Tuesday, July 2, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันเส้นทางสีกากี“ผู้กองเจี๊ยบ”จากพลร่มนเรศวรสู่นักสืบสาวชายแดนบ้านกรวด

    เส้นทางสีกากี“ผู้กองเจี๊ยบ”จากพลร่มนเรศวรสู่นักสืบสาวชายแดนบ้านกรวด

    ผู้กองเจี๊ยบ-ร.ต.อ.หญิง นุชนารถ ศรีสิลา รอง สว.สส.สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

    สายสืบสาวชายแดนคนนี้ เป็นลูกสาวคนกลางจาก3 คนของครอบครัวเกษตรกรชายแดนไทยกัมพูชา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

    เธอเกิดมาจำความได้พร้อมกับเสียงคำรามของปืนใหญ่เสียงระเบิด เมื่อปี2528 จากสถานการณ์สู้รบกับประเทศเพื่อนบ้าน

    วัยประถมชีวิตต้องเรียนหนังสือในบังเกอร์โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 2 อ.บ้านกรวด ไม่ใช่แค่เรียน รวมไปทั้งจะกินข้าวหรือจะนอนโดยเฉพาะช่วงเย็นของทุกวัน ต้องไปหลบอยู่ในบังเกอร์ เพราะวิถีกระสุนปืนใหญ่ฝั่งตรงข้ามยิงเข้ามาฝั่งไทยตกแถวนี้พอดี

    จบประถมแล้วต่อ ม.1-6 ที่โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร โรงเรียนในอำเภอ ก่อนไปเรียนต่อจนจบปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

    นั่นคือประวัติคร่าวๆสาวบ้านกรวดก่อนสวมเครื่องแบบตำรวจ ก่อนที่ผู้กองเจี๊ยบจะเล่าต่อถึงจุดเริ่มต้นบนถนนเส้นทางสีกากีเส้นนี้

    จังหวะใกล้จะจบปี 4 มีเปิดรับสมัครสอบตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร เลยใช้วุฒิ ม.6 ไปสอบตอนนั้นปี50 อายุ21-22 สอบได้เลยเอาไว้ก่อน เพราะเป็นความฝันตั้งแต่เด็กอยากเป็นตำรวจ จริงๆแล้วครอบครัวไม่มีใครเป็นตำรวจ แต่ญาติพี่น้องส่วนมากเป็นทหารตำรวจกัน

    ผู้การพลร่มสมัยนั้นคือพ.ต.อ.โกสินทร์ บุญสร้าง เขาจะเรียกท่านโกสินทร์ กินสว่าง น่ารักนะ รักลูกน้อง เจี๊ยบเป็นพลร่มอยู่ 5 ปี โดดร่มกลม โดดร่มสกายได้ดาวดำคู่

    ชีวิตลิขิตให้เป็นตำรวจ

    เจี๊ยบ เรียนไม่เก่ง แต่ชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กตั้งแต่เรียนที่บ้านกรวด เล่นบาส จะถนัดทางกีฬา การเรียนไม่ค่อยเท่าไหร่ แค่พอไปได้ไม่ถึงขั้นเก่ง คนอื่นเขาเก่งกว่าเราเยอะ แต่สอบเข้านายร้อยได้ คงเป็นเพราะเหมือนเขาขีดเส้นมาให้เดิน

    หนังสือที่อ่าน-ข้อสอบออกเป๊ะ

    ตอนไปสอบนักเรียนนายสิบ หนังสือ ก็ไม่ได้อ่านตอนนั้นกำลังจะจบปริญญาตรี  เขาเปิดสอบปุ๊บยังไม่รู้เลย ไอ้ที่ไปสมัครสอบคือต้องสอบอะไร  แล้วไม่ใช่แบบว่าประกาศในอินเตอร์เน็ตตอนนั้นยังไม่มี มันประกาศทาง น.ส.พ.  แล้วเราเด็กบ้านนอก เจี๊ยบมารู้จากที่โรงเรียนตำรวจ 3 เขาให้หนังสือมาเล่มหนึ่งก็อ่านนะ แล้วมันออกทุกข้อเลย รู้สึกอะเมซซิ่งตัวเองมาก มันโป๊ะเชะมาก

    ได้ที่35จาก 76 คน

    คนอื่นเขาไปติวกันไปเรียนกันแต่เรานี่ได้คู่มือมาแค่เล่มเดียวอ่านไปแล้วก็ออก รับ 76 คน ได้ที่ 35 เหมือนเขาขีดเส้นทางชี้ชะตามาให้เรา พอสอบได้ก็มีคนมาถามว่า ไปติวไหม ก็บอกว่าไม่ได้ไปติว ก็ไม่มีคนเชื่อ บอกว่าลูกตาสีตาสาเลย ตอนนั้นไปสมัครสอบที่นครปฐม ยังจำได้เลย ก็เป็นโรงเรียน 7

     

    วิถีตชด.ฝึกแล้วก็ฝึก

    แล้วพลร่มก็มารับตัวไป ตอนนั้นก็ไปพร้อมกับม็อบเสื้อเหลือง เสื้อแดง มาอยู่แต่ใน กทม.ช่วงปีนั้นยุคม็อบเลย แล้วจากนั้นเขาเลยจะรับไปกองร้อยน้ำหวาน กองร้อยผู้หญิง แต่ไม่ได้อยู่ต้องมาฝึกด้วย คฝ.คุมทำเนียบ คุมสภา คุมที่ไหนต่อไหนอยู่เกือบ 3 เดือนเลย ตอนนั้นไม่มีกำลังมาเปลี่ยน เลยอยากกลับบ้าน มีแต่ฝึกแล้วก็ฝึก ตอนอยู่ในค่ายที่ ตชด.ฝึกอย่างเดียว

     “ 2 โมงเช้านี่ต้องขัดรองเท้าให้มัน เสื้อผ้านี่ต้องเนี๊ยบมาเข้าแถว ตอนเย็นก็ทบทวน ฝึกอยู่นั่นแหละ วิถี ตชด.แล้วพลร่มด้วย เป็นหน่วยที่นายเขาจะใช้งาน มันเป็นหน่วยหลัก เป็นหน่วยกำลังที่ต้องเตรียมพร้อมตลอด”

     ผู้กองเจี๊ยบเล่าพลางหัวเราะพลางเมื่อย้อนถึงชีวิตแต่หนหลัง

    สอบได้นายร้อยภาค3ขยับกลับบ้าน

    จนปี 2555กำลังจะขึ้น ส.ต.ท. สอบได้นายตำรวจ เป็นการสอบบุคคลภายในของตำรวจภูธรภาค 3 อยากกลับบ้านพอดี เลยได้กลับมาปี 2555 บรรจุครั้งแรกเป็น รอง สว.ป.สภ. ชุมพวง จ.นครราชสีมา

    แล้วขอนายอยู่งานสืบสวนมาตลอด นายเขาเห็นก็ให้ทำเพราะเป็นคนชอบโลดโผน ไม่ชอบอยู่นิ่งชอบความท้าทาย อีกอย่างไม่ชอบทำงานเอกสาร ไม่ชอบใส่เครื่องแบบ คือเหตุผลง่ายๆก็เลยอยู่แต่งานสืบ

    ก่อนนี่กลางค่ำกลางคืนต้องไปทำก็เต็มที่กับงาน แรกๆนี่เหมือนรุ่นใหม่ไฟแรงไง พร้อมจะไปจับ ตอนอยู่ชุมพวงนี่ผาดโผนมาก อยู่ตัวคนเดียวแล้วมาจาก ตชด. เพิ่งจบใหม่ ไฟแรง บู๊เต็มที่ ดึกดื่นเที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 ยังทำงานอยู่เลย ชอบลุย

    อยู่ชุมพวงปีเดียวขยับกลับบ้านกรวด ทีนี้อยู่ยาวเลย มาลงที่ สภ.โคกกระชาย บุรีรัมย์ 1ปีก่อน แล้วมาช่วยราชการที่ สภ.บ้านกรวด  2 ปี ถึงได้มาเป็น รอง สว.สืบ ที่บ้านกรวด ก็อยู่งานสืบสวนมาตั้งแต่ ร.ต.ต.ตั้งแต่ปี 2555 มาเลย 12 ปี

    ผู้กองเจี๊ยบเล่าเส้นทางบนถนนสีกากีให้ฟังด้วยน้ำเสียงสนุกสดใส

    ประวัติการอบรม มีหลักสูตร กอน. 7000/1 ปี พ.ศ.2555 หลักสูตร ครูตำรวจ D.A.R.E. รุ่นที่ 78/2555  

    หลักสูตร สารวัตร รุ่นที่ 180 (อบรมเมื่อ 25 มิ.ย.61 – 3ส.ค.61 หลักสูตร เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หลักสูตร จิตอาสา 904 หลักสูตพื้นฐาน (ภาค2) รุ่นที่ 2 /65

    ผลการปฏิบัติงานดีเด่น ครูตำรวจ DARE ดีเด่น ตำรวจภูธรภาค 3 ประจำปี 2558 สอนเด็กนักเรียนตามโครงการ การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียนในพื้นที่รับผิดชอบ ตั้งแต่ปี 2555-ปัจจุบัน และทำหน้าที่วิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

    ชุดปฏิบัติการ จิตอาสาชุมชนสัมพันธ์ สภ.บ้านกรวด ได้รับรางวัลชนะเลิศ ชุดปฏิบัติการจิตอาสาชุมชนสัมพันธ์  ระ ดับผู้กำกับการเป็นหัวหน้าสถานี กลุ่มที่ 1 ประจำปีงบประมาณ2563

    จิตอาสา 904 หลักสูตรพื้นฐาน(ภาค 2)รุ่นที่ 2 /65ทำหน้าที่บรรยายให้ความรู้ ในหัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย และอุดมการณ์ความรักชาติ” ให้กับประชาชนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาในจ.บุรีรัมย์ ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยในพื้นที่ (Local CAT) ตำรวจภูธรภาค3 ตั้งแต่ 1ต.ค.62 -ปัจจุบัน

    งานสืบสวนในเขตพื้นที่บ้านกรวด อาชญากรรมส่วนมากจะเกี่ยวกับพวกยาเสพติด เหตุลักวิ่งชิงปล้น แต่เหตุก็ไม่ค่อยมี จะมีพวกลักทรัพย์ธรรมดา คดีใหญ่ประเภทฆ่า ไม่ค่อยมีในพื้นที่ ส่วนมากเป็นคดีกลุ่ม 4 หลัก หน้างานตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง ก็มีผู้บังคับบัญชา ดึงให้ไปช่วยงานยา ที่ ภ.จว. จะดึงให้ไปช่วยอยู่หน้าห้อง แต่ไม่ค่อยชอบ

    ผู้กองเจี๊ยบเล่าถึงหน้างานในพื้นที่

    ทำงานสืบสวนในถิ่นเกิด

    ถามว่าลำบากไหมทำงานในพื้นที่บ้านเกิดตัวเอง เพราะใครเขารู้เราเป็นตำรวจสายสืบ  หลายคนอาจจะบอกว่าทำงานลำบาก แต่สำหรับเจี๊ยบๆว่าไม่ลำบาก 1.เรารู้คน 2.เรารู้พื้นที่ การเสาะแสวงหาข้อมูลอะไร เขาจะไว้ใจคนในพื้นที่ คนที่รู้จักพื้นที่มากกว่า ถ้าคนอื่นมาทำงานไปถามข้อมูลเขาเขาก็ไม่อยากบอก อันนี้เราไปในฐานะเป็นลูกเป็นหลาน เขาจะให้ข้อมูลมากกว่า

    แรกๆตอนเจี๊ยบสอบติด จะบอกชาวบ้านว่าเจี๊ยบเป็นตำรวจหญิงลูกหลานบ้านกรวดคนแรกในอำเภอเลย ฮือฮามาก 

    ส่วนการจับแน่นอน ต้องไปปะทะกับชาวบ้านอยู่แล้ว เวลาจับก็ต้องอธิบายเหตุผล อันนี้จับเพราะต้องทำตามหน้าที่นะเขาไปทำผิดอะไรมา เขาจะเชื่อมากกว่า ส่วนมากก็ไม่ค่อยมีปัญหา

    ยาเสพติดในพื้นที่ไม่หนัก

    ส่วนเรื่องยาเสพติดแถวนี้  เป็นแค่ผู้ค้ารายย่อยไม่ค่อยมีผู้ค้ารายใหญ่ ส่วนใหญ่ที่นี่จะมีครอบครองเฉยๆเป็นยาบ้าแต่ไม่เยอะ  วัยรุ่นแถวนี้ไปเอาจากที่อื่นมาแล้วกระจายไปเล็กๆน้อยๆทีละ 5-10 เม็ด ไม่ค่อยมีรายใหญ่

    ช่องตะกูฝั่งเขมรมีกาสิโน

    ด้านงานชายแดน  บ้านกรวดก็ติดเขมร ทุกวันนี้ก็มีที่เขากระทำผิดฝั่งเขาพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เปิดอยู่ แต่เป็นฝั่งเขา ส่วนที่เข้ามาในพื้นที่ส่วนมากเป็นพวกหลบหนีเข้าเมือง ไม่มีใบผ่านแดนไม่มีพาสปอร์ต แต่ถ้าจะมาเป็นขบวนการมาทำอะไรมิดีมิร้ายก็ยังไม่มี เพราะแนวชายแดนมี ตชด.มีทหาร มีหน่วยงานอะไรอยู่

    ตรงช่องสายตะกูมันมีกาสิโนใหญ่ฝั่งนั้น คนไทยเราเข้าไปเล่นกันเยอะ แต่ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่

    แรกๆคนบ้านเราไปเยอะ ช่วงหลังเหมือนค่อยๆหมด เขาจะบอกว่าสู้เล่นฝั่งเราดีกว่า เล็กๆน้อยๆยังได้วิ่งหนีตำรวจ ไปอยู่ทางโน้นเสียเยอะ ไปแล้วมันถลุงหมดชาวบ้านชาวช่องก็ขายที่ขายทางกันเยอะหมดกันเยอะ แรกๆก็เป็นคนในพื้นที่บ้านกรวดที่เข้าไปเล่นได้

    ประทับใจจับโจรสาวลักทรัพย์

    งานสืบที่ประทับใจ คือจับกุมคดีลักทรัพย์เป็นผู้หญิงคนประโคนชัยตระเวนลักทรัพย์ตามร้านขายของชำร่วย ร้านของ ชำในพื้นที่ เคสนี้ตามกับทีมงานน้องๆชุดสืบ หลังเกิดเหตุในพื้นที่ 3-4 ร้านติดต่อกัน ก็ไล่กล้องวงจรปิดไล่หลายที่จนมันจนมุม เช็คหลายอย่างตามการทำงานของตำรวจ อีกทีมก็ดูกล้องไล่กล้องจากบ้านกรวด เพราะดูจากรูปลักษณ์ตามวงจรปิดไม่ใช่คนในพื้นที่ น่าจะเป็นคนที่อื่น ก็ไล่จนรู้

    เช็คในประวัติบุคคลพ้นโทษ หน้าตาคล้ายๆกับในกล้องวงจรปิด ก็ไล่ไปจนรู้เป็นคนประโคนชัยตามอยู่เกือบ 2 อาทิตย์ ทำกับลูกน้องช่วยกันกับทีมงานมีกัน 7 คน ลักเงินสดในบ้านกรวด พฤติการณ์จะซื้อของหลายอย่างซื้อแล้วมารวมๆกัน เวลาเผลอก็ฉกเงินเจ้าของร้านทำร้านนี้เสร็จก็ไปทำร้านอื่น

    รู้เส้นทางหลบวงจรปิด

    มาก่อเหตุในพื้นที่ตลาดนิคมบ้านกรวด พฤติการณ์ คือจะซื้อของเยอะๆเอากองไว้ๆ เอาอันนั้นอันนี้จ่าย แต่ขโมยเงินเขา คือให้เจ้าของร้านคอยหยิบโน่นหยิบนี่ แล้วพอเผลอก็ฉกเอาตังค์ไป แล้วใช้มอเตอร์ไซคหลบหนี แต่ เขาจะรู้เส้นทางกล้องวงจรปิด มาถึงสี่แยกไฟแดงนี่ไม่ผ่านเลยนะ ตอนแรกออกจากที่เกิดเหตุใส่หมวกกันน็อก พอถึงสี่แยกไฟแดงถอดหมวกกันน็อกเลี้ยวซ้ายหลบวิถีกล้อง แล้วพอถึงแยกเขาก็เลี้ยว ไม่ไปทางตรง

    เป็นเคสเดียวกันกับที่สืบจังหวัดเขาจับ หมายถึงว่าเราเปิดแล้วเขาขยายผลจนไปเจอ แล้วก่อนจะมาขโมยที่บ้านกรวดก็ไปขโมยที่อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ตระเวนขโมยเยอะ คือไม่ทำอะไร ขโมยอย่างเดียว ชื่อสุวรรณ คือหมู่บ้านนั้น ขโมยทั้งหมดเลย พี่น้องเขาทั้งหมดเลย

    แต่คือคนเดียวมันทำไม่ได้ ต้องมีทีมงานดีที่อยู่ด้วยกัน ก็เป็นแนวทางเดียวกัน อายุก็ใกล้เคียงกัน เวลาทำงานก็ทำงานสบาย คุยกันรู้เรื่อง มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วส่วนมากสืบบ้านกรวดจะเป็นคนในพื้นที่

    ทีมงานมันต้องเข้มแข็งกันจริงๆ มันไม่ใช่เกิดปุ๊บ เราจับได้ปั๊บ ต้องใช้หลายอย่าง ความอดทนนี่แหละ สำคัญ ใจไม่รักไปไม่ได้หรอก เพราะไม่ใช่เราไปปุ๊บแล้วได้ข้อมูลไง เราต้องกระจายคนให้กลุ่มหนึ่งไปดูกล้องนะ กลุ่มหนึ่งไปลงพื้นที่ถามชาวบ้านนะ ต้องช่วยกัน กลุ่มหนึ่งต้องขับรถเซอร์เวย์ดู ไปเรื่อย เลยคิดว่ามันท้าทายดีได้ใช้ความคิดดี ถ้าเป็นงานอื่น ก็ทำแค่หน้างานแล้วมันก็จบไป แต่อันนี้มันเหมือนท้าทายเราตลอด

    คนเก่งกว่าเราก็ยังมีอีกเยอะ แต่ถ้าทีมงานดี ก็ไปได้ การทำงานมันก็โอเค.ถ้าทีมงานเข้มแข็งก็โอเค.เพราะว่าทำงานคนเดียวทำไม่ไหวหรอก งานสืบต้องแบ่งงานกันทำ ทีมงานต้องดี คนนี้เก่งด้านนี้ ก็ให้เขาไป คนไหนเก่งด้านไหนก็ให้ไปทำ

    ส่วนเรื่องความเป็นตำรวจหญิงต้องทำงานกับตำรวจผู้ชายจะลำบากมั้ย ผู้กองเจี๊ยบเล่าว่า

    แรกๆคนก็กังขา อาจจะมองเรื่องวุฒิภาวะการเป็นผู้นำอาจจะไม่เท่าผู้ชาย แต่วันหนึ่งถ้าเราทำได้นำทีมได้งานแรกเราผ่าน งาน 2 เราผ่าน ต่อไปผู้บังคับบัญชาหรือน้องๆ เขาก็จะเชื่อใจ เชื่อฟังเรา หลายเคสเราทำได้ตัดสินใจ ไปเฝ้าจุดไปอะไร

    คือเขาทำเราก็ทำ เราเป็นผู้หญิง แต่ไม่เคยพูดว่าเราเป็นผู้หญิง เขาทำเราก็ทำเขาไปเราก็ไป ออกไปก็ไปด้วยกัน ตี 1  ตี 2 เวลาเข้าชาร์จจับ ส่วนมากน้องเขาจะเข้าก่อนอยู่แล้ว เวลาวิ่ง เวลาไล่ ก็ไล่ด้วยกันนี่แหละ

    ข้อดีเวลาจับผู้ต้องหาเป็นหญิง

    แต่จะดีด้วยซ้ำ เวลาที่ไปแล้วมีผู้ต้องหาเป็นผู้หญิง เราค้นจะได้ผลงานดีกว่าเพราะผู้หญิงความละเอียดอ่อนเยอะ แล้วผู้ชายมาจับผู้หญิงมันลำบาก เจี๊ยบเคยจับยาได้ในตัวผู้หญิงได้หลายเคสที่เขาซุกซ่อนไว้ในอวัยวะของเขา อย่างนี้ผู้ชายก็ไม่มีสิทธิ์ทำอยู่แล้ว ที่จับได้ก็ในพื้นที่บ้านกรวด ตามผับตามร้านเหล้าก็เกมเยอะที่จับผู้หญิง

    ตอนอยู่ชุมพวงใหม่ๆตำรวจหญิงไม่ค่อยทำงานสืบ เวลาจับผู้ต้องหาผู้หญิงเลยพลาด คือบางทีของกลางผู้หญิงเขาจะซุกซ่อนไว้ เราจะมารอคนอื่นที่ไม่ใช่ตำรวจมาค้นตัวให้ บางทีเขาไม่รู้วิธีหรือยุทธวิธี ไม่รู้หรอกว่าจะซ่อนไว้ที่ไหนในตัวมีที่ซุกซ่อนเยอะใช่ไหมผู้หญิงแต่อย่างเรามีประสบการณ์ไง

    พูดง่ายๆมันจะซ่อนในที่ลับในจุดที่ผู้ชายไม่สามารถที่จะไปล้วงได้ ถึงขั้นเอาไว้ในผ้าอนามัยซุกซ่อนไว้อย่างนี้ก็มี แล้วทำแบบเนียนมาก เอายาบ้าซุกซ่อนไว้เราต้องฉีกดู 

    ส่วนเรื่องจับการพนันนี่เป็นเรื่องเล่าเลยนะ การพนันนี่ จับสนุกมาก มีหลายเคส ชาวบ้านที่เล่นกันก็มีคนแก่ นี่ ถลกผ้าถุงเลย บางคนเข้าไปเห็นตำรวจนี่ ถอดเสื้อผ้าเลยนะ มีทุกประเภท บอกว่าไม่ได้เล่นนะอาบน้ำอยู่ บางทีเข้าห้องนอนก็ห่มผ้าซ้ำ 4 คน เตียงเดียวกัน เต็มเลย แกล้งนอนหลับกันมีอะไรตลกๆ เยอะมาก

    เขาจะแอบเล่นกันในบ้าน เจี๊ยบ ก็กระโดดเข้าทางหน้าต่าง ในนั้นก็จะมีห้องน้ำ แล้วคนเล่นก็ไม่คิดว่าเราเป็นตำรวจ เราเป็นเด็กไงเข้ามาใหม่ๆ หน้าตาเหมือนเด็กน้อย เจี๊ยบ เลยเปิดประตูเข้าห้องน้ำ บอกว่า ตำรวจมาก็เข้าไปอัดกันอยู่ 10-20 กว่าคน แล้วเราก็รอกำลังเสริม  ก็จับได้โดยละม่อมมากเลย

     

    แต่พอเขารู้ เขาก็ดันกัน แต่เอากำลังมาแล้ว เราก็เข้าไปแล้วก็บอกว่าอยู่นั่น พอรู้ว่าเราเป็นตำรวจก็แตกตื่นเลย เราต้องเปิดประตูห้องน้ำ เขาบอกว่าเดี๋ยวตำรวจมาเห็น เราก็หลอกเขา แล้วคนกลัวตำรวจนี่ สมัยก่อนเขากลัวตำรวจนะพอหลบได้ตรงไหนเขาก็หลบเลย เอาแต่หัวเข้าไปตูดโผล่ออกมาเลย มันจะหลบพ้นได้ยังไง มันตลกมากเลย

    ผู้กองเจี๊ยบเล่าพลางหัวเราะพลาง

    คำสั่งนายคำสั่งสวรรค์

    คติการทำงานคือ ได้รับคำสั่งก็ต้องให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุดผลจะเป็นยังไงผู้บังคับบัญชาจะมองเห็นเอง ส่วนไอดอลในการทำงาน เจี๊ยบดูจากผู้บังคับบัญชาที่เราชอบเลือกดูอะไรที่นายเขาโอเค.เราก็เลือกมาเป็นแบบอย่าง เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน สไตล์การทำงานคนละแบบ จะเลือกสิ่งที่เราชอบแบบนี้นะๆก็เอามาปรับใช้ จะชอบนายที่ลุยๆใจนักเลงๆชอบนายแบบนี้

    เป็น รอง สว.มา 12 ปี เข้าโรงเรียนแล้ว อบรมแล้ว คิดถึงเรื่องจะได้ขึ้นสารวัตรไหม ผู้กองเจี๊ยบเล่าว่า

    คิดว่ายังโอเค.แล้ว มาไกลเกินแล้ว เจี๊ยบก็ชอบอยู่บ้านตัวเอง ไม่ได้สนใจตำแหน่งเพราะอยากอยู่บ้าน มาถึงตรงนี้อยู่ตรงนี้โอเค.แล้ว มีลูกชาย 2 คน สามีก็เป็นตำรวจด้วยกันอยู่โคกกระชาย เพิ่งย้ายมาจากวังน้ำเขียว ร.ต.อ.เหมือนกันอยู่นี่อยู่บ้านตัวเองมันโอเค.แล้วงานก็ลงตัว

    ส่วนเรื่องอนาคตถ้าอายุมาก ถ้าไปไม่ไหวคงจะกลับไปอยู่งานธุรการ หรือฝ่ายอำนวยการ ผู้หญิงเราน่าจะไปได้ประมาณนี้เท่านั้นแหละ อย่างสารวัตรสืบ คงสู้เขาไม่ได้คงมีตำแหน่งผู้หญิงน้อยด้วย เราสู้ผู้ชายไม่ได้

    ส่วนภาพรวมเรื่องการดูแลและอื่นๆ ถือว่า ตร.ดูแลดีนะ โดยเฉพาะตำรวจหญิงที่อยู่บ้านนอก ถ้าถามเรื่องขั้น เรื่องสวัสดิการอะไรต่างๆก็ตามสภาพตำรวจเรา  ไม่มากแต่ก็ไม่เดือดร้อนเราอยู่บ้านที่นี่ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม ไม่ต้องเดินทางไกลเลยไม่ค่อยกระทบก็พอใช้

    แล้วเจี๊ยบ มีอาชีพเสริม มีสวนยางพาราเป็นของตัวเอง 10 ไร่ ก็พอจุนเจือครอบครัวได้ แต่ก่อนทำรถบรรทุกหกล้อเลยขายออก มาซื้อที่ ก็ขุดสระทำไร่นาสวนผสม เราก็อยู่ได้

    “เราผ่านมาหมดแล้ว คืออยู่พลร่มเราก็เที่ยวมาหมดแล้ว กลับมาทำตรงนี้ที่บ้าน อยู่กับธรรมชาติ เลยไม่ต้องดิ้นรนอะไรเท่าไหร่…”

    ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่าแค่เสี้ยวหนึ่งบนถนนสีกากีของผู้กองเจี๊ยบครับ

    เฮียเก๋30/6/67

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments