114 ปี ขุนพันธ์ฯ ไอดอลนักสืบดังรุ่น 34
วันที่ 18 ก.พ.เมื่อวานนี้ ตรงกับวันคล้ายวันเกิด พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) นายตำรวจจอมขมังเวทย์ มือปราบในตำนาน เจ้าของคำพูด
” เป็นตำรวจ เหมือนยืนอยู่บนปลายเข็ม เหยียบหนักเจ็บมาก เหยียบเบาเจ็บน้อย คำว่าไม่เจ็บไม่มี มึงคิดดีแล้วหรอที่จะมาเป็นตำรวจ ใจมึงต้องหนักแน่นดั่งขุนเขา ถึงจะมาเป็นตำรวจได้ “
พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2549 ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ จะมีอายุ 114 ปี อย่างไรก็ตาม ถึงนายพลหนวดโง้งจะจากโลกนี้ไป11 ปี แต่ชื่อเสียงและเรื่องราวอันห้าวหาญในการปราบปรามโจรผู้ร้ายทั่วประเทศ รวมทั้งเครื่องรางของขลัง ต้นกำเนิดจตุคามอันลือลั่นยังถูกโจษขานเล่ากันถึงวันนี้ รายละเอียดค้นหาส่องได้จากกูเกิล
สำหรับนายตำรวจในยุคปัจจุบันที่มีขุนพันธ์เป็นไอดอลมีหลายคน โดยเฉพาะพล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม หรืิอนิตยบวรกุล ช่วยราชการ รองผบช.น. คนนี้ถือว่าเป็นทายาทตัวจริง นอกจากนี้ยังมีเพื่อนนายตำรวจรุ่น 34 อาทิ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขา ป.ป.ง. พล.ต.ท.ศัักดา เตชะเกรียงไกร ผู้ช่วยผบ.ตร. ในคอมีจตุคามรามเทพสวมใส่บูชากันทั้งนั้น
สำหรับ กากีกลาย เคยลงใต้ได้คุยกับ พล.ต.ต.สมชาย สมัยยังเป็น รองผบช.ภ.8 ที่ตั้งชุด “ราชเดช”อันลือชื่อแห่งภาคใต้ตอนบน เป็นชุดปฏิบัติการพิเศษเหมือนอรินทราข26 นเรศวร 261 และคอมมานโด กองปราบฯ โดยตอนหนึ่งที่ได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับขุนพันธ์ฯ พล.ต.ต.สมชายที่โด่งดังจากการเข้าเก็บกู้ระเบิดด้วยมือเปล่าที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชเล่า เมื่อ 16 มี.ค.2529ให้ฟังว่า
“จบมาใหม่ ร.ต.ต.เมื่อปี 2524 ที่นครศรีธรรมราช แห่งแรกที่ผมรับราชการ มีโอกาสไปกราบท่าน พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ตอนนั้นท่านเกษียณแล้ว กราบเพื่อเป็นสิริมงคล รับคำสั่งคำสอนของท่านมาเป็นแนวทาง หลังจากนั้นก็ได้ดูแลรับใช้ท่านใกล้ชิดในบางโอกาส ความที่ประทับใจในบุคลิกภาพ ความซื่อสัตย์ เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ได้ยึดถือเป็นแบบอย่างเชิดชู ตำรวจส่วนใหญ่เชิดชู ขุนพันธ์ เหมือนพระเกจิองค์หนึ่งในฐานะที่เป็นฆราวาส เมื่อมีจังหวะตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษนี้ขึ้นมา ก็ต้องการนามที่เป็นมงคลกับหน่วย บรรดาศักดิ์ของท่านขุนพันธ์ คือ พันธรักษ์ราชเดช จึงเอาข้างท้ายมาเป็นชื่อ เพื่อเป็นสิริมงคล…..”
“เด็กๆ ก็เชื่อถือ เมื่อรับการฝึกแล้วทุกคนทุกรุ่นจะได้รับเหรียญขุนพันธ์รุ่นมือปราบสิบทิศ ภายหลังก็จะเกิดปรากฎการณ์ลี้ลับมากมาย เด็กๆ ก็นับถือ คือสร้างในปีที่ท่านเสีย ตอนนั้นเป็นรองผู้การยครศรีธรรมราช สร้างเพื่อหารายได้สร้างอนุสาวรีย์ท่าน ได้เงินมาประมาณ 30 ล้าน ผมก็สร้างหอประชุมให้ท่าน ซื้อรถ ซื้ออะไร ระบบไอที เปลี่ยนหมด แล้วก็เหลือเงินสด 7 ล้านบาท ตั้งเป็นกองทุนไว้ส่งตำรวจเรียนแพทย์เท่านั้น คณะอื่นไม่เอา….”
นี่คือส่วนหน่ึงของบทสัมภาษณ์นายตำรวจมือปราบรุ่นใหญ่ที่มีขุนพันธ์ฯเป็นไอดอล ถ่ายทอดให้ฟังครับ
กากีกลาย19/2/60