บนพื้นสะพานลอยคนข้ามยามเช้าตรู่
ผู้คนหนุ่มสาววัยทำงาน เด็กนักเรียนและชาวบ้านทั่วไปเดินพลุกพล่านในท่วงทีรีบเร่ง เพื่อไปให้ถึงจุดหมายของตนให้เร็วที่สุด
แทบไม่มีใครสนใจมองแลดูสภาพแวดล้อมรอบตัวให้เสียเวลาไปแม้สักวินาที ต่างก้มหน้าก้มตาสาวเท้าก้าวจ้ำไปข้างหน้า หลบหลีกให้ทางกันตามแต่จังหวะยวดยานพาหนะเบื้องล่างบนถนนยังไม่แน่นหนาสักเท่าใด ด้วยยังเช้าตรู่ รอเพียงอีกไม่กี่นาทีสภาพการณ์จะเข้าสู่สภาวะจราจรติดขัดในไม่ช้า
ณ สถานที่หนทางสัญจรของผู้คน มีพ่อค้าปูผ้าปูเสื่อพลาสติกวางสินค้าราคาถูก อาทิ หวี พวงกุญแจ เครื่องใช้สอยจิปาถะกรรไกรตัดเล็บ อีกหลากหลายชนิด ข้างเคียงกันเป็นพ่อค้าขายของประเภทเสื้อผ้า กางเกงชั้นใน ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า หน้ากากอนามัย และอีกหลายอย่าง
ถัดไปมีพ่อค้านำสินค้าจำเป็นของชาวบ้านมาวางขายอีกสองสามเจ้า ล้วนมีราคาพอจับต้องได้สำหรับมนุษย์เงินเดือนหาเช้ากินค่ำเดือนชนเดือน
พ่อค้าแม่ค้าบางรายนำอาหารสะดวกรับประทานเป็นข้าวกล่องพร้อมกับหนึ่งถึงสองอย่าง หรือเป็นขนมปังแซนด์วิชใส่ถาดตั้งวางบนเก้าอี้กลม หรือไม่ก็หมูปิ้งกับข้าวเหนียว บ้างใส่กระบะคล้องคอยืนรอลูกค้าผ่านไปมาที่เริ่มหนาตาขึ้นบ้างแล้วเมื่อเข็มนาฬิกาผ่านไปในช่วงเวลาเร่งด่วน
สินค้าที่ดูท่าจะขายได้บนสะพานลอยคนข้ามในห้วงเวลาอย่างนั้น คงเป็นจำพวกของกินมากกว่าพวกของใช้
พ่อค้าสองคนที่ปูผ้าพลาสติกวางสินค้า ไม่มีลูกค้าหยุดเลือกซื้อสินค้าของตนเลยแต่สภาพที่เป็นอยู่อย่างนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเขาทั้งสองรอจนช่วงสายๆ โน่นที่พอจะมีลูกค้ามาก้มหยิบจับเลือกซื้อบ้าง พอทำให้มีรายได้ไปวันหนึ่ง ๆ เพื่อจุนเจือปากท้องของตนเองกับครอบครัวให้อยู่รอดในสภาพที่ต้องดิ้นรนอย่างหนัก
ช่วงที่คนพลุกพล่านไม่ใช่เวลาทองของพ่อค้าทั้งสอง คนหนึ่งชื่อ สมบัติ ส่วนอีกคนชื่อ ประโยชน์
ทั้งสองโคจรมาใช้สะพานลอยคนข้ามเป็นร้านค้า จนคุ้นหน้าคุ้นเคยและรู้จักกันพอสมควรในวิถีทำกินของกันและกัน จึงถือโอกาสช่วงที่ไร้ลูกค้ามาพูดคุยสอบถามความเป็นไปของกันบ้าง ให้พอคลายความอึดอัดที่ไม่มีผู้คนเหลียวแลทักถามซื้อสินค้าของพวกเขาเลยสักคนเดียว
“เออนี่คุณประโยชน์” พ่อค้าของจิปาถะนามว่าสมบัติเอ่ยทักทายก่อน
“เช้านี้คุณทานข้าวหรือดื่มกาแฟหรือยังครับ”
“ยังเลยครับคุณสมบัติ พอดีวันนี้ตื่นสายไปนิดหนึ่ง เลยเกรงจะมาขายของไม่ทันครับ” ประโยชน์ พ่อค้าสินค้าจำพวกผ้าตอบ
“นี่ถ้าช้าอีกนาทีสองนาที รถติดยาว กว่าจะจรลีจากบ้านมาถึงที่นี่ไม่สายไปครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงแล้วรึ ใช่มั้ยครับคุณสมบัติ”
ทั้งสองสนทนากันด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดีต่อกันอย่างแตกต่างจากที่พบเห็นทั่วๆไป สำหรับคนค้าขายที่อยู่ติดกันใกล้กัน มักไม่ค่อยจะลงรอยหรือมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างจนต่างเมินไม่สนใจจะพูดคุยกันเลย
“นี่คุณสมบัติ คุณว่ามั้ยคนเราปัจจุบันใช้ชีวิตยากขึ้นทุกทีๆผมสังเกตดูแล้ว ผู้คนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยพูดคุยกันซึ่งหน้า มักจะคุยสื่อสารกันผ่านเครื่องมือสื่อสารอย่างโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีสมัยนี้เปลี่ยนความสามารถในการพูดคุยกันแบบตลกสนุกๆไปเยอะทีเดียวนะครับ
ต่างจากสิบห้าปียี่สิบปีก่อน ก่อนที่เรามีสมาร์ทโฟน เมื่อก่อนมีการติดต่อกันมากมาย มีหนังสือประเภทฮาวทูแนะนำวิธีการพูดสนทนาอย่างไรอะไรทำนองนั้น เดี๋ยวนี้เกือบจะกลายเป็นทักษะหรือศิลปะที่ขาดหายไปนะครับ”
คุณประโยชน์เริ่มยกหัวข้อเรื่องมาคุยกับเพื่อนพ่อค้าอย่างคุณสมบัติ
“ใช่อย่างนั้นเลยครับคุณประโยชน์” คุณสมบัติตอบ
พอเรียกความสนใจเมื่อเริ่มนำเสนอหัวข้อสนทนา คุณประโยชน์ไม่รอช้า พูดต่ออีกว่า
“นี่นะคนสมัยนี้เวลาจะพูดคุยกันระหว่างคนสองคนหรือเป็นกลุ่มแบบซูมอะไรแบบนั้น ก็คุยผ่านทางหน้าจอมือถือของเขากัน บนอินสตาแกรม ไลน์ ทวิตเตอร์ ติ๊กต่อกอะไรอย่างนั้น ทำให้การสื่อสารที่ต่างไปจากสมัยก่อนมากที่สื่อสารพูดคุยกันซึ่งหน้าแบบจับอารมณ์ความรู้สึกของคู่สนทนากันได้ทุกประโยคทุกถ้อยคำที่พูดมีการระมัดระวังการใช้คำพูดแต่ละคำ
แต่สมัยนี้ ไม่รู้ว่าอะไรคือคำที่เหมาะสมจะใช้พูดคุยกัน บางทีก็มีคำสบถงี่เง่าโง่เขลา บ้าง ขยะบ้าง ผมคิดว่าเทคโนโลยีนี่มันเหมือนดาบสองคมจริงๆ นะคุณว่ามั้ย”
“ใช่อย่างที่คุณประโยชน์ว่านั่นแหละ ผมก็คิดๆอยู่เหมือนกัน”
คุณสมบัติยังสงวนท่าทีไม่แสดงความคิดเห็นมากไปกว่านี้
คุณสมบัติเลยรุกไปอย่างว่าวติดลมบนว่า
“แต่มันก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์มากมายนะสำหรับเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนสมัยนี้สื่อสารกันได้รวดเร็วกว้างขวางต่างกับยุคก่อนราวกับคนละโลกเลยทีเดียวนะครับ”
คุณสมบัติไม่ถึงกับมีแนวคิดต่อต้านเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ที่พัฒนาไปทุกวินาทีคุณประโยชน์เห็นคุณสมบัติหยุดชั่วขณะ จึงไม่ปล่อยให้เกิดช่องว่างของการพูดคุย เขาเอ่ยบ้างว่า
“ใช่จริงๆ ครับ ผมเห็นพวกเด็กสมัยนี้เป็นแบบนั้นมากกว่าสมัยผมอีก เทคโนโลยีมันมีอิทธิพลต่อการสื่อสารของมนุษย์เรามากจริง ๆ มันมีทั้งทำลายการเชื่อมต่อของสังคมอย่างรวดเร็วในมุมที่ละเอียดอ่อนมากที่เราได้รับ แต่ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด เพราะว่าเราสามารถสื่อสารกับผู้คนได้มากขึ้นในรูปแบบต่าง ๆมากขึ้นผมว่ามันมีประโยชน์นะ “
คุณประโยชน์ควบคุมการสนทนาบ้าง เริ่มเปลี่ยนประเด็นยกหัวข้อใหม่มาเสนอบ้างๅ
“อย่างเรื่องเลือกตั้งวุฒสมาชิกอะไรนี่ก็เหมือนกันว่ามั้ยครับคุณสมบัติ เขาออกแบบกฎกติกากันละเอียดรัดกุมกันขนาดไหนหนอถึงได้ดูแปลกพิลึกที่มีเลือกส.ว.หรือสมาชิกวุฒิสภาอะไรนี่ ต้องวางกฎกันยุบยั่บไปหมด
มีการให้คนมาสมัครกัน ทุกจังหวัดอำเภอตำบลหมู่บ้าน มีกลุ่มอาชีพต่าง ๆ เลือกกันตั้งแต่ระดับหมู่บ้านตำบลอำเภอไปยันจังหวัด
เท่านั้นยังไม่หนำใจมีการเลือกไขว้ระหว่างกลุ่มอาชีพกันอีกเป็นรอบๆ กว่าจะคัดให้ได้สองร้อยคนไปนั่งในวุฒิสภา สุดท้ายเลยออกมาบางจังหวัดมีจำนวนส.ว.มากกว่าใครทั้งหมดแม้แต่กรุงเทพมหานครที่ประชากรมากสุดยังได้ที่นั่งส.ว.ไม่เท่าเลยนี่ผมล่ะงงไม่หายเลยล่ะครับ”
“ใช่เหมือนกันครับคุณประโยชน์ ผมก็สับสนงงงวยไม่น้อยเหมือนกัน อย่างคนที่ได้รับเลือกก็ไม่รู้ว่ามีวุฒิมีประสบการณ์อะไรมากมาย นี่เขาจะมาทำหน้าที่ที่ว่าเป็นพี่เลี้ยงของส.ส.กันหรือนี่ คุณคิดยังไงบ้างล่ะ ส.ส.ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะทำหน้าที่ของตัวเองเลยหรือ ถึงต้องมีสภาพี่เลี้ยงที่ไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน มีความสามารถเหนือกว่าส.ส.อย่างไร”
คุณสมบัติโยนความคิดเห็นให้คุณประโยชน์ที่อาจจะไขคำตอบได้
“ก้อน่านน่ะสิ ผมก็สงสัยเหมือนกันแล้วเราจะมีส.ส.ไปทำไม ถ้ายังไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาประเทศ ต้องมีพี่เลี้ยงที่เลือกสรรด้วยวิธีพิลึกพิสดารมหัศจรรย์พันลึกแบบนี้ อย่างนี้บ้านเมืองคงไม่พ้นวิกฤติอีกแน่นอน คุณว่ามั้ยล่ะ”
คุณประโยชน์ได้แต่สบถประชดประชันไม่สามารถให้คำตอบที่ตรงใจได้
สักพักหนึ่งเสียงพึ่บพั่บลุกลี้ลุกลนเก็บข้าวของสินค้าจิปาถะของพ่อค้าแม่ค้ากัน ลุกฮือกุลีกุจอรวบข้าวของลงใส่ถุงสัมภาระกันจ้าละหวั่นแตกตื่นกัน ทำให้พ่อค้าสองคนที่กำลังคุยกันออกรสได้ที่อยู่ต้องหันรีหันขวาง
“ช่าย มันถึงสถานการณ์วิกฤติแล้วจริงๆ ครับ เทศกิจมาไล่พวกเราแล้วล่ะ รีบเก็บของไปกันลงจากสะพานลอยกันดีกว่านะคุณประโยชน์ ไว้คุยกันต่อวันหลังนะครับ”
ว่าพลางทั้งสองรีบเก็บข้าวของสินค้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศกิจสองสามคนวิ่งกรูขึ้นบันไดมาจัดการให้ทางเดินเท้าบนสะพานลอยคนข้ามให้ปลอดสิ่งกีดขวางตามภารกิจหน้าที่ของตน
เป็นสภาพการณ์วิถีความเป็นไปของผู้คนอีกมุมหนึ่งของแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล
เดชา ภู่พิชิต
29/6/2567