เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ(ผบก.สปพ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เปิดเผยถึงความพร้อมในการทำงานของ กองกำกับการเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดหรือ อีโอดี บก.สปพ.ว่าช่วงระยะที่ผ่านมามีเหตุระเบิดเป็นการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดีหลายแห่ง แต่การปฏิบัติหน้าที่ของ อีโอดีมีความพร้อมในการเข้าถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็วในการทำงานแม้บุคลากรในหน่วยยังขาดอีกจำนวนหนึ่งไม่เพียงพอตามความต้องการในการปฎิบัติหน้าที่
ผบก.สปพ. กล่าวอีกว่าสำหรับอุปกรณ์ในการทำงานของหน่วยอีโอดี ยังขาดอีกมากจึงให้ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด เสนอมา โดยตนได้เสนองบประมาณจัดซื้อ”วอล์คทรู” คือเครื่องสแกนวัตถุระเบิดเพิ่มเติม 200 เครื่อง วอล์คทรูเป็นเครื่องมือสำคัญ ปัจจุบันมีแต่ไม่พอใช้ในการปฏิบัติภารกิจ โดยในปัจจุบันใช้ประจำจุดคัดกรองบริเวณรอบท้องสนามหลวง และบางครั้งต้องกับใช้ภารกิจพิเศษ และจัดซื้อรถยนต์ป้องกันระเบิด จำนวน 1 คัน โดยรถยนต์ดังกล่าวมีศักยภาพในการเก็บวัตถุต้องสงสัยได้น้ำหนักถึง 8 กิโลกรัม หรือสามารถทำลายล้างระเบิดกล่องที่ติดตั้งในรถได้ทันที ซึ่งมีมูลค่าคันละกว่า 40 ล้านบาท ส่วนกำลังพลที่ขาดในหน่วยทาง บก.สปพ.จัดโครงการอบรมบรรจุเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดีโดยผู้ที่ผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติในพื้นที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระยะเวลา 6 เดือน หากอบรมผ่านก็จะขออนุมัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เพื่อแต่งตั้งเป็นหน่วยอีโอดี แทนตำแหน่งที่ยังขาดแคลน
