ผลงานผีแดง 6 นัดหลังสุด ชนะ 5 แพ้ 1
สถิติที่น่าสนใจก็คือชัยชนะทั้ง 5 มาจากการจัดชุดหลักตัวจริงลงเล่นแล้วก็คว้าชัยได้เรียบ
ส่วนเกมที่แพ้คือการโรเตชั่นทีมที่เปลี่ยนไปกว่าครึ่งจากชุดหลัก ทำให้แอบคิดว่าหากวันที่แพ้โซเซียดัดแล้วจัดเต็มชุดใหญ่เหมือนเดิมทีมจะแพ้หรือเปล่า?
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เอริก เทน ฮาก ได้ขุมกำลังตัวจริงที่ลงตัวไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว ทั้งประตู หลัง กลาง ปีก เหลือเพียงตำแหน่งหน้าเป้าเท่านั้น ที่ต้องรอดูกันว่าหากหมากกลับมา ใครจะกลายเป็นเบอร์ 1 ตัวจริงของทีมกันแน่
“ผมต้องการชนะแบบมีสไตล์ และทำทีมฟุตบอลที่จะถูกพูดถึงไปอีก 20-30 ปี”
ก่อนหน้าจะเข้าปี 2018 ประมาณ 3 วัน อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม แต่งตั้ง เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ เข้ามานั่งเป็นกุนซือ มีผลงานยอดเยี่ยมคือการพา เอฟซี อูเทร็คท์ ได้ตั๋วไปเล่นยูโรป้า ลีก จากการจบอันดับ 4
แต่ที่เหนือไปกว่านั้น คือการที่ เอริก เทน ฮาก เปลี่ยน เอฟซี อูเทร็คท์ ให้กลายเป็นทีมที่ขับเคลื่อนด้วยเกมรุกสุดมันส์ โดยระยะเวลาประมาณ 2 ปีกว่าๆ ที่คุมทีม เขาพาทีมมียอดการยิงประตูสูงถึง 192 ประตู จากเกมแข่ง 111 เกม
แรกเริ่มเดิมที เอริก เทน ฮาก ไม่ใช่อดีตนักฟุตบอลที่ชื่อเสียงโด่งดัง เขาไม่เคยค้าแข้งให้ทีมระดับแถวหน้าของประเทศอย่าง พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น , เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม หรือ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม เลยด้วยซ้ำ
แต่หลังแขวนสตั๊ดในปี 2002 เขาก้าวเข้าเส้นทางงานโค้ชทันที พร้อมทั้งใช้เวลาราว 8 ปี ในการสั่งสม เรียนรู้ประสบการณ์การทำงาน แล้วจึงได้ขยับขึ้นไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม ของ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ในปี 2009
ทำงานในบทบาทผู้ช่วยราว 3 ปี พอถึงปี 2012 เลยมีโอกาสได้บินเดี่ยว ด้วยการรับงานคุมทีม โก อเฮด อีเกิ้ลส์ และทำผลงานได้น่าพอใจ จนคุมทีมแค่ซีซั่นเดียว ก็ถูก บาเยิร์น มิวนิค ดึงตัวไปทำทีมชุดสำรอง ในปี 2013
นั่นคือวันสำคัญในชีวิต เพราะเขาได้ร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือรุ่นพี่ ที่บูชาคัมภีร์ลูกหนังเล่มเดียวกัน นั่นคือ ‘Total Football’
‘โททั่ล ฟุตบอล’ มีต้นกำเนิดจาก ไรนุส มิเชลส์ ที่นำมาใช้ทำทีมชาติฮอลแลนด์ จนยิ่งใหญ่ในช่วงยุค 70s โดยมี โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นขุนพลเอกของรุ่น
จากนั้นพอ โยฮัน ครัฟฟ์ หันเหเส้นทางมาสู่งานโค้ช เขาก็นำ ‘โททั่ล ฟุตบอล‘ มาประยุกต์ใช้ในแนวทางที่ทันสมัยมากขึ้น จนกลายเป็น ‘รากฐานฟุตบอล’ ของทั้ง อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลน่า (และกลายเป็นแนวทางฟุตบอลหลักที่สอนกันมารุ่นสู่รุ่น ของวงการฟุตบอลดัตช์ด้วย)
โดยเฉพาะในตอนที่ โยฮัน ครัฟฟ์ มาทำทีม บาร์ซ่า ในช่วงยุค 90s จนถูกเรียกขานว่าเป็น ‘Dream Team’ ด้วยการนำเอาศาสตร์ฟุตบอลเกมรุก แบบ โททั่ล ฟุตบอล มาใช้
หนึ่งในขุนพลคนสำคัญของ โยฮัน ครัฟฟ์ ก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
จากนั้น พอ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้รับการโปรโมตให้ขึ้นมาคุมทีม บาร์เซโลน่า เต็มตัว ช่วงกลางทศวรรษ 2000s และทำทีม บาร์ซ่า จนยิ่งใหญ่อลังการ
มันก็เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันกับที่ เอริก เทน ฮาก กำลังเริ่มต้นศึกษางานโค้ช หลังแขวนสตั๊ดในปี 2002 นั่นเอง
พื้นฐานทำทีมของ เอริก เทน ฮาก ได้รับอิทธิพลมาจากคัมภีร์ฟุตบอลเล่มเดียวกันกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ตอนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แตกแขนงแนวทาง ‘โททั่ล ฟุตบอล’ ให้กลายมาเป็น ‘ติกี้-ตาก้า’ ก็เลยทำให้ เอริก เทน ฮาก ซึมซับเรียนรู้จาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปด้วย
ทีนี้พอได้มาร่วมงานกันที่ บาเยิร์น มิวนิค ทั้งสองคนก็มีโอกาสได้พูดคุยเรื่องรายละเอียดการทำทีมฟุตบอลกันมากขึ้น อารมณ์เหมือน ‘นักปราชญ์’ ผู้ช่ำชองการสร้างแนวทางฟุตบอล 2 คน ได้มาเจอกัน ความรู้ด้านลูกหนังจึงพรั่งพรู และถูกนำมาถกกันเพื่อให้แตกเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ
เอริก เทน ฮาก เล่าว่า …
“ฟุตบอลเกมรุกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำออกมา ทั้งตอนอยู่ บาร์ซ่า , บาเยิร์น มิวนิค และกับ แมนฯซิตี้ ในปัจจุบัน มันคือแนวทางฟุตบอลระดับออสก้าร์ ที่ทำให้ชัยชนะใหลมาเทมา และนั่นแหละ โครงสร้างหลักที่ผมนำมาสร้างทีมที่ผมคุม”
หลังออกจาก บาเยิร์น มิวนิค พร้อมขุมทรัพย์ความรู้ เขาก็มาพา เอฟซี อูเทร็คท์ ทำผลงานชิ้นเอก อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น และเป็นบันไดนำเขากลับมาสู่ต้นกำเนิดของ ‘คัมภีร์ โททั่ล ฟุตบอล’ ที่ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม
ฟุตบอลของ เทน ฮาก ถูกระบุว่าเป็น ‘ Attacking Football‘ แบบเดียวกับ เป๊ป ที่มีไลน์แนวรับดันสูงขึ้นไปกดดันในแดนคู่ต่อสู้ พร้อมๆกับนำปรัชญาฟุตบอล ที่ โยฮัน ครัฟฟ์ เคยสอนเอาไว้นั่นคือการเล่นบอลแบบ ‘Give and Go’ หรือก็คือ ‘การให้บอล และ เคลื่อนที่'(สังเกตุว่า ‘Give and Go’ เป็นแนวทางที่ เทน ฮาก กำลังปูพื้นฐานให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้)
เป็นหลักการฟุตบอลพื้นฐานที่ โยฮัน ครัฟฟ์ เคยบอกว่า ‘ฟุตบอลคือเรื่องง่าย แต่การเล่นง่ายๆนั่นแหละที่ยากที่สุด’
สิ่งเดียวที่ เอริก เทน ฮาก พูดย้ำเอาไว้เสมอ ถึงเป้าหมายสูงสุดในการทำงานของเขาเอง นั่นคือ …
“ผมเชื่อว่าคนทำทีมฟุตบอล ล้วนมีเป้าหมายอย่างเดียวกัน คือการสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมา แล้วมันสามารถถูกจดจำไปอีกยาวนานร่วม 20-30 ปีเหมือนเช่นที่ โยฮัน ครัฟฟ์ , ไรนุส มิเชลส์ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำไว้”
ถือเป็น ‘รสนิยมลูกหนัง’ ที่โคตรมีเสน่ห์เลย และกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลานี้ หลายสิ่งอาจยังไม่เข้าที่เข้าทาง
เพราะ เทน ฮาก ต้องจัดการทุกอย่างใหม่จากฐานราก แต่เชื่อว่าถ้าเขาได้เวลาทำงานมากพอ เขาจะสามารถทำให้ ปีศาจแดง กลายเป็น ปีศาจที่เล่นฟุตบอลได้เซ็กซี่ขึ้นได้อีกมากแน่นอน
อึ้ง ทึ่ง ชาบู
จู้กหู้กกู้ กราบ
