ลำดับเหตุการณ์ กลุ่มนักโทษก่อการจลาจลที่ เรือนจำบุรีรัมย์
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.63 เวลา 11.45 น.ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นภายในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์
นักโทษกว่า 100 คน รวมตัวกันก่อเหตุจลาจลและพยายามแหกคุก โดยมีเสียงปืน เสียงทุบสิ่งของ ทุบกำแพงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
มีไฟลุกไหม้ขึ้นภายในเรือนจำ มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นเป็นวงกว้าง มีนักโทษหลบหนีออกจากเรือนจำได้ประมาณ 5-10 รายอยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่
ข้อมูลเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ต้องขังประมาณ 1,800 คน แต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ มีเพียงประมาณ 100 คน ได้เริ่มพังห้องเยี่ยมญาติ
โดยทุบทำลายประตู กระจกภายในห้องเยี่ยมญาติ ได้รับความเสียหายแตกกระจัดกระจาย รวมถึงพื้นห้องที่เป็นกระเบื้อง ก็แตกพังเสียหาย นอกจากนี้ ยังทำลายสิ่งของอื่นๆ ภายในห้องด้วย
จากนั้นเรือนจำ ได้ขอกำลังสนับสนุน ทั้งตำรวจ ทหาร รถดับเพลิงของเทศบาล อบต. มทบ.26 และกู้ภัย กว่า 30 คัน พร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ช่วยกันระงับเหตุ รวมถึงตั้งด่านสกัดจับบริเวณโดยรอบทั้งหมด
จากข้อมูลผู้ต้องขังสามารถหลบหนีออกจากเรือนจำไปได้จำนวนหนึ่ง โดยต้องรอสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ต้องขังอาศัยใช้จังหวะที่ผู้คุมเรือนจำกำลังปรับปรุงห้องกักโรค โดยเผาทำลายโรงเลี้ยงอาหาร ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิต
สาเหตุการก่อจลาจลในครั้งนี้ น่าจะมาจากกลุ่มผู้ต้องขังจุดประเด็นว่ามีนักโทษในเรือนจำติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกลุ่มผู้ต้องขังนี้ ยังถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มนักโทษหนัก
– เวลา 15.00 น.มีกลุ่มผู้ต้องขัง จุดไฟเผาเรือนนอน ที่มีจำนวน 3 เรือนนอน จนเกิดควันคลุ้ง และไปส่งผลกระทบกับนักโทษคนอื่น ที่อยู่ตามกรอบ ทำให้สำลักควัน จนต้องนำผู้ต้องขัง ออกมาใหม่ทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการย้ายนักโทษหญิงทั้งหมด ไปยังเรือนจำนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
สิ่งที่เกิดความเสียหายจากเหตุการณ์คือ โรงอาหาร ห้องทนาย ห้องบัญชี ห้องเยี่ยมญาติ และห้องผู้ต้องขังใหม่ ซึ่งถูกเผาทั้งหมด
โดยเรือนจำบุรีรัมย์ มีพื้นที่ 9 ไร่ มีแดนเดียว ส่วนผู้ต้องขังที่มีปัญหา มีประมาณ 100 คน นักโทษส่วนใหญ่กลัวเรื่องโควิด-19
ประกอบกับมีผู้ต้องขังใหม่อีกคน ที่ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ปลุกปั่นให้เกิดเหตุการณ์
เจ้าหน้าที่ได้ทำการต่อรอง โดยผู้ต้องขังด้านใน ก็กดดันกันเป็นกลุ่มๆ
เหตุการณ์กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง ส่วนตัวเลขผู้ต้องขังที่สามารถหลบหนีไปได้นั้น ขณะนี้ ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะผู้ต้องขังมีจำนวนมาก และยังเกิดความวุ่นวายอยู่
– เวลา 15.45 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ,พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.3 , พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 ,พล.ต.ปวิศ บุญสุทธิ ผบก.สส.ภ.3 พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.3
ร่วมประชุมบริหารสถานการณ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว และได้เตรียมความพร้อมของกำลังตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ตรึงกำลังไว้อย่างเข้มงวด
– เวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมสถานการณ์ได้ แม้จะมีเปลวเพลิงเกิดขึ้นในเรือนนอนหญิง แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ควบคุมเพลิงสงบในระดับหนึ่ง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ย้ายนักโทษชาย สูงอายุ และนักโทษที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด
ไปฝากขังที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา 500 คน, เรือนจำคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา 100 คน และเรือนจำจังหวัดสุรินทร์ 100 คน
จนท.รอเข้าตรวจสอบพื้นที่ด้านในเรือนจำ ยังมีผู้ต้องขังที่เป็นผู้ก่อเหตุอยู่ภายในเรือนจำ และจับกุมผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำได้คือ
1. นายกิตติพล สังวาลรัมย์ หรือต้น อายุ 29 ปี เลขที่ 72 ม.11 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จว.บร.
2. นายกฤษดา ทองสิมมา หรือแม็ก อายุ 23 ปี เลขที่ 4 ม.6 ต.หนองตาด อ.เมือง จว.บร.
3.นายนครินทร์ เพ็งสอน หรือหรั่ง อายุ 21 ปี เลขที่11 ม.3 ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
4.นายอนุรัตน์ ผาดชัยภูมิ หรือมนต์ อายุ 27 ปี เลขที่ 195 ม.2 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
เหลือหลบหนีได้ 1 นาย คือ 1. นาย ธันยพงศ์ สินพูน หรือนพ อายุ 26 ปี เลขที่ 28 ม.5 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จว.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามกำลังตามตัวอย่างต่อเนื่อง
– เวลา 19.30 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ , พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. , พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ,
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3, นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, พลตรี ศราวุธ มาศิริ ผบ.มทบ.26, พล.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์
ร่วมแถลงความคืบหน้าของเหตุการณ์นักโทษก่อเหตุจลาจล ภายในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำได้ทั้งหมด
