Saturday, December 27, 2025
More
    Homeบันเทิงจากหนังเลื้อยสยองโลก-Anaconda

    เลื้อยสยองโลก-Anaconda

    ในปี ค.ศ.1997 โลกภาพยนตร์ปรากฏเรื่องราวของงูยักษ์แห่งป่าแอมะซอน ในภูมิภาคอเมริกากลาง ออกมาฟาดหัวฟาดหางผ่านจอ หนังแอ็คชั่นผจญภัยปนสยองขวัญเรื่องนี้ชื่อว่า Anaconda (อนาคอนดา)

    กำกับโดย “หลุยส์ โลซา” นักสร้างหนังชาวเปรู นำแสดงโดย “เจนนิเฟอร์ โลเปซ” และ “ไอซ์ คิวบ์” ซึ่งรับบทนักสร้างภาพยนตร์สารคดีที่ถูกงูยักษ์โจมตีในป่าแอมะซอน

    ถึงจะสร้างความตื่นตาตื่นใจบนจอเงิน แต่ Anaconda ฉบับเมื่อเกือบ 3 ทศวรรษที่แล้ว กลับไม่ได้มีเสียงวิจารณ์เชิงบวกนัก แต่ก็โกยรายได้ไปมากทีเดียว แถมยังทำให้งูตัวมหึมากลายเป็นภาพจำมาจนถึงปัจจุบัน

    ทั้งปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้ได้กลายเป็นตำนานของหนังสัตว์ประหลาดที่เห็นหรือนึกถึงก็ตลกขบขัน แม้ว่าเรื่องราวของหนังพวกนี้ไม่ได้ตลกอะไรเลย

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มต้นด้วยความสำเร็จ “อนาคอนดา” ก็กลายเป็นงานแฟรนไชส์ มีการสร้างภาคต่อออกมาหลายภาค

    อาทิ Anacondas : The Hunt for the Blood Orchid (2004), Anaconda 3 : Offspring (2008), Anacondas : Trail of Blood (2009) และ Lake Placid vs. Anaconda (2015) จากนั้นการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับอนาคอนดาก็ค่อย ๆ จางหายไป

    ว่ากันตามตรงแฟรนไชส์ Anaconda ไม่ได้เป็นงานที่สวยหรูดูแพง ถ้าไม่นับภาคแรกที่ได้ดาราระดับสตาร์มาเล่น และภาค 2 ก็ได้รับเสียงชื่นชมว่าดีกว่าภาคแรกด้วยซ้ำไป

    ก็ต้องบอกว่าภาคต่อ ๆ มาหลังจากนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าคุณภาพของงานตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นหนังเกรดบี

    ​แต่แล้วหลังจากผ่านไป 10 ปี Anaconda ก็กลับคืนสู่จอภาพยนตร์อีกครั้ง เป็นงาน “รีบูต” ที่กำกับโดย “ทอม กอร์มิแคน” ผู้กำกับชาวอเมริกัน

    เขายังพ่วงตำแหน่งนักเขียนบทร่วมกับ “เควิน เอ็ตเทน” นักเขียนบทและโปรดิวเซอร์รายการทีวี ซึ่งทั้งคู่เคยมีงานเขียนบทร่วมกันคือเรื่อง Beverly Hills Cop: Axel F (2022) และ The Unbearable Weight of Massive Talent (2024)

    เห็นภาพโปสเตอร์ของ Anaconda ฉบับ 2025 มีนักแสดงฝีมือแพรวพราวระดับตัวพ่อตัวแม่ อย่าง “แจ็ค แบล็ค” เอย “พอล รัดด์” เอย หรือแม้แต่ “สตีฟ ซาห์น” และ “ธานดิเว นิวตัน”

    ก็ชวนให้สงสัยว่า…ทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงมารับงานนี้

    อีกอย่างเมื่อได้ดูตัวอย่างหนังก็หายห่วงว่างานนี้ได้ขำกันกรามค้างแน่ ๆ ซึ่งก็ไม่เกินความคาดเดา

    เพราะการแสดงที่ลื่นไหลเคมีเข้ากันอย่างลงตัวไม่ว่าจะในฉากดราม่า ฉากฮาเฮ ฉากหนีตาย สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้สนุกสนาน

    แม้ผู้ชมก็ได้ตื่นตาตื่นใจในฉากงูยักษ์เลื้อยไปมาน่าสะพรึง สิ่งที่ประจักษ์ชัดก็คือเทคนิคพิเศษในการสร้างภาพงูตัวเขื่อง ไล่ล่า สวาปามเหยื่อ ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย

    อีกทั้งบทภาพยนตร์ ทิศทางการเล่าเรื่อง ก็พิถีพิถันไม่ไก่กาอาราเล่อย่าง Anaconda ฉบับที่ผ่าน ๆ

    ​หนังเล่าเรื่องผ่านเพื่อนฝูง 4 จากเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกา ที่ชีวิตติดกับดัก รู้สึกว่าทุกวี่วันเหมือนจะใช้ชีวิตได้ดีก็จริงแต่ก็เหนื่อยล้าเหลือเกิน เพราะรู้สึกว่ายังมีอะไรที่ขาดหาย ต้องการอะไรบางอย่างมาเติมเต็ม ก่อนที่อาการหมดไฟจะลุกลามถามหา

    https://www.youtube.com/watch?v=BhwjhJGUuiA

    เรื่องราวเริ่มจาก “กริฟฟ์” (พอล รัดด์) ตัวประกอบอดทนวัยดึกที่งานแสดงไม่รุ่งสักที ได้เดินผ่านโปสเตอร์หนัง Anaconda ในสตูดิโอถ่ายหนังฮอลลีวูด

    เจ้าตัวเลยเกิดไอเดียมาเล่าให้ “ดั๊ก” (แจ็ค แบล็ค) เพื่อนสนิทฟังว่าได้สิทธิ์ทางกฎหมายสร้าง Anaconda จากเจ้าของลิขสิทธิ์

    “ดั๊ก” ที่เลี้ยงชีพด้วยการเป็นช่างวิดีโอถ่ายงานแต่งงาน รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ได้โชว์พรสวรรค์ทั้งการเขียนบทและกำกับหนังของตนเองที่มีมาตั้งแต่เยาว์วัย

    เขาสนใจโปรเจ็คต์นี้และตกลงปลงใจจะเดินทางไปบราซิลเพื่อเข้าไปถ่ายหนังในป่าแอมะซอน


    มีเพื่อนอีก 2 คนคือ “เคนนี่” (สตีฟ ซาห์น) และ “แคลร์” (ธานดิเว นิวตัน) ขอร่วมสานฝันไปประกาศฝีมือรีบูตหนังระดับตำนานอย่าง Anaconda อีกครั้ง

    ​จริงอยู่ที่ความสนุกของหนังและความคาดหวังของผู้ชมก็ต้องพุ่งไปที่การปรากฏตัวของงูอนาคอนดา

    แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่ห่อหุ้มแก่นที่แท้จริงของหนัง นอกจากจะให้ตัวละครบรรลุความปรารถนาที่เหมือนจะถูกกลบฝังไปนาน

    จากความหวาดกลัวที่จะตัดสินใจ เลือกจะหันหลังให้กับความฝันที่มีมาแต่เด็ก จนตัดโอกาสที่จะทำสิ่งที่ใฝ่ฝันให้เป็นจริง


    การบุกไปยังป่าแอมะซอนของก๊วน 4 เกลอ ก็ได้พบเจอกับอนาคอนดาตัวเป็น ๆ ได้หนีตายกันป่าราบ แม้จะเป็นอะไรที่เดิมพันด้วยชีวิต

    แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ก็ปลดล็อกชีวิต ปลดล็อกความคิดให้กับ 3 หนุ่มใหญ่ กับอีก 1 สาวใหญ่ที่ต่างเผชิญกับวิกฤติวัยกลางคนอยู่

    ​นอกจากนี้การเป็นหนังซ้อนหนังของ Anaconda ยังเป็นการถือโอกาสทั้งเย้ยหยัน ทั้งค่อนขอด ถึงวิถีการทำหนังของคนในฮอลลีวูดไปพลาง ๆ และเป็นไปอย่างแสบคันทีเดียว.

    ​Blue Bird 27/12/68

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments