ผบ.ตร.ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ส่งตำรวจบูรณาการทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือประชาชนเหตุน้ำท่วม 7 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะยะลา นราธิวาส เดือดร้อนกว่า 10 อำเภอ พร้อมคุมเข้ม ตรวจตรา ป้องกันอาชญากรรมซ้ำเติมประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติ เน้นย้ำผู้บังคับบัญชาดูแลครอบครัวตำรวจที่ได้รับผลกระทบด้วย
วันที่ 25 ธ.ค.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดในภาคใต้ว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 15 (321/2566) ส่งผลให้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากตามที่มีการเสนอข่าวนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มกำลัง
ได้สั่งการด่วนกำชับตำรวจดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้พบว่ามีฝนตกหนักใน 7 จังหวัด ได้แก่ สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาสและยะลา ได้รับผลกระทบมาก มีบ้านเรือนได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 อำเภอ 36 ตำบล 134 หมู่บ้าน
สั่งการให้ ผบช.ภ.8 และ ผบช.ภ.9 กำชับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นหัวหน้ารับผิดชอบการปฏิบัติของตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ คอยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยเกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยวางแผนให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่
พื้นที่ประสบภัยพิบัติ ที่พี่น้องประชาชนต้องละทิ้งบ้านพักที่อยู่อาศัย นำทรัพย์สิน ยานพาหนะมาเก็บไว้ที่สูงตามศูนย์อพยพ ไหล่ทาง ผิวถนนต่างๆ ให้พิจารณามาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสทำผิดต่อทรัพย์สิน เครื่องมือเกษตร หรือกระทำอื่นใดอันเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชน กรณีในเขตพื้นที่เมือง ศูนย์อพยพให้พิจารณาการตั้งจุดตรวจป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้อพยพจำนวนมาก
ให้จัดชุดมวลชนชุมชนสัมพันธ์ จิตอาสา สำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แล้วบูรณาการกับทุกภาคส่วนให้ความช่วยเหลือ กรณีสถานีตำรวจ บ้านพักตำรวจและครอบครัวได้รับความเสียหาย ให้รวบรวมรายงานเพื่อ ตร.จะได้เร่งช่วยเหลือต่อไป
ให้ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ ตำรวจ ตชด. สกบ. ให้สนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ ยานพาหนะ กองบินตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมการอพยพช่วยเหลือประชาชน ตำรวจ รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือทางการแพทย์
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหมายเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.
