ผมโชคดีที่ผู้ใหญ่สนับสนุนส่งเสริมผมไปเป็นนักข่าวประจำกองปราบฯต้ังแต่ปี 34-ปลายปี48 อยู่มา 10 ผู้การ ตั้งแต่กองปราบฯตั้งอยู่ที่สามยอด มาจนถึงพหลโยธิน เลยได้รู้จักนายตำรวจมีชื่อมากมาย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็เป็นอีกหนึ่งคนเก่งที่ผมได้สัมผัส ได้เห็นถึงการทำงานตั้งแต่สมัยยังเป็น พ.ต.ต. ตำแหน่ง สว.ผ.4 กก.2 ป. หรือสารวัตรประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องงานสอบสวน มีผลงานคลี่คลายคดีสำคัญอุกฉกรรจ์หลายเรื่อง กระทั่งพี่เขาถอดเครื่องแบบออกไปเป็นบิ๊กกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปอยู่ ป.ป.ส. ไปเป็น รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปเป็นเลขา ศอบต.แก้ปัญหาใต้ ก่อนถูกย้ายมาเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ท่ามกลางกระแสปฏิรูปตำรวจด้วยการแยกงานสอบสวนออกไปนั้น ผมเคยสัมภาษณ์พี่วี สมัยเป็น รองปลัดยุติธรรม ถึงพระเครื่องในคอ และให้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้ควบคู่กับการในการทำงานของพนักงานสอบสวน ลองอ่านดูครับ_
พระเครื่องนักสืบ เครื่องรางนักรบ
ออกญาบุรีรัมย์
เอ่ยถึง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ หลายคนนึกถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตบิ๊กดีเอสไอ นายตำรวจชื่อดัง ที่ถอดเครื่องแบบสีกากี กลายเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมในขณะนี้
ผลงานการันตีฝีมืออดีต รองผู้บังคับการกองปราบปราม และอดีตอธิบดีดีเอสไอ คนจังหวัดอ่างทองคนนี้มีมากมาย
สมัยอยู่กองปราบปราม สางคดีลอบสังหารประธานศาลฎีกา คดีฆ่า 2 แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์ เมื่อย้ายมาอยู่ดีเอสไอ นอกจากคดีความมั่นคงที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ยังเป็นหัวเรือใหญ่คลี่คลายการหายตัวไปอย่างปริศนาของอดีตทนายสมชาย นีละไพจิตร และโมฮัมเหม็ด อัล-รูไวรลี นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียด้วย
เรื่องพระเครื่องคล้องคอคู่กาย พ.ต.อ.ทวีบอกว่า มีทั้งหมด 5 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระของพ่อ “นายบัวลก สอดส่อง”
“พ่อให้ตอนจบจากโรงเรียนนายร้อย มีพระสมเด็จวัดระฆัง พ่อบอกว่าตอนนั้นมีโรคอหิวาต์ระบาดก็เอาพระฝนใส่น้ำดื่ม องค์ที่ 2 เป็นพระอุปคุตเขมร
องค์ที่ 3 เป็นหลวงปู่ทวดพิมพ์เตารีด ปี 05 ได้มาตอนลงไปทำคดีกับ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ สมัยท่านเป็น ผบก.ป. องค์ที่ 4 เป็นพระยอดขุนพล กรุจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนที่เรียนด้วยกันให้มา และองค์สุดท้ายเป็นพระกริ่งคลองตะเคียน จำได้ว่าญาติให้มานานแล้ว…”
พ.ต.อ.ทวีบอกอย่างถ่อมตัว ไม่สันทัดเรื่องพระเท่าไหร่ แต่พระที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นพระใหม่พระเก่า แต่ถ้าเป็นพ่อแม่ให้มาก็ถือว่าสูงแล้ว
พระเครื่องที่สวมใส่ ทำให้มีสมาธิ ปัญญา สติ เวลาทำงาน บางครั้งต้องตัดสินใจ จะนำหลักศาสนา หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 ข้อมาใช้ เพราะการที่ท่านตรัสรู้ ถือว่าเป็นการสืบสวนค้นหาความจริงที่ยิ่งใหญ่
หลักธรรมข้อแรกคือ อริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค
ทุกข์ คือปัญหาหรือคดีที่จะต้องสืบสวนสอบสวน สมุหทัย คือสาเหตุแห่งความผิดหรือคดี นิโรธ สามารถหาสาเหตุ และนำไปสู่การสะสางคดี และมรรค คือการค้นหาสาเหตุแห่งความผิดด้วยวิธีการแห่งการสืบสวนสอบสวนต่างๆ
หลักธรรมข้อที่ 2 คนที่จะทำงานสอบสวน จะต้องมีพรหมวิหาร 4 หรือธรรม 4 ประการ คือ เมตตา หมายถึง การปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข กรุณา ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา หมายถึงความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี และอุเบกขา คือ การรู้จักวางเฉย
อดีตนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 37 บอกอีกว่า หลักธรรมข้อที่ 3 พนักงานสอบสวนต้องไม่มีอคติ หรือความอยุติธรรม 4 ประการคือ ฉันทาคติ คือจงใจสอบสวนผิด เพราะความลำเอียง หรือชอบกัน โทสาคติ จงใจสอบสวนผิดเพราะความโกรธ หรือเกลียดกัน ภยาคติ จงใจสอบสวนผิดเพราะความกลัว และโมหาคติ จงใจสอบสวนผิด เพราะไม่รู้จริง
หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 ประการ เป็นแนวคิดที่ล้ำค่าที่พนักงานสืบสวนสอบสวนจะต้องมีติดตัวและเป็นหลักยึดถือปฏิบัติในการทำงาน
ปัจจุบัน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม