วันที่ 26 ม.ค. 66 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น1 อาคาร ฝอ. บก.สปพ. พล.ต.ต. โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.โรจน์นินทร์ ทองใบ รอง ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวกรณี “191 ปิดจ๊อบบังมัส เจ้าพ่อเครือข่ายพัสดุยานรก”
จับกุมผู้ต้องหา 5 รายนายถาวร อายุ 44 ปี , นายเปเล่ อายุ 47 ปี น.ส.สุพรรณรี อายุ 40 ปี นายวัลลภ หรือ “บังมัส” อายุ 37 ปี และนายสิงห์ณรงค์ อายุ 56 ปี
จับกุมได้ภายในร้านส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านนวลจันทร์ ต่อเนื่อง บ้านหลังหนึ่งในซอยประเสริฐมนูกิจ 42 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์เขตบึงกุ่ม กทม. ของกลาง ยาบ้า200,000 เม็ด ยาไอซ์ 6.33 กิโลกรัม ปืนพร้อมเครื่องกระสุน 3 กระบอก รถยนต์ 6 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า จากการขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่ใช้ช่องทางไปรษณีย์เอกชนขนส่งเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.66 จับกุมนายดลพร หรือ เจต โกลิยานนท์ อายุ 33 ปี และนายวัชระ หรือ โจ้ เชื้อมณี อายุ 45 ปี ยาบ้า 841,800 เม็ด ไอซ์ 9 กก. เคตามีน 4 กก. ปืนพร้อมกระสุน 1 กระบอก รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
จากการขยายผลทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีบังมัส เป็นหัวหน้า ลักลอบขนส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ นำกำลังไปสังเกตการณ์ พบนายถาวร นายเปเล่ น.ส.สุพรรณรี ใช้รถยนต์บรรทุกยาเสพติดซึ่งอยู่ในกล่องพัสดุ 4 กล่อง กำลังนำไปส่งที่ร้านส่งพัสดุแห่งหนึ่งย่านนวลจันทร์ พัสดุระบุนำส่งปลายทางไปยังจังหวัดภาคใต้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง3คน ตรวจยึดยาเสพติดของกลาง จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ซอยประเสริฐมนูกิจ 42 ถนนประเสริฐมนูกิจ พบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านอยู่จำนวนหนึ่ง และจับกุมนายวัลภล หรือบังมัส หัวหน้าเครือข่าย และนายสิงห์ณรงค์ เจ้าของบ้าน
สอบสวนทั้งหมดรับสารภาพ ไปรับยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้าน แล้วนำมาบรรจุลงกล่องพัสดุและกำลังจะนำส่งให้กับลูกค้าผ่านทางบริษัทส่งพัสดุเอกชน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจำหน่ายยาเสพติดที่ จ.ภูเก็ตแต่ภายหลังถูกทางการกดดันหนัก จึงหนีมากบดานที่กรุงเทพ แต่ยังมีเครือข่ายทางภาคใต้ ทำให้ลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าทางจังหวัดภาคใต้
จากนั้น พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ร่วมมอบเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ณ ห้องประชุมชั้น 2 บก.สปพ.