Wednesday, September 18, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันไซเบอร์5บุกค้น4 บริษัทเทรดหุ้นตปท.ทิพย์ ตุ๋นเหยื่อเสียหายรวมกว่า 70 ล้าน

    ไซเบอร์5บุกค้น4 บริษัทเทรดหุ้นตปท.ทิพย์ ตุ๋นเหยื่อเสียหายรวมกว่า 70 ล้าน

     

    ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 4 บริษัทเทรดหุ้นต่างประเทศทิพย์ รับจ้างจดทะเบียนบริษัทไว้ตุ๋นเหยื่อ แต่ไม่ได้ประกอบกิจการตามที่จดทะเบียนไว้ พบบางแห่งเป็นร้านชำ บางแห่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว แฉความเสียหายรวมกว่า 70 ล้าน ตำรวจขอศาลออกหมายจับ9รายจับกุมแล้ว4ราย

    วันที่ 24 ส.ค.67 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการพล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.สอท.5

    เข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้ง 4 จุด จุดที่ 1 บริษัท พี ซี อินเตอร์เนชั่นเนลเทรด จำกัด ตั้งอยู่พื้นที่ ม.9 ต.นาทับไฮ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย  จดทะเบียนเป็นบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่ว่ามีสภาพเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ในชุมชน มีโต๊ะเพียงแค่ 1 ตัวควบคุมตัวน.ส.พีรยา อายุ 25 ปี กรรการบริษัทมาสอบสวน

    จุดที่ 2 บริษัท แฟชั่นนิสต้า จำกัด  พื้นที่ ถนนมาบยา ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง จดทะเบียนการค้าเป็นบริษัทขายปลีกเสื้อผ้า แต่เป็นเพียงห้องแถวชั้นเดียวสำหรับพักอาศัย

    จุดที่ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรยา การค้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.วัดพริก อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก จดทะเบียนการค้าเพื่อจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูป อาหารสัตว์ แต่เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ไม่มีการประกอบกิจการค้า

    จุดที่ 4 บริษัท พรสินาพรรณ ทรานสปอร์ต จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จดทะเบียนการค้าเพื่อขนส่งสินค้าและคนโดยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่สภาพจริงเป็นร้านขายของชำ และบ้านพักอาศัย ไม่มีการประกอบกิจการบริษัท

    การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 ถูกกลุ่มมิจฉาชีพติดต่อเข้ามาทำความรู้จักบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และคุยกันต่อผ่านแอปพลิเคชัน Line จนสนิทสนม ต่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นต่างประเทศ อ้างว่าได้รับผลตอบแทนสูง จนผู้เสียหายหลงเชื่อและมีการโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหา รวม 9 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 3,730,000 บาท

    จากการสืบสวนทำให้ทราบว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้เปิดบัญชีธนาคารในรูปแบบบริษัทเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และใช้เป็นช่องทางรับโอนเงินที่ได้จากผู้เสียหาย เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า หลังจากเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีม้าของบริษัทแล้ว จะโอนเงินไปยังบัญชีม้าแถวอื่นๆ ในทันที

    โดยบัญชีม้าบริษัทที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ในครั้งนี้ ตั้งอยู่ใน จ.หนองคาย จ.ระยอง จ.พิษณุโลก และ จ.พระนครศรีอยุธยา และไม่มีการประกอบกิจการจริงจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นกลุ่มบริษัทดังกล่าว

    พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 เผยว่า ขณะนี้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไว้แล้ว 9 ราย  จับกุมได้แล้ว 4 ราย  เป็นกรรมการบริษัทและเปิดบัญชีธนาคาร โดยผู้ต้องหายอมรับว่าได้รับการว่าจ้างให้ไปจดทะเบียนพาณิชย์ในลักษณะห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือ บริษัทจำกัด เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่ง 1 คนต้องเปิดบัญชีธนาคารให้ได้  5 บัญชี โดยจะได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 7,000 บาท  ถือว่าสูงกว่าค่าจ้างเปิดบัญชีม้าในนามบุคคลธรรมดา

    ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมนายทุน และผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ  จากการตรวจสอบความเชื่อมโยงของกลุ่มบริษัทดังกล่าว พบว่ามีการหลอกลวงผู้เสียหายจากทั่วประเทศมีเหยื่อทยอยเข้าแจ้งความแล้ว 27 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 70,391,813 บาท

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวน.ส.พีรยา อายุ 25 ปี ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ซึ่งการกระทำผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 14,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments