นชินกลับมีเรื่องราวที่แตกต่างจากเสี้ยวเล็กน้อยไปจนแปลกตาระคนสนเท่ห์บ้างก็มีไม่น้อย
ยืนเกร่ตรงนั้นชั่วครู่หนึ่ง เบื้องหน้าบนถนนเป็นทางม้าลายใกล้จุดตัดสามแยก มีผู้คนและยวดยานคลาคล่ำตามปกติของช่วงเช้าวันทำงาน
พลันเห็นคนขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่งหยุดตรงทางม้าลาย พร้อมกับกางแขนส่งสัญญาณบอกรถที่ตามมาให้หยุดไปพร้อมกันด้วย ทั้งที่ไม่เห็นมีคนข้ามถนนขณะนั้น
นอกจากมีหญิงสาวสองคนท่าทางเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จากการสังเกตลักษณะการแต่งกายและได้ยินเสียงพูดคุยกันด้วยภาษาต่างประเทศและทั้งสองก็หัวร่อต่อกระซิกกัน
หลังก้าวพ้นถนนขึ้นบนทางเท้าแล้ว จู่ๆ หญิงคนที่ดูอ่อนวัยกว่าหันเลิ่กลั่กไปทางด้านหลังที่คนขี่มอเตอร์ไซค์ร้องเรียกโหวกเหวก ก่อนจะหันไปเห็นวัตถุชิ้นหนึ่งตกอยู่ตรงทางม้าลายสีแดงขาวนั้น
เธอรีบวิ่งลงไปกลางถนนที่เธอเพิ่งก้าวข้ามมาชั่วประเดี๋ยวนั้น ก้มลงเก็บเจ้าวัตถุชิ้นนั้น
ซึ่งทุกสายตาของผู้คนที่ยืนอยู่บริเวณเดียวกัน เห็นได้ชัดว่ามันคือกล้วยหอมใบหนึ่งบรรจุใส่ถึงพลาสติกรัดแถบกาวแน่น ติดตรายี่ห้อของร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่
เธอคงซื้อจากร้านสะดวกซื้อใกล้เคียงนั่นเอง แต่ระหว่างเดินข้ามทางม้าลาย เกิดหล่นโดยไม่รู้ตัว
เป็นจังหวะเดียวกับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างกำลังจะแล่นผ่าน แต่คนขับขี่รายนี้ รีบเบรกทันทีพร้อมกับร้องเรียกให้เจ้าของกล้วยหอมใบนี้มาเก็บก่อนที่จะโดนรถสารพัดแล่นทับบดบี้เละเทะเสียก่อน
สิ่งแรกที่ข้าพเจ้านึกขึ้นได้นั้น ก็คือความเป็นคนที่มีน้ำจิตน้ำใจดีของคนไทยทั่วไปนี่เอง ที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นเสมอ
ซึ่งหากทำเช่นนั้นก็ไม่ผิดอะไร เพราะวิสัยของผู้ขับขี่ยวดยานบนถนนต้องพึงไม่หยุดรถโดยใช่เหตุอันสมควร รถที่ตามมาทั้งหมดก็หยุดตามแต่โดยดี เพื่อเปิดทางให้เจ้าของกล้วยหยิบเก็บขึ้นได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเธอก็ขอบคุณในความมีน้ำใจของคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างคนนั้นอย่างมาก
เรื่องมันก็ผ่านสายตาไปเพียงไม่กี่วินาที
แต่สิ่งที่คิดขยายแตกตามมาถึงเจ้ากล้วยใบนั้น มันต้องเป็นกล้วยหอมทองใบพิเศษใบหนึ่งอย่างแน่แท้
จากที่ไม่ได้คิดสะกิดใจอะไรเลยกับสินค้าที่เห็นวางอยู่ในชั้นขายผลไม้ของร้านสะดวกซื้อทั่วไป ทำให้ได้คิดถึงวิธีการค้าขายที่แยบยลของผู้ค้นคิดนักการค้าปลีกค้าย่อยที่ทำให้สินค้าอย่างกล้วยหอมทองสามารถทำกำไรเพิ่มยอดสินค้าได้อย่างมาก นัยว่าขายได้วันละนับแสนลูกเลยทีเดียว
จากที่โบร่ำโบราณจะซื้อจะขายกันยกหวี กลับพัฒนามาแบ่งใส่ถุงพลาสติกขายกันทีละใบทีละลูก ตามวิถีชีวิตพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ไม่สะดวกจะซื้อแบกกันไปเป็นหวีให้หนักแรง ขอซื้อใบละแปดถึงเก้าบาทจะสะดวกกว่า
เป็นความพอใจของคนซื้อและคนขายที่มาบรรจบกันพอดี คนขายก็ได้กำไรมากขึ้นจากการแบ่งขายเป็นลูกเป็นใบเดี่ยว
พอค้นที่มาถึงได้รู้ว่าต้นคิดมาจากสหกรณ์เกษตรท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี นี่เองจนแพร่ขยายไปอีกหลายจังหวัด
นี่แหละหนาเรื่องราวของกล้วยหอมทองลูกเดียวบนทางม้าลายใบนั้น
ไม่ว่าจะเรียกเป็นลูกหรือเป็นใบก็ตาม มันก็หมายถึงกล้วยหอมทองที่หอมหวานนี่เอง.
18/1/2568