พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร อดีตที่ปรึกษาพิเศษ ตร.
เป็นนักสืบมือปราบอีกคนที่ผมได้ยินชื่อเสียงสมัยผมยังเป็นนักข่าวเด็กๆติดตามผลงานพี่ศักดาปราบโจรอิสานมาโดยตลอด
แต่มาได้เจอได้คุยกับพี่เขาเมื่อวางปืนมาจับชอล์กเป็นครูใหญ่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน
วันนี้มาย้อนดูเขี้ยวเล็บจับโจรของพี่ศักดาที่ผมได้บันทึกไว้ในคราวนั้นกันครับ
ไม่ยิงอย่าชัก ชักแล้วต้องยิง
พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร มือปราบเลือดเดือดแห่งภาคอีสานที่ทิ้งปืนมาจับชอล์ก หันมาทำหน้าที่ครูใหญ่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ชีวิตราชการ พล.ต.ท.ศักดาเล่าว่า
เจ้าตัวฟื้นความหลัง ผลงานที่ทำแล้วเห็นเด่นชัด คือ ทำหน้าที่เป็นนักแม่นปืน
ช่วงนั้นผมยิงปืนได้ดี ยิงได้แม่น มีการพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด ปืนเอ็ม 16 ก็ไปหาติดลำกล้องที่มีคุณภาพสูงๆก็ไปสั่งไปหามา
ซื้อมาจากอเมริกา เอามาประกอบ มายิง มาซ้อม เคลียร์ไกใหม่ ซ้อมยิงด้วยตัวเอง เพื่อเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
ตอนนั้นยิงนักโทษที่จับตัวประกัน 12 คน ตายเรียบ มีพี่เสน่ห์ คำเที่ยง อดีตผู้การชลบุรี เป็นหัวหน้าทีม อีก 2 คนจำไม่ได้
กลายเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาไว้เนื้อเชื่อใจ จากนั้นมีปะทะคนร้ายอีกหลายครั้ง วิสามัญหลายครั้ง
ส่วนเขี้ยวเล็บติดตัว จริงๆแล้ว พอจบมาก็ใช้ Smith&Wesson .357 Model 686 ลำกล้อง 4 นิ้ว
สมัยนั้นมันดุเดือดมาก ผกค.กำลังกลายพันธุ์มาเป็นโจรปล้นเรียกค่าไถ่ตามชนบท ตามหมู่บ้าน ผกค.ที่มีอาวุธปืนกลายพันธุ์เป็นโจร
พอมาเป็น รอง ผกก.ป.เมืองขอนแก่น เปลี่ยนมาใช้Glock 26 เพราะพกง่าย สะดวก น้ำหนักเบา แมกกาซีนจุ 10 นัด
หลักใช้ปืนคือไม่ชักปืนออกมาเลย ไม่ยิงอย่าชัก ชักแล้วต้องยิง ไม่เคยชักปืน กลัวส่ายไปส่ายมา วิ่งไล่ตามคนร้าย ยังไม่ชักปืนออกมาเลย
Cop’s Magazine Vol.10 No.116 2016.04