พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง
เป็นตำรวจนักสืบอีกคน ที่นักข่าวหนุ่มน้อยอย่างผม วิ่งไล่ตามถ่ายภาพทำข่าวถลกมุ้งจับโจรตั้งแต่พี่เขายังยศ ร.ต.อ.
เวลาทำงานอย่างซื่อสัตย์ จาก ร.ต.อ.ตอนนั้น วันนี้พี่เมเกษียณฯมา3ปีแล้ว ในยศพล.ต.ต.ตำแหน่งรอง ผบช.ภ.1
วันนี้ย้อนกลับมาอ่านบันทึกที่ผมเคยสัมภาษณ์พี่เม สมัยเป็นผู้การจังหวัดปทุมธานี ถึงเรื่องปืนผาหน้าไม้ที่พี่เขาไว้ใช้จับโจรกันครับ
เขี้ยวเล็บมือปราบ /โรนิน
ศิษย์เอก “เชอร์ล็อก นู” ใช้“ไกทอง”และ “ยักษ์แคระ”ปราบโจร
ชีวิตราชการของพล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กว่าจะถึงตรงนี้ ประสบการณ์โชกโชนไม่ธรรมดา
ทั้งครอบครัวรับราชการเป็นครูหมด เจ้าตัวเกือบจะเป็นครูไปด้วย ขนาดเอนทรานซ์ติดคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้แล้ว ชีวิตยังหักเหมาเป็นตำรวจ
เข้าโรงเรียนพลตำรวจนครบาล จบมารุ่นที่ 44 ควบคู่กับการเรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก่อนใช้วุฒิปริญญาตรี เลื่อนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรยศ ร.ต.ต.
เห็นเก่งๆไล่จับโจร แต่พล.ต.ต.เมธี ยังเจียดเวลาเรียนหนังสือจนจบนิติศาสตร์ มหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
เส้นทางชีวิตนักสืบ เป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล อดีตผู้ช่วย อ.ตร. ฉายา “เชอร์ล็อก นู”มาตั้งแต่สมัยเป็นผบก.น.ใต้ หรือผู้การใต้
ย้ายมาอยู่กองปราบฯ เป็น 1 ในทีมงานคลี่คลายคดีฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ที่มี พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีตผบช.น.เป็นหัวหน้าชุด
เมื่อถามถึงเขี้ยวเล็บในการปราบปรามโจรผู้ร้าย อดีตนักสืบที่ผ่านงานสืบสวนมาทั้งกองปราบฯและนครบาลบอกว่า ชีวิตนักสืบใช้อยู่ 2 กระบอก
กระบอกแรก เป็น BROWNING ไกทอง ขนาด 9 มม. ซื้อมาตั้งแต่เป็นหัวหน้าสายสืบอยู่สน.พลับพลาไชย 1 และ 2 เดินคลุกอยู่กับบรรดานักเลงเยาวราช
เหตุที่ใช้ เพราะลูกดก มี 13 นัด ซื้อเมื่อประมาณปี 29-30 ราคาตอนนั้นอยู่ประมาณ 7 หมื่นบาทไปไหนมาไหน พกกระบอกเดียวอุ่นใจ
ปืนรุ่นนี้ ยังเหมาะกับคนรูปร่างอ้วน ท้วม ตัวใหญ่ เพราะพกด้านหน้ามันจะแนบพุง ไม่เกะกะ ลำเลื่อนแบนบาง รองนกสับไม่ยื่นยาวทิ่มพุงคนพก
ปิดซ่อนมิดชิด ซ้ำระบบเซฟตี้ยังดี ยิงไม่มีขัดลำ สำหรับกระบอกน้ี ปลิดชีพคนร้ายมาก็หลาย
ที่จำได้คือ เหตุการณ์ขณะเข้าล้อมจับ นายสนั่น หรือชาติ จินาพันธ์ อดีตมือปืนรับจ้างเบอร์ 1 ของภาคตะวันออก คู่ปรับพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5
สมัยท่านยังเป็นสารวัตรอยู่ที่สืบสวนใต้ ได้วิสามัญฆาตกรรม “ไอ้ช้าง” สมุนมือขวานายสนั่น ขณะที่ลูกพี่แหกวงล้อมหลบหนีไปได้ แต่มาถูกยิงตายในภายหลัง
ส่วนเขี้ยวเล็บกระบอกที่สอง เป็นปืน COLT.DEFENDER SERIES 90 ขนาด 11 มม. กระบอกนี้เขาเรียก “ยักษ์แคระ”
ซื้อตอนเป็นผู้บริหาร สมัยเป็นรองผู้การ 191 เป็นผู้บริหารแล้ว ไม่ต้องไปปล้ำไปจับโจรเอง
นักเลงปืนเพื่อนผม พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. แนะนำ กระสุนขนาด 11 มม. ปั๋งหงาย ปั๋งหงาย
พอเพื่อนแนะนำ เลยไปทดลองยิง มีสะบัด แต่คุมได้ รูปร่างเล็กกะทัดรัด จนเป็นที่มาของ ชื่อ “ยักษ์แคระ”
ถึงวันนี้เป็นนายพลเป็นผู้บริหารหน่วยแล้ว ยังไปซ้อมยิงปืนเสมอ เพื่อไม่ให้ปืนฝืด และให้คุ้นเคยกับเสียงปืน
เพราะถึงเวลาหรือเข้าสถานการณ์ บางคนได้ยินเสียงปืนถึงกับกระโดดสะดุ้ง มีให้เห็นเยอะแยะ อย่างน้อยต้องฝึกยิง 3 เดือนครั้ง ผู้การฯเมธีทิ้งท้าย….
เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2559 ในตำแหน่ง รองผบช.ภ.1