ตำรวจไซเบอร์ร่วมกับกสทช.ปฏิบัติการล้มเสาสัญญาณ จ.นราธิวาส ชายแดนไทย-มาเลเซีย
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.68 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 นายสุธีระ พึ่งธรรม ผอ.สำนักกำกับดูแลโทรคมนาคม, นายวรรณะ เศรษฐพงศ์ ผอ.สำนักงาน กสทช.ภาค 4 นายสุทิน ทองมาก ผอ.กสทช. เขต 41 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช.โดย เขต 41 และหน่วยสืบสวนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9
เปิดปฏิบัติการ ล้มเสาสัญญาณชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่เสาสถานีสัญญาณโทรศัพท์ 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส, ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส และ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ตามนโยบายของรัฐบาลกำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรทางเทคโนโลยีเพื่อปกป้องเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ในการหลอกลวง ประชาชน จึงวางแผนในการป้องกันปราบปรามและตัดช่องโอกาสในการกระทำผิดของคนร้าย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายแดนไม่ให้มีการใช้อุปกรณ์สื่อสาร (sim box) เพื่อนำมาใช้เป็นอุปกรณ์โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย ตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลดระดับความแรงสัญญาณรับ-ส่งและลดระดับความสูงการติดตั้งแผงส่งสัญญาณ ปิดช่องโอกาสในการใช้อุปกรณ์สื่อสารจากประเทศเพื่อนบ้าน
มีการประชุมวางแผนประสานงานข้อมูลการสืบสวน วิเคราะห์แผนประทุษกรรมคนร้าย เกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ในการหลอกลวงผู้เสียหาย จนนำมาสู่แผนปฏิบัติการ “ล้มเสาสัญญาณชายแดนไทย-มาเลเซีย” ในพื้นที่เสาสถานีสัญญาณโทรศัพท์ 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส, ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส และ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของผู้เช่าสัญญาณโทรศัพท์ บูรณาการกำลังและเครื่องมือพิเศษ ปฏิบัติการในรูปแบบของ ONE TEAM ในพื้นที่ จ.นราธิวาส พบเสาสถานีสัญญาณโทรศัพท์ 3 แห่ง
เสาต้นที่ 1 ตั้งอยู่ ถนนเจริญเขต ซอย 5 ต.สุไหงโกลก อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส พบสายอากาศบางส่วนหันทิศไปทางประเทศเพื่อนบ้าน (ประเทศมาเลเซีย) และความแรงสัญญาณล้ำข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. แจ้งเตือนกำชับให้เร่งรัดดำเนินการปรับลดกำลังส่ง ปรับมุมเอียงของสายอากาศ ทั้งนี้ ได้ดำเนินการปรับปรุงสถานีฐานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และได้กำหนดระยะการให้บริการโดยใช้เทคนิคจำกัดรัศมีการให้บริการไม่ให้เกิน 200 เมตร จากจุดให้บริการเรียบร้อยแล้ว
เสาต้นที่ 2 ตั้งอยู่ ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส พบสายอากาศบางส่วนหันทิศไปทางประเทศเพื่อนบ้าน (ประเทศมาเลเซีย) และความแรงสัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ได้แจ้งเตือนกำชับให้ เร่งรัดดำเนินการปรับลดกำลังส่ง ปรับมุมเอียง ของสายอากาศ และกำหนดระยะการให้บริการโดยใช้เทคนิคจำกัดรัศมีการให้บริการเพื่อไม่ให้สัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
และเสาต้นที่ 3อยู่ บ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบสายอากาศบางส่วนหันทิศไปทางประเทศเพื่อนบ้าน (ประเทศมาเลเซีย) และความแรงสัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ได้แจ้งเตือนกำชับให้เร่งรัดดำเนินการปรับลดกำลังส่ง ปรับมุมเอียง ของสายอากาศ และกำหนดระยะการให้บริการโดยใช้เทคนิคจำกัดรัศมีการให้บริการเพื่อไม่ให้สัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.กำชับให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายต้องดำเนินการตามมาตรการที่สำนักงาน กสทช. กำหนดเกี่ยวกับการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมบริเวณชายแดนอย่างเคร่งครัด ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรการตามที่สำนักงาน กสทช. กำหนด จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
