Friday, June 13, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน191ทลายรังแก๊งคอลเวียดนามเช่าบ้านหรู2หลังตั้งฐานลวงรักตุ๋นเงิน

    191ทลายรังแก๊งคอลเวียดนามเช่าบ้านหรู2หลังตั้งฐานลวงรักตุ๋นเงิน

    191 บุกทลายรัง “แก๊งคอลเซนเตอร์” ข้ามชาติ จับเวียดนาม 27 ราย ตั้งฐานหมู่บ้านหรูย่านชานเมือง มูลค่าความเสียหาย 39 ล้านบาท

    วันที่ 10 มิถุนายน68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ

    นำกำลังตำรวจ 191 บุกทลายรังแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวเวียดนาม 27 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก ตั้งฐานหลอกลวงเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย มูลค่าเสียหายหลายล้านบาท

    พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า  ได้รับร้องเรียกจากประชาชนว่าพบกลุ่มชาวต่างชาติจับกลุ่มมั่วสุมกันเป็นจำนวนมาก ตำรวจสายตรวจ 191 ลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวนพบว่ามีบุคคลต่างด้าวเช่าบ้าน  2 หลัง ในหมู่บ้านหรูย่านชานเมือง และมีพฤติกรรมน่าสงสัยจึงได้ทำการขอหมายค้นเข้าตรวจสอบ

    หลังแรกพบบุคคลต่างด้าว 18 ราย และ หลังที่สองอีก 9 ราย เป็นหญิง 5 ราย และ ชาย 22 ราย รวมทั้งสิ้น 27 ราย พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 116 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 45 เครื่อง และยาเสพติด (เคตามีน) 5 กรัม

    พฤติการณ์กลุ่มชาวเวียดนามดังกล่าวเดินทางมาจากเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม และเข้ามายังประเทศไทยช่วงเดือนตุลาคม 2567  ใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เพียง 60 วัน  ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าผ่านด่านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว ก่อนที่จะจับกลุ่มกันเพื่อมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย

    รูปแบบการหลอกลวงใช้แผนประทุษกรรมเดียวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ Romance Scam เลือกกลุ่มเหยื่อเป็นชาวเวียดนาม สร้างโปรไฟล์ใช้รูปหน้าตาดี เป็นคนร่ำรวย ต้องการซื้อที่ดิน และประกอบอาชีพให้เหยื่อหลงเชื่อก่อนจะใช้คำหวานหว่านล้อมให้ตกหลุมรัก ก่อนจะหลอกให้โอนเงินตามภารกิจต่าง ๆ ที่วางไว้ ออกกลอุบาย

    อาทิ มีหนี้สินต้องชำระเพื่อให้เหยื่อเกิดความเห็นใจและโอนเงินให้การช่วยเหลือ สำหรับช่องทางที่ใช้ในการหลอกลวงเหยื่อผ่านแอปพลิเคชัน “Zalo” ซึ่งเป็นแชตไลน์ในประเทศเวียดนาม

    จากการตรวจสอบพบว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานแต่ละเครื่องจะมีผู้ต้องหานั่งประจำทุกเครื่องและผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงานโดยทั้งหมด 27 เครื่อง  ตรวจสอบข้อมูลพบว่าตั้งแต่ช่วงมีนาคม – ปัจจุบัน แต่ละเครื่องสามารถหลอกลวงได้ประมาณ 1,200 ล้านดองต่อเดือน ทั้งหมด 27 เครื่องอยู่ที่ 36,000 ล้านดองต่อเดือน รวมเป็นมูลค่าความเสียหายตีเป็นเงินไทย39 ล้านบาท

    จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีการเช่าบ้านตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม  ทั้ง 2 หลัง เช่าหลังละ 30,000 – 40,000 บาท  คนงานจะเข้ามาทำงานช่วงเดือนกุมภาพันธ์  มีรายได้อยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน

    หากหลอกได้สำเร็จจะได้เงินเพิ่มเติมประมาณ 25,000 บาท ต่อเดือน ผู้ต้องหาแต่ละคนจะแบ่งหน้าที่กันทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเชฟทำอาหาร ช่างไฟ ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์เมื่อเกิดปัญหาทันทีซึ่งจะขยายผลต่อไป

    อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และ ศูนย์ปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  มี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผอ.ศูนย์ฯ เบื้องต้นตำรวจจึงนำตัวและของกลางทั้งหมดส่งให้ พนักงานสอบสวน สน.ลำผักชี เพื่อดำเนินดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments