จู้กหู้กกู้กราบสวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง เพื่อศึกแดงเดือดวันอาทิตย์นี้..
มองยังไงก็น่าจะเดือดอยู่ฝั่งเดียว
แต่ก็น่ะในมุมมองของจู้กหู้กกู้ หลังสามคนของแมนยูเอาอยู่
เพราะอย่างทีเราคิดกันหลังสามคนอาจจะแพ้บอลโยนจากปีก แต่กับลิเวอร์พูล ใช้ปีกเลี้ยงเข้าทำ เรียกว่าน่าจะหืดจับได้เลย
เกิดอะไรขึ้น…
แอนดี้ มิทเท่น เพิ่งเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการที่แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด โห่ใส่ โจชัว เซียร์คเซ
ปกติแฟนผีมักไม่ด่าหรือโห่ใส่นักเตะตัวเองแบบรายบุคคลนัก และแฟนผี ขึ้นชื่อเริ่องการสนับสนุนนักเตะของตัวเองไม่ว่าในสถานการณ์ไหน
มิทเท่น ได้ไปคุยกับอดีตแข้งผี ว่ามองเรื่องนี้อย่างไร คนแรกคือ ไบรอัน แม็คแคลร์
“เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ เซียร์คเซ และมันมีปัจจัยเป็นกระตั๊กในเรื่องนี้ ไม่มีนักเตะคนไหนที่ถูกเซ็นมาโดยโค้ชคนปัจจุบัน ดังนั้นเขากำลังมองหาอยู่ว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง”
“คนมองไปที่เซียร์คเซ และสรุปเอา เพราะด้วยรูปร่างของเขา ว่าเขาเป็นนักเตะประเภทที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ เขาคือเบอร์10 ทักษะดีที่เชื่อมเพลย์ ไม่ใช่กองหน้าตัวกลางแข็งแรงแบบโอลด์ สคูล”
“โค้ชสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพราะเขาขอให้ เซียร์คเซ เล่นในตำแหน่งและระบบที่ต่างออกไป มันอาจมีความผิดบางอย่างจากโค้ช และนั่นก็ปกติ เขาสามารถบอกได้ว่าเขาคิดผิด ผมมองไม่เห็นว่ามันจะต่างอะไรกับการถอดเขาออกตอนพักครึ่ง เขาไม่ใช่คนเดียวที่กระเสือกกระสนในทีมที่ไม่ได้ยิงตรงกรอบเลยสักครั้งในครึ่งแรก”
“ข้อสองก็คือ คุณเจอกับหลายปีแห่งความหงุดหงิดผิดหวังและสัญญาลมปากไปยังแฟนๆ มันนำไปสู่การที่แฟนยูไนเต็ดทำในสิ่งที่ปกติไม่ได้ทำ และตำหนินักเตะสักคน เพราะแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นชื่อเรื่องการสนับสนุนนักเตะของตัวเอง พวกเขาดีมากด้วยซ้ำ”
“การรับมือกับคำตำหนิเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักกีฬาอาชีพ ผมจำไม่ได้ว่าเคยโดนนะ แต่บางครั้งคุณก็สมควรโดน ถ้าคุณเล่นแย่คุณก็อาจโดนด่า”
“บางที ส่วนหนึ่งของความสวยงามของการที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมมาอย่างยาวนานก็คือเขารู้ว่าปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไรหากเขาถอดนักเตะออกในครึ่งแรก เขาจะออกมาประกาศรับคำกล่าวโทษไว้เอง จากนั้นในห้องแต่งตัว เขาอาจบอกนักเตะคนนั้นว่าเมิงเล่นได้สิ้นหวังแค่ไหน”
อีกรายที่เคยผ่านประสบการณ์การโดนแฟนบอลด่ามาแล้วก็คือ ไรอัน กิ๊กส์ แม้แต่ กิ๊กซี่ ยังเคยโดน เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 2002/03 มีช่วงที่เขาฟอร์มตก โดยเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแนวทางการเล่นของตัวเองพอดี และมีเกมเอฟเอ คัพ เจออาร์เซน่อล ที่เล่นแย่เอามากๆ
มิทเท่น ถามว่าตอนโดนแฟนผีตำหนิ เคยคิดอยากย้ายทีมหรือไม่
“ไม่เลย มันเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักฟุตบอล มันเป็นช่วงเวลาที่แย่ละนะ ผมพลาดประตูโล่งๆ ในเกมกับอาร์เซน่อล ผมไม่ได้เล่นดีนัก มันมีหลายเหตุผลสำหรับเรื่องนั้นและหนึ่งในเหตุผลง่ายๆ ก็คือผมเล่นไม่ดีนักตอนนั้น”
“มันเกิดขึ้นได้ อีกเหตุผลคือว่าผมไม่ใช่ปีกจอมกระชากอีกต่อไปแล้ว และผมกำลังพยายามหาเกมที่ผมสามารถมีประสิทธิภาพและมีส่วนสำคัญขณะที่ยังคงได้อยู่ในทีม มันเหมือนนักกอลฺฟพยายามเปลี่ยนวงสวิง ขณะที่ยังออกไปเล่นแล้วยังตีช็อตดีๆ”
“ผมต้องรับความเจ็บปวดขณะที่ผมเปลี่ยนจากปีกจอมกระชากมาเป็นมิดฟิลด์ทางฝั่งซ้ายที่เล่นตามช่อง ผมยังคงไวและยังมีประสิทธิภาพ ผมยังคงวิ่งตัดแนวรับได้ แค่ไม่ใช่อย่างที่ผมเคยทำได้ในยุค 90s ตอนอายุ 18 และ 19 ตอนนั้นผมรู้สึกผมสามารถกระชากผ่านได้ทุกคน ทุกคนเลย แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว”
“โดยรวมแล้ว ความสัมพันธ์ของผมกับแฟนๆ เป็นไปในแง่บวก คุณจะโดนตำหนิเมื่อคุณแพ้ แต่เราไม่ได้แพ้บ่อยนัก แฟนๆ สนับสนุนเต็มที่ตอนผมเป็นเด็กอายุน้อยที่ขึ้นมาสู่ทีมใหม่ๆและทำได้ดี แม้ว่าฟอร์มของผมมีขึ้นๆ ลงๆ
จากนั้นผมก็เซ็ตมาตรฐานไว้สูง แต่ผมก็ยังพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ผมได้พบปะกับแฟนๆ นอกเหนือจากฟุตบอล และมีปฏิสัมพันธ์ ผมออกไปผับท้องถิ่น, ไปเที่ยวในคลับ ฮาเซียนด้า หรือ เดอะ บอร์ดวอล์ค และแฟนๆ จะเข้ามาคุยกับผม ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนี้แล้วสำหรับนักฟุตบอล”
แต่คนที่มีความทรงจำแย่ๆ ก็คือ อลัน บราซิล กองหน้าสก็อตติช ที่ปัจจุบัน หันมาเอาดีด้านสื่อตัวกลมบ๊อกเชียว
บราซิล ย้ายจาก สเปอร์ส มาอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ฟอร์มไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
“ผมออกมาและแฟนบอล 2 คนถ่มน้ำลายใส่ผมตอนที่ผมเดินเข้าอุโมงค์ พวกนั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย แต่พวกเขาก็ยังถือว่าทำเกินไปมาก
มันมาถึงจุดที่ผมเคยมองไปที่การเล่นเกมเยือนมากกว่าเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งมันบ้ามากๆ เกมเหย้า ผมเคยโดนคำด่าแรงๆ และผมไม่ชอบมันเลย“
ท้ายนี้จู้กหู้กกู้ฟันธง ลิเวอร์พูลแก้เกมครึ่งหลังเก็บชัยชนะได้..จบ.
